>>หนังสือ ‘เถ้าแก่ (ข้างถนน) สอนลูกรวย’ งานเขียนจากบทเรียนชีวิตของ ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ อดีตเซียนหุ้นและเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ผู้เจอบททดสอบชีวิตด้วยพิษวิกฤตเศรษฐกิจจนถึงขั้นล้มละลาย จากรวยร้อยล้านกลายเป็นหนี้พันล้าน แต่ไม่ยอมแพ้ในโชคชะตา ลุกขึ้นสู้ใหม่อีกครั้งด้วยการเริ่มขายแซนด์วิชริมถนน ขยายสู่การสร้างธุรกิจ จนประสบความสำเร็จได้อย่างสง่างาม หนังสือเล่มนี้จึงรวบรวมเรื่องราวต่างๆ เป็นบทเรียนที่ใช้สอนลูก สอดแทรกการบริหารธุรกิจ รวมถึงสัจธรรมชีวิตต่างๆ เปรียบเสมือน “คู่มือธุรกิจ” และ “คู่มือชีวิต” พร้อมแรงบันดาลใจให้นำไปปรับใช้ได้กับทุกธุรกิจ ซึ่งน้อยคนนักที่จะกล้าเปิดเผยกลเม็ดเคล็ดลับอย่างหมดเปลือกเช่นนี้
ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ ล้วนเป็นที่ปรารถนาของทุกๆ คน แต่จะมีสักกี่คนที่ยืนหยัดอยู่ได้บนความสำเร็จ หากไม่โดนมรสุมของพิษเศรษฐกิจชีวิตความล้มเหลวคงไม่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับ ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ ที่ชีวิตพลิกผันจนถึงขั้นล้มละลาย เมื่อครั้งวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี 2540 แต่ความคิดที่ย้ำเตือนใจตลอดเวลาคือ ไม่ยอมแพ้แม้หมดหวัง ซึ่งเป็นจุดพลิกชีวิตให้ก้าวเดินสู่การสร้างธุรกิจด้วยตัวเอง และเป็นการเริ่มต้นสร้างธุรกิจที่จะอยู่อย่างยั่งยืนในอนาคต หากแต่ความสำเร็จก็ใช่จะได้มาง่ายๆ หากยืนรออยู่กับความคิดเดิมๆ ไม่รู้จักเปลี่ยนแปลงความคิดตัวเอง ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ ได้ทำให้เห็นจนเป็นที่ประจักษ์ และนำมาสอนเป็นบทเรียนการก้าวสู่เถ้าแก่
หนังสือ ‘เถ้าแก่ (ข้างถนน) สอนลูกรวย’ ได้รวบรวมเรื่องราวต่างๆ เป็นบทเรียนที่ใช้สอนลูก โดยมีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย กระชับแบบจบในตอน สอดแทรกการบริหารธุรกิจ ต้นทุน การเงิน การโฆษณา รวมถึงสัจธรรมชีวิตต่างๆ ประสานกับแง่คิดดีๆ สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริง เช่น กำลังใจลูกหนี้ โชคดีที่ล้มตั้งแต่ตอนนั้น บทเรียนเรื่องเถ้าแก่รุ่นใหม่ ต้นทุนอยู่ที่ตัวเรา ฯลฯ
ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ กล่าวว่า “หนังสือเล่มนี้เป็นการถ่ายทอดแนวการต่อสู้ชีวิตที่ผมใช้ และอยากแบ่งปันแนวทางการต่อสู้ชีวิตให้กับทุกๆ คน พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้อย่าท้อแท้ ต้องอดทนและมีความพยายามที่จะดำเนินชีวิต ความตั้งใจที่จะไม่ยอมแพ้ จะเป็นเสมือนไม้ค้ำยันให้เราลุกขึ้น และยืนหยัดอย่างแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง มร.คริส แพทเทิร์น อดีตผู้ว่าการเกาะฮ่องกง เคยมาสัมภาษณ์ผมตอนยืนขายแซนด์วิชอยู่ข้างถนน เพื่อทำสารคดี BBC World ท่านบอกผมว่า รู้จักนักธุรกิจที่ฮ่องกง รวยกว่าผมหลายเท่า แต่เขาไม่มีความกล้าที่จะยอมรับสภาพเหมือนผม ในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา หลายคนถามผมว่า มีคติอะไรที่ให้กำลังใจได้บ้าง สิ่งที่ผมบอกก็คือ อดีตนั้นเราแก้ไขไม่ได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของเราได้ ทั้งหมดอยู่ที่ตัวเรา ผมเองไม่เคยคิดว่า วันหนึ่งผมจะเป็นบุคคลล้มละลาย ต้องมาขายของข้างถนน แต่พอถึงนาทีนั้นเราต้องสลัดทิ้งให้หมด ตัวเราจะเบาและโล่ง ช่วงแรกๆ ที่ผมมาขายแซนด์วิช ผมก็ขายแทบไม่ได้ แต่ผมสู้ แล้วลูกค้าก็บอกกันปากต่อปาก เป็นพลังที่ทำให้เราเติบโตได้ สิ่งที่ผมคิดเสมอคือ ไม่ว่าทำธุรกิจอะไร จะต้องมีสัจจะ คุณธรรม และความซื่อลัตย์ ทำอะไรรุ่งแน่นอน ถึงแม้ขณะนี้ผมจะยังไม่ได้บรรลุถึงเป้าหมายที่ต้องการ แต่การเดินทางที่ผ่านมากว่า 17 ปีนั้น ผมพยายามผลักดันผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลผลิตของแผ่นดินไทย และผลิตภัณฑ์มีอายุยาวขึ้น นอกเหนือจากศิริวัฒน์แซนด์วิชที่ยังมีขายอยู่ สดทุกวัน และมุ่งมั่นที่จะทำให้ได้สมดังความตั้งใจเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้”
บัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ให้คำนิยมไว้ว่า “ความเพียร ความเข้มแข็ง ความมีวินัย และความใฝ่ในการเสริมสร้างปัญญา คือ คาถาแห่งความอยู่รอดและความเจริญก้าวหน้า ที่ คุณศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ ได้เสกให้กับชีวิตของตนเองและครอบครัวผู้เป็นที่รัก อันเป็นเรื่องราวที่เล่าขานถึงมากที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ของวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งของปี 2540 ก็สมควรแล้วต่อการคารวะ หากคุณศิริวัฒน์ยังมีเมตตาถ่ายทอดออกมาเป็นตำราที่กลั่นมาจากหยาดเหงื่อและน้ำตา เพื่อเป็นทั้งคำสอนและอุทาหรณ์ เป็นวิทยาทานอันล้ำค่า ต่อชนทั้งหลายที่อาจจะต้องพึ่งคาถาเหล่านี้บ้างในเส้นทางแห่งวิบากของชีวิต”
นพ.ชวลิต อนวัชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคล อินดัสทรี แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ตรา Nutri และ CAL กล่าวว่า “การต่อสู้ของคุณศิริวัฒน์ที่ผ่านมา ย่อมพิสูจน์ได้ว่า คนเราหากไม่ยอมสยบต่อโชคชะตาที่ตนได้รับแล้ว ย่อมมีสักวันจะเป็นวันของเรา นับเป็นแบบอย่างหรือต้นแบบที่ดีให้แก่บุคคลที่ประสบปัญหาไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม หากคิดจะสู้กับมันและไม่ยอมปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตาแล้ว ย่อมมีโอกาสที่จะลุกขึ้นยืนได้อย่างสง่างามเช่นคุณศิริวัฒน์ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ผมได้รู้จักกับคุณศิริวัฒน์มาเป็นเวลานาน กล่าวได้เลยว่า คุณศิริวัฒน์เป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถแปลงวิกฤตให้เป็นโอกาส มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานอย่างจริงจัง และยึดมั่นในสัญญา นอกจากนี้ยังเป็นบุคคลที่ไม่ติดยึดและติดดินเสมอ หนังสือ ‘เถ้าแก่ (ข้างถนน) สอนลูกรวย’ เล่มนี้ ผมได้อ่านแล้ว เห็นว่าเนื้อหาสาระดีมาก เป็นหนังสือที่ดีที่จะช่วยจุดประกายพลังแห่งความคิดให้กับทุกคน ไม่ว่าผู้นั้นจะประสบปัญหา หรือยังไม่เคยประสบปัญหามาก่อนก็ตาม นอกจากนี้แล้วยังเป็นการให้กำลังใจและชี้ช่องทางในการต่อสู้ ตลอดจนเป็นต้นแบบของการต่อสู้ชีวิตให้แก่ผู้ประสบปัญหาทางด้านการเงินอีกด้วย”
หนังสือ ‘เถ้าแก่ (ข้างถนน) สอนลูกรวย’ ราคา 145 บาท วางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ และร้านดีบุ๊คส์ สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี ชั้น 22 อาคารอัมรินทร์พลาซ่า (บีทีเอสชิดลม) หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ www.dmgbooks.com, www.dbooks4u.com สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0-2685-2255 :: Text by FLASH