xs
xsm
sm
md
lg

สัมผัสอาหารไทยแปลกใหม่ที่ร้านโอชา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เชฟหนุ่ม
“โอชา” หมายถึงรสชาติของอาหารที่อร่อยถูกปาก แต่ร้านโอชา( OSHA) บนถนนวิทยุ มีมากกว่าความอร่อย เพราะเบื้องหลังของอาหารแต่ละจานนั้น เชฟหนุ่มผู้รังสรรค์ขึ้นมาต้องสามารถผสมผสานความเป็นอาหารไทยให้เข้ากับสไตล์โมเลคูล่า กาสโทรโนมีที่เขาถนัด ออกมาเป็นอาหารจานโอชาสมกับชื่อร้าน



โอชาเป็นร้านอาหารไทยที่มีคนไทยเป็นเจ้าของที่นำรสชาติอาหารไทยไปโด่งไปดังถึงซานฟรานซิสโก จนมีถึง 9 สาขา และวันนี้ถึงเวลาที่โอชาจะนำตำนานอาหารไทยจากต่างแดนกลับมาให้คนไทยได้ลิ้มลองกันบ้าง
โดยมอบให้เชฟหนุ่ม - ธนินธร จันทรวรรณ ผู้ซึ่งสั่งสมประสบการณ์ในการทำอาหารมามากกว่า17 ปี จากร้านอาหารชื่อดังในกรุงลอนดอนมากกว่า10 ร้านโดยเฉพาะร้านที่ได้รับการการันตีรางวัลมิชลินสตาร์ อีกทั้งยังมีโอกาสได้ร่วมงานกับเชฟที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย อาทิ Gordon Ramsay และ Heston Blumenthal เป็นต้น และสำหรับแฟนรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทยคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาเชฟหนุ่มคนนี้เพราะเขาเป็นหนึ่งในชเฟประจำรายการด้วย

มาร้านโอชาจะได้สัมผัสประสบการณ์อาหารไทยแปลกใหม่โมเดิร์น ที่เลือกใช้วัตถุดิบพรีเมี่ยม และนำศาสตร์โมเลคูล่าหรือหลักการทางวิทยาศาตร์เข้ามาช่วยในการปรุงแต่งและพรีเซ็นต์ให้หน้าตาของอาหารแต่ละจานดูทันสมัยแปลกตาจากเดิม ๆ แต่ยังคงรสชาติของความเป็นอาหารไทยดั้งเดิม
อาหารที่ขึ้นชื่อซึ่งใครมาที่ร้านโอชาฟากฝั่งอเมริกาจะต้องสั่งคือ ปลาหมึกผัดไข่เค็ม (Squids & Salted Egg) เมนูนี้คุ้นตาและคุ้นลิ้นคนไทยอยู่แล้ว เชฟหนุ่มสร้างความแปลกตาให้กับเมนูนี้ด้วยการนำปลาหมึกมาชุบแป้งทอดให้กรอบชั้นหนึ่งก่อนค่อยนำมาผักคลุกเคล้ากับไข่เค็มไชยาที่ให้ความมันและสีเหลืองน่ารับกินมาก จัดวางบนภาชนะกะลามะพร้าวและเพิ่มความสนุกสนานด้วยวิธีการรมควันจากมะพร้าวคั่วไว้ด้านล่าง เวลาเคี้ยวปลาหมึกจะได้ทั้งความหวานของเนื้อปลาหมึกที่สด ความมันของไข่เค็มและความหอมอ่อน ๆ ของกลิ่นมะพร้าวคั่วอย่างครบเครื่อง

อีกจานเด็ดของร้านนี้คือ “กุ้งแช่น้ำปลา” ความพิเศษอยู่ที่น้ำยำรสจัดจ้านปรุงจากกระเทียม พริกขี้หนูสวน และมะนาวสด ที่ราดบนกุ้งสด ๆ นั้น ใช้ลิควิดไนโตรเจนทำให้น้ำยำกลายเป็นซอร์เบย์( ไอศกรีมผสมไม้ล้วนที่ไม่ใส่นมและไข่)เมื่อตักเข้าปากพร้อมกับเนื้อกุ้ง ความเย็นของน้ำยำที่ละลายจะปล่อยรสชาติที่แซบออกมาค่อย ๆ กำซาบเข้าสู่ลิ้นให้รับรู้ถึงความอร่อย
“หอยนางรม”หรือออยสเตอร์สดที่เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยนั้น เมนูนี้เชฟจัดให้สำหรับคนที่ไม่ชอบกินหอยนางรมสด ๆ เพราะนำไปPoachedหรือต้มไฟอ่อนให้เนื้อหอยสุกแต่ยังได้เนื้อสัมผัสของหอยที่สดอยู่ สำหรับหอยนางรมตัวใหญ่เนื้อแน่นนั้นมาจากสุราษฎร์ทะเลทางใต้ของเมืองไทยนี่เอง เพิ่มความแปลกสไตล์โมเลคูล่าด้วยการนำน้ำยำที่ปรุงจากเหล้ามิลิน สาเก โยเกิร์ต และเติมความเปรี้ยวด้วยน้ำมะกรูดแทนการใช้มะนาวเพื่อเพิ่มความหอม ทั้งหมดตีเป็นโฟมสีขาวฟองละเอียดวางอยู่บนเนื้อหอย

ทีเด็ดของเมนูนี้ยังมีการซ่อน “ใบหมาน้อย” สมุนไพรพื้นบ้านที่ช่วยเรื่องท้องอืด นำใบหมาน้อยมาขยำจนกลายเป็นเมือกแทนเจลลี่ของฝรั่ง
อาหารไทยยังมีหเลือกอร่อยอีกหลายจาน อาทิ มัสมั่นแกะ ฉู่ฉี่ลอบสเตอร์ ผัดไทย แกงเขียวหวานเนื้อกินกับโรตี ฯลฯ. แต่ที่พลาดไม่ได้คือ “ ข้าวกล้องออร์แกนิก” ทีเด็ดอยู่ที่หุงด้วยน้ำมะพร้าวในลูกมะพร้าวแบบสตรีม(นึ่ง) ทำให้ได้ทั้งกลิ่นหอมของน้ำมะพร้าวและความนุ่มละมุนของข้าวซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้านนี้ทีเดียว

บรรยากาศของร้านโอชาตกแต่งแบบไทยโมเดิร์นที่เลิศหรูอลังการตั้งแต่ประตูทางเข้าเป็นรูปวาดฝาผนังพร้อมแสงสีช่วยทำให้ถนนวิทยุในยามค่ำที่เคยเงียบสงบกลายเป็นมีสีสันเรียกความสนใจของผู้คนที่ขับรถผ่านได้
ส่วนภายในนั้นเน้นโทนเหลืองสีทอง แดงและดำเพื่อความหรู วิจิตรตระการตาด้วยเทคนิค 3 D กราฟฟิคซึ่งเป็นภาพวาดบนฝาผนังและเพดานที่เคลื่อนไหวได้ ส่วนโถงบันไดที่สูงนั้นมีแชนดาเลียรูปชฎาขนาดใหญ่สีทองอร่ามกลายเป็นจุดเด่นที่ลูกค้าจะต้องมาถ่ายรูปทุกคน
ร้านโอชาตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ปากซอยร่วมฤดี เปิดบริการทุกวัน สนใจสำรองที่นั่งโทร.ที่ 0-2256-2534






กำลังโหลดความคิดเห็น