>>หากใครที่ชอบอ่านนิตยสารและติดตามความเคลื่อนไหวของแวดวงนี้อยู่เรื่อยๆ ครั้งหนึ่งคุณคงคิดว่าวงการ “นิตยสารผู้หญิงหัวนอก” นั้นมีการแข่งขันกันสูงจริงๆ แต่วันนี้เราอยากให้คุณลองไปดูอีกหนึ่งการแข่งขันที่ดุเดือดไม่แพ้กันนั่นก็คือการแข่งขันของ “นิตยสารผู้ชายหัวนอก”!!
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการหลั่งไหลเข้ามาของนิตยสารหัวนอก ทั้งของผู้หญิงและผู้ชายหลายสัญชาติไม่ว่าจะเป็นจากทางฝั่งเอเซีย ยุโรป และอเมริกา แต่ในขณะเดียวกันก็มีการดับไปของนิตยสารหัวนอกอยู่หลายฉบับเช่นกัน อย่างไรก็ดีวันนี้ก็ยังคงมีการเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นที่น่าจับตามองหนึ่งปรากฎการณ์ก็คือ การสู้กันอย่างรุนแรงของ “นิตยสารผู้ชายหัวนอก” ที่ดูว่าจะดุเดือดแต่ละค่ายงัดกลยุทธ์การต่อสู้กันชนิดแลกหมัดต่อหมัด!!
สำหรับ “นิตยสารผู้ชายหัวนอก” ในประเทศไทยนั้นมีหลายฉบับให้เห็น เริ่มตั้งแต่รุ่นแรกๆ อย่าง Esquire จากนั้นก็ค่อยๆ มีตามเข้ามาอีกไม่ว่าจะเป็น ELLE MEN, L’Optimun และที่มาถึงจุดประทุของวงการ “นิตยสารผู้ชายหัวนอก” เมื่อบริษัท เซเรนดิพิตี้ จำกัด ผู้บริหารนิตยสารโว้ก ประเทศไทย ประกาศว่าจะนำนิตยสาร GQ นิตยสารสำหรับผู้ชายสัญชาติอเมริกัน มาทำเป็นภาษาไทยให้ผู้ชายไทยที่มีรสนิยมได้อ่านกัน ทำให้หลายๆ เล่มเกิดการขยับไม่ว่าจะเป็นการสร้างความแตกต่างให้กับคอลัมน์ที่อยู่ในนิตยสาร หรือการหากลยุทธ์ตลาดด้านต่างๆ เข้ามาเสริมกับนิตยสารเพราะการจะขายนิตยสารในรูปแบบของรูปเล่มอย่างเดียวในขณะนี้คงจะเป็นเรื่องธรรมดาไปสักนิด เนื่องจากพฤติกรรมผู้อ่านในปัจจุบันหันไปเสพสื่อออนไลน์กันมากขึ้น ดังนั้นหลายๆ ครั้งจึงพบว่าผู้ประกอบการนิตยสารต่างๆ ได้หันมาให้ความสำคัญกับสื่อด้านนี้มากขึ้น
นอกจากการเร่งให้ความสำคัญกับการโปรโมทในสื่อดิจิตอลแล้ว การโปรโมทในส่วนของการตลาดในเชิงการจัดอีเว้นท์ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน หากโฟกัสให้เห็นกันชัดๆ ก็เมื่อเร็วๆ นี้ที่มีการแลกหมัดกันไประหว่างนิตยสารผู้ชาย GQ และ L’Optimun ที่ต่างฝ่ายต่างพากันจัดปาร์ตี้เพื่อสร้างเรื่องราวท็อกส์ออฟเดอะทาวน์ เริ่มจาก นิตยสาร GQ จัดปาร์ตี้เปิดตัวในสถานที่เก๋ๆ ที่ใครๆ กำลังนิยมจัดงานสุดพิเศษอย่างที่ไปรษณีย์กลาง บางรัก ในบรรยากาศปาร์ตี้ Grooming ของคุณผู้ชาย อาทิตย์ถัดมาตามด้วยงาน ‘L'Optimum Cool Boys’ ฉลองครบรอบ 1 ปี นิตยสาร ลอปติมัม ไทยแลนด์ (L’Optimum Thailand) ในบรรยากาศของการต่อสู้บนสังเวียนของลูกผู้ชายแมนๆ ซึ่งทั้งสองงานต่างรวบรวมคนในวงการหนังสือและวงการแฟชั่นมาได้อย่างล้นหลามชนิดที่ว่าใครพลาดสองงานนี้คงไม่มีเรื่องเม้าท์กับเพื่อนๆ ในวันรุ่งขึ้น
ซึ่งหากย้อนให้เห็นแบ็กกราวน์กันสักนิดเกี่ยวกับการต่อสู้อย่างดุเดือดของทั้งสองเล่มนี้ เริ่มจากนิตยสาร GQ ที่อยู่ในเครือเดียวกับนิตยสารโว้กนั้นมี กุลวิทย์ เลาสุขศรี เป็นบรรณาธิการบริหารนิตยสารโว้ก ประเทศไทย ส่วนนิตยสาร ลอปติมัม ไทยแลนด์ ก็มีเจ้าแม่นิตยสารหัวนอกอย่างกุสุมา ไชยพร เป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณานิตยสารลอปติมัม ประเทศไทย ซึ่งทั้งสองเคยเป็นคนคุ้นเคยกันมาก่อนในสมัยที่มีทำนิตยสารแอล ฉบับภาษาไทย มาด้วยกัน เพราะกุสุมา ไชยพร เคยนั่งตำแหน่งบรรณาธิการความงามให้กับนิตยสารแอล ฉบับภาษาไทย และกุลวิทย์ เลาสุขศรี ก็เคยนั่งตำแหน่งบรรณาธิการแฟชั่นให้กับนิตยสารแอล ฉบับภาษาไทยด้วยเช่นกัน แต่ด้วยเหตุผลบางประการที่รู้กันแค่สองคนก็ทำให้ต้องมีการแยกย้ายกันไป โดยกุสุมาได้ย้ายสังกัดไปอยู่กับนิตยสารหัวนอกฉบับอื่น จนกระทั่งถึงวันที่เธอเลือกหยิบ “นิตยสารลอฟฟิเซียล” นิตยสารผู้หญิงหัวนอก และ “นิตยสารลอปติมัม” นิตยสารผู้ชายหัวนอก มาทำด้วยตัวเอง จากนั้นก็ถึงเวลาที่กุลวิทย์ เลาสุขศรี ก็ออกมาทำของตัวเองบ้าง โดยเริ่มจาก “นิตยสารโว้ก” และต่อด้วย “นิตยสาร GQ” สองหัวนิตยสารผู้หญิงและผู้ชายระดับโลกที่ทุกคนต่างจับตามอง และนั่นอาจเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ทั้งสองค่ายต้องงัดหมัดและกลลุยท์ทางการตลาดมาแลกกันเพื่อรักษาศักดิ์ศรีหน้าตาของคนที่ขึ้นชื่อว่าทำหนังสือหัวนอกไว้
อย่างไรก็ดีก็ยังมีนิตยสารผู้ชายอีกหลายเล่มที่ก็ยังคงอยู่บนแผงเป็นอีกตัวเลือกให้ผู้อ่าน ไม่ว่าจะเป็น EllE Men, Esquire หรือแม้กระทั่งนิตยสารผู้ชายหัวไทยอย่าง GM ทุกเล่มล้วนแล้วแต่ปรับตัวเตรียมสู้กับการแข่งขันชนิดหมัดต่อหมัดของวงการนิตยสารผู้ชายหัวนอกนี้ด้วยเช่นกัน จากนี้เราก็ยังต้องคงตามดูกันต่อไปว่าจะมีสงครามครั้งใหม่ของนิตยสารหัวนอกประทุขึ้นมาอีกหรือเปล่า ไม่แน่คราวหน้าอาจจะเปลี่ยนคู่ชกก็เป็นได้ ต้องติดตาม… :: Text by FLASH