>>ผ่านมาสัก 2-3 วันแล้วกับกระแส “Ice Bucket Challenge” ที่บรรดาคนมีชื่อเสียงในสาขาต่างๆ พากันเอาน้ำแข็งมาราดตัว และท้าทายเพื่อนๆ เป็นทอดๆ โดยบอกว่าเป็นการทำบุญช่วยเหลือผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง จนกลายเป็นกระแสที่แรงมากชนิดที่เรียกว่าใครไม่ทำนั้นเชยไปเลย...บางคนก็ทำไปเพราะความสนุกสนาน โดยไม่ได้รู้อย่างแท้จริงว่าสิ่งที่เขาทำกันนั้นเพื่ออะไร? บางคนก็ทำไปโดยมีความนัยทางการตลาดแอบแฝง จนพักหลัง Ice Bucket เริ่มเข้าขั้นคำว่า “เกร่อ”
ฉะนั้นเพื่อตอบคำถามว่าเอาน้ำแข็งราดตัวกันไปทำไม ก็ได้ไปค้นหาข้อมูล เพื่อตอบคำถามในเบื้องต้นว่า Ice Bucket Challenge คืออะไร….Ice Bucket Challenge ก็คือ การท้าให้เอาน้ำเย็นราดตัว เหตุที่ต้องทำแบบนี้ก็เพราะต้องการให้คนรู้จักและตระหนักถึงอันตรายของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอส (ALS) โรคที่สร้างความทรมานให้ผู้ป่วยเป็นอย่างยิ่งก่อนจะเสียชีวิต ซึ่ง Ice Bucket Challenge นี้เป็นแคมเปญที่ทำขึ้นเพื่อการประชาสัมพันธ์การกุศลหาเงินสนับสนุนช่วยเหลือกองทุนวิจัยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง จากสมาคมผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอส (ALS Assocition) โดยเป็นการท้าให้อีกฝ่ายยกถังน้ำเย็นพร้อมน้ำแข็งรดหัว พร้อมทั้งถ่ายคลิปเพื่อโพสต์ขึ้นเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก หรือ อินสตาแกรม เพื่อแสดงว่าตนรับคำท้า ซึ่งต้องทำภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง เมื่อทำแล้วก็ต้อง tag ถึงเพื่อนอีก 3 คน โดยถ้าคนที่ถูกท้ายอมทำตามก็จะบริจาคแค่ 10 ดอลลาร์ หากไม่ยอมทำต้องเสีย 100 ดอลลาร์ ซึ่งนั่นคือกติกาของต่างประเทศที่เขาใช้เล่นกัน
กลับมาดูที่บ้านเราทุกวันนี้มีแต่คนออกมาโพสต์ว่าได้ทำการ Ice Bucket Challenge รับคำท้าและท้าทายกันสนุกสนาน ถ่ายคลิปอัปขึ้นโซเชียลมีเดียของตัวเอง พร้อมติดแฮชแท็ก #IceBucketChallengeTH แต่เท่าที่ผ่านมาก็ยังไม่เห็นมีใครพูดถึงจำนวนเงินที่จะบริจาคให้กับกองทุนดังกล่าวเลย
จากกระแส Viral นี้ที่คนดังทั้งในระดับโลกและระดับประเทศที่ออกมาราดน้ำแข็งรายวัน ทำให้เราอยากรู้ความคิดเห็นของคนในแวดวงสังคม ว่าเขาคิดเห็นอย่างไรกับแคมเปญ Ice Bucket Challenge นี้กันบ้าง
“กรณ์ ณรงค์เดช” หนึ่งในเซเลบริตี้คุ้นหน้าที่เป็นคนหนึ่งที่มีส่วนในการเข้าร่วมแคมเปญ Ice Bucket Challenge นี้ กล่าวว่า “เริ่มมาจากโดน ดัง-พันกร บุณยะจินดา ไปพูดท้าทายผมในรายการวู้ดดี้ ซึ่งตอนแรกนั้นผมไม่รู้เรื่องหรอกว่าคืออะไร? เขาโทร.มาบอกว่าเป็นการช่วยทำบุญและต้องทำภายใน 24 ชั่วโมง แต่วันนั้นทำงานอยู่นอกบ้านทั้งวัน กว่าจะเสร็จธุระก็ 4 ทุ่ม จึงกลับมาทำที่บ้าน โดยมีพี่เลี้ยงของหลานเป็นคนจัดเตรียมให้ เธออินมากเพราะเล่าว่าดูรายการตอนเช้าที่คุณดังท้าทายคุณกรณ์ จัดการเตรียมน้ำ เตรียมน้ำแข็งให้พร้อมเลยและยังเป็นคนถ่ายคลิปให้ด้วย (หัวเราะ)
...แต่ถ้าถามถึงความเห็นส่วนตัว ตอนแรกผมก็งงๆ ว่า เอาน้ำมาราดหัวเพื่อ?? แต่ถ้ามีที่มาที่ไป ทำบุญแล้วช่วยคนก็โอเค....ตอนราดก็ทรมานเหมือนกันนะ พอโดนน้ำเย็นจัดๆ ก็เหมือนหายใจขัดๆ นิดหน่อย แบบว่ามันเย็นมากจริงๆ ยิ่งมีเสื้อด้วย เสื้อก็ซับน้ำเย็นเอาไว้ พอเปียกก็ยิ่งหนาว เสร็จแล้วก็ท้าทายต่ออีก 3 คน คือ ปอ-ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์, ไอซ์-ศรัณยู และกุ๊บกิ๊บ
หลังจากนั้นก็ให้เลขาฯ ไปหาข้อมูลว่าเราทำแล้วจะต้องบริจาคเงินยังไง เพราะเราก็เป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญนี้แล้ว เห็นคนอื่นๆ ทำมันอาจจะดูเป็นมาร์เกตติ้งแต่ถ้าได้ประโยชน์กับคนที่เขาเดือดร้อนก็โอเค”
อีกหนึ่งคนที่ทำการเอาน้ำแข็งราดตัวไปแล้วนั้นก็คือช่างผมระดับเซเลบริตี้ “ก้อง-กฤษฏิ์ จิระเกียรติวัฒนา” ที่ชอบใจในแคมเปญนี้ “ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีใครสักคนคิดขึ้นมาได้ ในการที่จะหาคนมาช่วยกันบริจาคให้องค์กรการกุศลสักองค์กรหนึ่ง และคิดว่าแคมเปญนี้เป็นแคมเปญที่ประสบความสำเร็จมากในการทำให้แพร่หลายออกไปทั่วโลก จริงๆ แล้วคนส่วนใหญ่ชอบที่จะร่วมทำบุญอยู่แล้ว เพียงแต่การกระทำแบบนี้เหมือนแรงจูงใจให้คนอยากทำกันมากขึ้น
ส่วนตัวก็มีการเอาน้ำแข็งราดตัวแล้วโพสต์ใน IG ไปแล้วเหมือนกัน เพราะโดนน้องใบเฟิร์นท้าทายมา เสร็จแล้วก็ท้าทาย เคน ภูภูมิ, มาร์กี้และโมเมพาเพลิน ต่อไปอีก สนุกดีเหมือนกันเล่นในกลุ่มเพื่อนๆ ถ้าเป็นเมืองนอกคนกล้าทำมากกว่า คนไทยยังติดอายกันนิดหนึ่ง มูลนิธิต่างๆ ก็น่าจะลองคิดกิมมิกขึ้นมาเพื่อให้คนเข้ามาร่วมบริจาคกัน”
“กันต์ รตนาภรณ์” แม้ว่าจะยังไม่ผ่านการเอาน้ำแข็งราดตัวอย่างคนอื่น ให้ความคิดเห็นถึงกระแส Ice Bucket Challenge นี้ว่า “เป็นกระแสที่มีฟีดแบ็กดีมาก ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่เป็นไปทั่วโลก เป็นเรื่องที่เขาช่วยเหลือการกุศล ช่วยเหลือคนที่ลำบากจริงๆ โดยไม่ได้เป็นผลประโยชน์ส่วนตัว ผมว่าก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี
ส่วนตัวก็กล้าทำนะ ยังไม่มีคนท้า...ผมก็ไม่ทำ (หัวเราะ) ผมว่ามันเป็นกระแสที่เกิดขึ้นเร็วมากเลยนะ ไม่กี่วันเท่านั้น รอบตัวเราก็มีเพื่อนๆ ทำบ้าง ดูน่าสนุกดี เราได้ดูคลิปวิดีโอก็ทำให้เราขำไปด้วย สนุกไปด้วย มองว่าไม่ได้เสียหายอะไร”
กับอีกหนึ่งฟากความคิดเห็นที่ห่วงใยในเรื่องของความปลอดภัย “พลอย มหาดำรงค์กุล” เธอแสดงความคิดเห็นกับเราว่า “ที่จริงก็เป็นโครงการที่ดี แต่การทำแบบนี้ก็มีอันตรายบ้าง การเทน้ำแข็งลงไปบนหัวคน ถ้าถังหลุดมือลงไปจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็ได้ข่าวว่ามีการหัวแตก คอเดี้ยงกันไปบ้าง เราก็รู้สึกว่าเป็น Viral Marketing แหละ แต่ถ้าถามว่าส่วนตัวชอบมั้ย ณ ตอนนี้ รู้สึกว่าเยอะไป น่าจะลองหากิจกรรมแบบอื่นๆ ที่ไม่ต้องเสี่ยงกับอันตรายและอุบัติเหตุ
เห็นคนทำกันเยอะๆ ก็ดีเพราะจะได้สร้างกระแสเพื่อให้คนมาช่วยมูลนิธิ เป็นจุดประสงค์ดีแหละค่ะ แต่กิจกรรมนี้ดูแรงไปหน่อย เป็นกระแสที่มาจากเมืองนอกแต่คนไทยก็ทำกันเยอะมาก รู้สึกว่าถ้าไม่เกิดอันตรายก็โอเคนะ ก็ได้แต่เป็นห่วง ระวังกันด้วยนะคะ”
อีกหนึ่งความคิดเห็นที่คิดว่าคงไม่อยากรับคำท้านี้ “แพร-ดวงกมล เวปุละ วาเกนเซ่น” กล่าวสั้นๆ ว่า “คนที่เป็นคนคิดและโปรโมตไอเดียนี้เก่งมาก ฉลาดในการรณรงค์ เป็นแคมเปญแบบใหม่ที่มีการโปรโมตแปลกดี เพราะตอนนี้ไม่ว่าจะเข้าไปดูในเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรมจะเห็นเลยว่ามีเยอะแยะไปหมด เป็นกระแสที่แรงมาก...ถ้าถามโดยส่วนตัวคงไม่อยากทำ ถ้าอยากให้บริจาคก็ช่วยได้ กลัวว่าถ้าตัวเองทำแล้วจะดูตลกไปหน่อย ซึ่งการทำแคมเปญให้คนสนใจก็ต้องทำแบบนี้แหละค่ะ หาอะไรที่ตลกๆ ให้คนสนใจและอยากมีส่วนร่วม”
เท่าที่ผ่านมาไม่ว่าจะมีกระแสอะไรมาพี่ไทยก็รับไว้หมด ซึ่งถ้าหากเป็นกระแสที่ดีก็น่าสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำบุญเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ อย่างไรก็ดีอย่าปล่อยให้แคมเปญนี้เป็นแค่เพียงเรื่องสนุก เพราะทำแล้วก็ต้องบริจาคเงินทำบุญกันจริงๆ ด้วยนะจ๊ะ... :: Text by FLASH