รักแท้ที่เปี่ยมสุขของ “คุณแม่ป้ายแดง” เมษา-วรรณ์วิไล

เพราะบทบาทของความเป็น “แม่” นั้น ไม่จำเป็นว่าต้องมีอายุมากหรือน้อย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อสตรีที่ได้ชื่อว่าเป็นสาวสังคมสายแข็ง ผู้หญิงที่ทุกคนกล่าวขานถึงความเปรี้ยวจี๊ดจนเข็ดฟันของเธอ จะมารับบท “แม่” เร็วกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน

“ความเป็นแม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต” เมษา-วรรณ์วิไล เตชะสมบูรณ์ เจ้าแม่แบรนด์เนมคนดัง ภรรยาคนสวยของนักธุรกิจหมุ่นสิงขร ศรประสิทธิ์ เริ่มต้นทักทายกับเราด้วยใบหน้าอิ่มสุข หลังจากที่ได้เป็น “คุณแม่ป้ายแดง” โดยมี “น้องภูผา” ลูกชายวัย 5 เดือน ที่กำลังวัยน่ารักน่าชังมาเติมเต็มให้กับชีวิต เมย์ หรือ เมษา เล่าถึงวินาทีที่ได้เป็นแม่ว่า แม้ยังไม่ครบกำหนดคลอด แต่วันนั้นเริ่มมีน้ำเดิน คุณหมอจึงรีบนำตัวเข้าห้องผ่าตัดเพราะกลัวว่าจะเป็นอันตราย

“ตอนที่หมอกำลังผ่าท้อง เมย์เห็นคุณหมอดึงลูกออกมา หัวน้องยังคว่ำอยู่ จึงรู้สึกกังวลเล็กน้อย พอได้ยินหมอขานน้ำหนัก 3 กิโลกรัม เมย์ก็เลยโล่งอก จากนั้นไม่รู้เรื่องคงสลบไประยะหนึ่ง เพราะพอหมอล้างตัวลูกเสร็จแล้วก็อุ้มมาให้เมย์ ณ วินาทีนั้น เมย์รู้สึกได้เลยว่า ความรักลูกเป็นความรักแบบใหม่เลยค่ะ เป็นรักในแบบที่เราไม่เคยรักใครมาก่อน มันตื้นตัน น้ำตาไหล ทุกอย่างอยู่ที่ตัวลูก" เมษากล่าว

คุณแม่เมย์ยังอธิบายรูปแบบความรักของเธอว่า ความรักทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นความรักที่มีต่อพ่อ-แม่ จะเป็นรักแบบหนึ่ง รักสามีเป็นรักแบบหนึ่ง รักพี่-น้อง รักเพื่อนเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่รัก “ลูก” เป็นความรู้สึกที่อบอุ่น เหมือนมีเขามาเติมเต็มคำว่า “รัก” ซึ่งวินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าลูกนั้น น้ำตาอุ่นๆ ก็ไหลรินออกมาด้วยความตื้นตันใจ “อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกจริงๆ ไม่มีคำใดสามารถอธิบายความรู้สึกนี้ได้ เป็นความรู้สึกใหม่และรู้เลยว่า ความรักที่สมบูรณ์เป็นอย่างไร”

หลายคนอาจมองว่า คุณแม่มือใหม่วัย 25 ปี อย่าง เมษา ยังไม่พร้อมจะทำหน้าที่ “คุณแม่” ได้ ด้วยขาดประสบการณ์และมีความเป็นคุณหนูมาตั้งแต่เกิด แต่เธอก็ยืนยันว่า มาตรฐานความเป็นแม่ หรือความพร้อมของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะมองความพร้อมที่เงินทอง หรือหน้าที่การงาน

“เมย์มองว่าความพร้อมของคนเราไม่เหมือนกัน ต้องมองว่าความพร้อมของแต่ละคนอยู่ที่อะไร สำหรับเมย์ ณ วันนี้พร้อมแล้วที่จะเป็นแม่ พร้อมที่จะสร้างครอบครัวได้ เพราะจบการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทแล้ว อีกทั้งฐานะทางบ้านก็เรียกได้ว่ามีมั่นคง เมย์กับแฟนคบกันมานานเป็น 10 ปีแล้วค่ะ เราสองคนช่วยธุรกิจของครอบครัว เราไม่จำเป็นต้องไปไหนมาไหนสองคนเหมือนเมื่อก่อน เราสามารถรับผิดชอบใครอีกคนหนึ่งได้แล้ว และพ่อ-แม่เมย์กับที่บ้านแฟนก็อยากได้หลาน ตรงนี้เราจึงตัดสินใจมีลูกทันทีค่ะ ภูผาเป็นหลานคนแรกของทั้งสองครอบครัว เลยกลายเป็นหัวแก้วหัวแหวนของเราทุกคน" เมษากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ผ่านไปราว 4 เดือนเศษ “ภูผา” เติบโตท่ามกลางความรักทั้งจากของพ่อ-แม่ และญาติผู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัวที่มอบความรักความเอ็นดูให้ภูผา ทุกคนจะให้คำแนะนำวิธีการเลี้ยงลูกแบบโบราณ ซึ่งเมษาบอกพร้อมเสียงหัวเราะสดใสว่า

“ทุกวันนี้เมย์เลี้ยงลูกเองโดยมีคุณย่า-คุณยายและคุณน้า-คุณอามาช่วยเลี้ยงด้วย เมย์เลี้ยงลูกแบบคนโบราณ คุณย่าทวดสอนอย่างไร เคยทำให้เมย์อย่างไร เมย์ก็นำมาปฏิบัติกับลูกอย่างนั้น เช่นเวลาลูกร้องให้สังเกตว่าท้องแข็งไหม ถ้าแข็งแสดงว่าลูกปวดท้อง ให้ทามหาหิงค์ ถ้าร้องมากคอแดงแสดงว่าลูกเจ็บคอให้หายามากวาดคอ แต่ที่ต้องทำทุกคืนเลยคือวาง “หัวหอม” ที่ทุบแล้วไว้ที่หัวนอนลูก เพื่อช่วยเรื่องหวัด เชื่อมั๊ยคะจนถึงวันนี้ ลูกเมย์ยังไม่เคยป่วยเลย เมย์ว่าประสบการณ์คำสอนแบบโบราณเป็นสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ"

แม้น้องภูผาจะมีวัยเพียง 4 เดือน แต่คุณแม่มือใหม่ก็มองไกลไปถึงเรื่องการศึกษาของลูกเสียแล้ว โดยตั้งเป้าอยากให้อิสระกับลูกในการเลือกเรียนในสิ่งที่รัก แบบที่คุณพ่อคุณแม่เคยใช้เลี้ยงเธอมา “แน่นอนว่าเราทุกคนก็อยากให้ลูกเป็นคนดี สำหรับเมย์ก็เหมือนกัน แค่ขอให้เขาเป็นคนดีมีคุณค่าช่วยเหลือสังคมได้ จิตใจอ่อนโยนเท่านี้เมย์ก็ดีใจแล้วค่ะ”

เมษายังบอกอีกว่า หลังจากมีลูกแล้ว วิถีชีวิตเปลี่ยนไปบ้าง เนื่องจากเมื่อก่อนเธอเป็นคนที่ทำอะไรปุ๊บปั๊บว่องไว แต่ตอนนี้ต้องทำทุกอย่างทำช้าลง และหลายเรื่องต้องคิดก่อนทำ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยนไปจากคนที่ชื่อ “เมษา” คือ เรื่องการแต่งตัวในแบบฉบับของตัวเอง แม้จะเปลี่ยนสถานะเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งแล้วก็ตาม แถมยังแผ่อิทธิพลมาถึงลูกน้อย ด้วยการกระหน่ำซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมให้กับลูก "เมย์จะมีความสุขมากเวลาได้ซื้อเสื้อผ้าให้ลูก เป็นคนชอบซื้ออยู่แล้ว เห็นที่ไหนมีสวยก็ซื้อให้ลูกหมดค่ะ"

เพราะ “ลูก” คือรักที่ล้ำค่า เมษาวางแผนชีวิตของเธอว่าจะมีลูก 2 คน โดยอีกคนอาจต้องรออีก 1-2 ปี ตอนนี้ขอเลี้ยงภูผาให้ดีที่สุดก่อน “อยากได้ผู้หญิงค่ะ ตอนนี้ขอพักและเลี้ยงคนโตให้เดินได้ ก็คงจะปล่อยให้มีลูกคนที่ 2 เพราะพ่อ-แม่เมย์ พ่อ-แม่แฟนก็อยากได้หลานอีก”
ช่วงเวลานานกว่าสิบล้านห้าแสนหนึ่งหมื่นสองพันกว่านาที ที่แม่เคยรอการเกิดของ “เมษา” ในวันนี้ เมษาได้รับรู้แล้วว่า การรอคอยและการเป็นแม่คนนั้นยิ่งใหญ่มีค่าขนาดไหน ดังนั้น หากจะต้องรอคอยอีกครั้งเธอก็พร้อมที่จะรอ