คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN
ยังมีสาระเรื่องของ “น้องชาย” อีกหลายข้อครับ
6. ไม่ใครรู้จริงหรอกว่าองคชาตมีขนาดเฉลี่ยเท่าไหร่กันแน่ โลกนี้ยังไม่มีเครื่องมือมาตรฐานสำหรับการวัดองคชาต และไม่มีวิธีง่ายๆสำหรับการทำดังกล่าว
บางสำนักใช้วิธียืดองคชาตออกมาก่อนวัดโดยการผูกลูกน้ำหนักไว้กับมัน (โอ๊ยส์) บางคนวัดจากฐานของหัวเหน่าไปจนถึงปลายองคชาต และองคชาตเปลี่ยนขนาดอยู่เสมอ
“ส่วนใหญ่ขององคชาตนั้นจริงๆแล้วอยู่ภายในร่างกาย แล้วก็ยังมีความแตกต่างระหว่างการวัดองคชาตตอนมีน้ำหนักถ่วงตรงโคนบริเวณหัวเหน่ากับตอนที่ไม่มีน้ำหนักถ่วง องคชาตของคนผอมจะถูกวัดได้ยาวกว่าคนอ้วน ทั้งๆที่พวกเขาอาจมีองคชาตเท่ากัน แต่คนอ้วนมีไขมันที่หัวเหน่ามากกว่า จึงทำให้มันอมโคนองคชาตเข้าไปมากว่า” ดร. บรัคเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไอ้ตัวยุ่งอธิบาย
7. ปุ่มกระสันของผู้หญิง ก็คือ องคชาตขนาดจิ๋วนั่นแหละ
“ในพัฒนาการขณะเป็นตัวอ่อน องคชาตและปุ่มกระสันนั้นจริงๆ แล้วมีวิวัฒนาการมาจากเนื้อเยื่ออย่างเดียวกัน ดังนั้นในทางเทคนิค ปุ่มกระสันก็สามารถแข็งตัวได้”
ดร.บรัคเกอร์อธิบาย โดยพื้นฐาน มนุษย์ทุกคนเริ่มต้นชีวิตด้วยแคมช่องคลอดในมดลูก และถ้าโครโมโซม Y ปรากฏ สิ่งต่างๆ ก็เริ่มพลิกตัวไปรอบๆ เหมือนทรานส์ฟอร์มเมอร์ทางการกำเนิด
“รังไข่หรือต่อมเพศ หลุดร่วงลงและกลายเป็นลูกอัณฑะแคมช่องคลอดของตัวอ่อน ละลายกลายเป็นถุงอัณฑะ จากนั้นปุ่มกระสันก็ขยายและกลายเป็นองคชาต”
พูดง่ายๆก็คือ ผู้ชายทุกคนเคยเป็นผู้หญิงมาก่อน ในตอนที่ยังเป็นตัวอ่อนนั่นแหละ แล้วก็แปลงร่างเป็นทารกเพศชายในเวลาต่อมา ใครแปลงได้ครึ่งๆ กลางๆ ก็กลายเป็นกะเทยไป
8. ไม่มีหลักวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่จะสนับสนุนแนวคิดที่ว่า
“ตอนอ่อนดูใหญ่ ตอนแข็งไม่เท่าไหร่” นั่นหรอก
ซึ่งก็หมายถึงสัมประสิทธิ์การขยายตัวขององคชาตที่ว่าเมื่อมันใหญ่ตอนอ่อนตัว มันจะขยายตัวได้ไม่มากในตอนแข็งตัว จริงๆ แล้วเรื่องนี้ไม่มีอะไรแน่นอนตายตัว ทุกองคชาตมีความแตกต่างกัน
“คุณสามารถเจอชายคนหนึ่งซึ่งมีองคชาตเล็กและเมื่อแข็งตัวก็ยังเล็กอยู่ หรือ คุณอาจเจอผู้ชายที่มีองคชาตใหญ่ตอนอ่อนตัวและไม่โตขึ้นอีกเลยในตอนแข็งตัว และก็ยังมีผู้ชายที่มีองคชาตใหญ่ตอนอ่อนตัว แต่กลับใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกในตอนแข็งตัว”
มันมีทุกแบบนั่นแหละ ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ อย่างที่เรียกว่าสัมประสิทธิ์การขยายตัวแบบ “ข้าวเจ้า” หรือ “ข้าวเหนียว” หรอก
“เพราะฉะนั้น จงอย่าตัดสินองคชาตขณะอ่อนตัวหรือแข็งตัว เห็นใหญ่ๆไม่ว่าตอนไหนอาจบ่มิไก๊ในตอนกึ๊ดๆ ก็ได้” ดร.บรัคเกอร์กล่าว
9. การที่คุณร่วมเพศได้แค่ 2 นาทีก็เสร็จแล้วนั้นไม่ใช่อาการหลั่งเร็วจริงๆหรอก
“ผู้ชายมักจะคิดว่าตัวเองควรต้องสามารถทนทานอยู่ได้นานเป็นชั่วโมงหรือสองชั่วโมง (ไม่นับการโหมโรงนะ) แต่ในความเป็นจริง ผู้หญิงส่วนใหญ่จะบอกว่านานขนาดนั้นก็แสบแบบไม่สันต์สิคะ ส่วนใหญ่แล้วการร่วมเพศจะนานเป็นนาทีไม่ใช่ชั่วโมง”
ดร.บรัคเกอร์บอก ผู้ชายโดยเฉลี่ยจะใช้เวลาได้นานประมาณ 5 นาที ไอ้ที่หายเข้าห้องไปกับคู่รักเป็นชั่วโมงน่ะ เป็นการคุยซะ 40 นาที โหมโรงอีก 18 นาที ที่เหลืออีก 2 นาทีนี่แหละเป็นการควบเข้าเส้นชัยจริงๆ
10. ผู้ชายมักจะไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างต่อเนื่องเป็นหนังสองเรื่องควบหรอก เพราะองคชาตของพวกเขาเปรียบเสมือนนักวิ่งมาราธอน (วิ่งไปเรื่อยๆพอเหนื่อยก็เดินพัก) ทุกองคชาตมันแตกต่างกัน อย่างที่ว่าไว้นั่นแหละ บางองค์สามารถแสดงสองตอนควบ แต่บางองค์จำเป็นต้องหยุดพักและเติมของเหลวในร่างกายเสียก่อน เรียกกันว่าเป็นช่วงพักฟื้น
“ช่วงพักฟื้นเป็นส่วนหนึ่งของสรีรวิทยาปกติ ระบบประสาทส่วนต่างๆของคุณกำลังทำงานสำหรับการแข็งตัวและการหลั่งอสุจิในครั้งต่อไป และมันยากสำหรับร่างกายของคุณที่จะสลับกลับไปกลับมาอย่างรวดเร็ว ช่วงพักฟื้นจะใช้เวลาแตกต่างกันไปตามวัยและประเด็นอื่นๆ” ดร.บรัดเกอร์กล่าว
จงอย่าผิดหวังถ้าองคชาตของคุณ (หรือของแฟนคุณ) ต้องการการพักผ่อนเป็นระยะ มันก็แค่การขอเวลานอกเพื่อวางแผนการทะลวงประตูของคุณอย่างลงลึกในช่วงต่อเวลานั่นแหละ
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
ยังมีสาระเรื่องของ “น้องชาย” อีกหลายข้อครับ
6. ไม่ใครรู้จริงหรอกว่าองคชาตมีขนาดเฉลี่ยเท่าไหร่กันแน่ โลกนี้ยังไม่มีเครื่องมือมาตรฐานสำหรับการวัดองคชาต และไม่มีวิธีง่ายๆสำหรับการทำดังกล่าว
บางสำนักใช้วิธียืดองคชาตออกมาก่อนวัดโดยการผูกลูกน้ำหนักไว้กับมัน (โอ๊ยส์) บางคนวัดจากฐานของหัวเหน่าไปจนถึงปลายองคชาต และองคชาตเปลี่ยนขนาดอยู่เสมอ
“ส่วนใหญ่ขององคชาตนั้นจริงๆแล้วอยู่ภายในร่างกาย แล้วก็ยังมีความแตกต่างระหว่างการวัดองคชาตตอนมีน้ำหนักถ่วงตรงโคนบริเวณหัวเหน่ากับตอนที่ไม่มีน้ำหนักถ่วง องคชาตของคนผอมจะถูกวัดได้ยาวกว่าคนอ้วน ทั้งๆที่พวกเขาอาจมีองคชาตเท่ากัน แต่คนอ้วนมีไขมันที่หัวเหน่ามากกว่า จึงทำให้มันอมโคนองคชาตเข้าไปมากว่า” ดร. บรัคเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไอ้ตัวยุ่งอธิบาย
7. ปุ่มกระสันของผู้หญิง ก็คือ องคชาตขนาดจิ๋วนั่นแหละ
“ในพัฒนาการขณะเป็นตัวอ่อน องคชาตและปุ่มกระสันนั้นจริงๆ แล้วมีวิวัฒนาการมาจากเนื้อเยื่ออย่างเดียวกัน ดังนั้นในทางเทคนิค ปุ่มกระสันก็สามารถแข็งตัวได้”
ดร.บรัคเกอร์อธิบาย โดยพื้นฐาน มนุษย์ทุกคนเริ่มต้นชีวิตด้วยแคมช่องคลอดในมดลูก และถ้าโครโมโซม Y ปรากฏ สิ่งต่างๆ ก็เริ่มพลิกตัวไปรอบๆ เหมือนทรานส์ฟอร์มเมอร์ทางการกำเนิด
“รังไข่หรือต่อมเพศ หลุดร่วงลงและกลายเป็นลูกอัณฑะแคมช่องคลอดของตัวอ่อน ละลายกลายเป็นถุงอัณฑะ จากนั้นปุ่มกระสันก็ขยายและกลายเป็นองคชาต”
พูดง่ายๆก็คือ ผู้ชายทุกคนเคยเป็นผู้หญิงมาก่อน ในตอนที่ยังเป็นตัวอ่อนนั่นแหละ แล้วก็แปลงร่างเป็นทารกเพศชายในเวลาต่อมา ใครแปลงได้ครึ่งๆ กลางๆ ก็กลายเป็นกะเทยไป
8. ไม่มีหลักวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่จะสนับสนุนแนวคิดที่ว่า
“ตอนอ่อนดูใหญ่ ตอนแข็งไม่เท่าไหร่” นั่นหรอก
ซึ่งก็หมายถึงสัมประสิทธิ์การขยายตัวขององคชาตที่ว่าเมื่อมันใหญ่ตอนอ่อนตัว มันจะขยายตัวได้ไม่มากในตอนแข็งตัว จริงๆ แล้วเรื่องนี้ไม่มีอะไรแน่นอนตายตัว ทุกองคชาตมีความแตกต่างกัน
“คุณสามารถเจอชายคนหนึ่งซึ่งมีองคชาตเล็กและเมื่อแข็งตัวก็ยังเล็กอยู่ หรือ คุณอาจเจอผู้ชายที่มีองคชาตใหญ่ตอนอ่อนตัวและไม่โตขึ้นอีกเลยในตอนแข็งตัว และก็ยังมีผู้ชายที่มีองคชาตใหญ่ตอนอ่อนตัว แต่กลับใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกในตอนแข็งตัว”
มันมีทุกแบบนั่นแหละ ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ อย่างที่เรียกว่าสัมประสิทธิ์การขยายตัวแบบ “ข้าวเจ้า” หรือ “ข้าวเหนียว” หรอก
“เพราะฉะนั้น จงอย่าตัดสินองคชาตขณะอ่อนตัวหรือแข็งตัว เห็นใหญ่ๆไม่ว่าตอนไหนอาจบ่มิไก๊ในตอนกึ๊ดๆ ก็ได้” ดร.บรัคเกอร์กล่าว
9. การที่คุณร่วมเพศได้แค่ 2 นาทีก็เสร็จแล้วนั้นไม่ใช่อาการหลั่งเร็วจริงๆหรอก
“ผู้ชายมักจะคิดว่าตัวเองควรต้องสามารถทนทานอยู่ได้นานเป็นชั่วโมงหรือสองชั่วโมง (ไม่นับการโหมโรงนะ) แต่ในความเป็นจริง ผู้หญิงส่วนใหญ่จะบอกว่านานขนาดนั้นก็แสบแบบไม่สันต์สิคะ ส่วนใหญ่แล้วการร่วมเพศจะนานเป็นนาทีไม่ใช่ชั่วโมง”
ดร.บรัคเกอร์บอก ผู้ชายโดยเฉลี่ยจะใช้เวลาได้นานประมาณ 5 นาที ไอ้ที่หายเข้าห้องไปกับคู่รักเป็นชั่วโมงน่ะ เป็นการคุยซะ 40 นาที โหมโรงอีก 18 นาที ที่เหลืออีก 2 นาทีนี่แหละเป็นการควบเข้าเส้นชัยจริงๆ
10. ผู้ชายมักจะไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างต่อเนื่องเป็นหนังสองเรื่องควบหรอก เพราะองคชาตของพวกเขาเปรียบเสมือนนักวิ่งมาราธอน (วิ่งไปเรื่อยๆพอเหนื่อยก็เดินพัก) ทุกองคชาตมันแตกต่างกัน อย่างที่ว่าไว้นั่นแหละ บางองค์สามารถแสดงสองตอนควบ แต่บางองค์จำเป็นต้องหยุดพักและเติมของเหลวในร่างกายเสียก่อน เรียกกันว่าเป็นช่วงพักฟื้น
“ช่วงพักฟื้นเป็นส่วนหนึ่งของสรีรวิทยาปกติ ระบบประสาทส่วนต่างๆของคุณกำลังทำงานสำหรับการแข็งตัวและการหลั่งอสุจิในครั้งต่อไป และมันยากสำหรับร่างกายของคุณที่จะสลับกลับไปกลับมาอย่างรวดเร็ว ช่วงพักฟื้นจะใช้เวลาแตกต่างกันไปตามวัยและประเด็นอื่นๆ” ดร.บรัดเกอร์กล่าว
จงอย่าผิดหวังถ้าองคชาตของคุณ (หรือของแฟนคุณ) ต้องการการพักผ่อนเป็นระยะ มันก็แค่การขอเวลานอกเพื่อวางแผนการทะลวงประตูของคุณอย่างลงลึกในช่วงต่อเวลานั่นแหละ
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net