>>โอเลย์ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์แคมเปญ“Best Beautiful” ซึ่งเปิดตัวขึ้นในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ผู้หญิงไทยฉุกคิดเกี่ยวกับความสำคัญของความงาม พร้อมสนับสนุนให้ผู้หญิงไทยเปิดตัวเอง ก้าวผ่านกรอบทางความคิดต่างๆ เพื่อให้เป็นผู้หญิงสวยได้มากที่สุดในแบบฉบับของตัวเอง เพราะโอเลย์เชื่อว่าความสวยที่เป็นที่สุดจะเป็นพลังผลักดันให้ผู้หญิงสามารถทำในสิ่งที่ปรารถนาได้อย่างเต็มที่และมั่นใจไม่รู้จบ และสามารถสร้างแรงบันดาลใจส่งต่อให้คนรอบข้าง โดยภายในงาน โอเลย์ ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ล่าสุดชื่อ “Reflection” โดยมีเนื้อหาที่ตั้งคำถามกับความเชื่อในสังคมไทยว่าผู้หญิงผิดไหมที่อยากจะสวยในแบบของตัวเอง พร้อมตีแผ่อีกหลากหลายมุมมองความรู้สึกของหญิงไทยที่ซ่อนไว้ไม่ให้ใครรู้
ภายในงาน บรรดาเซเลบริตี้ชั้นนำของเมืองไทย อาทิ คริส หอวัง, กาละแมร์ - พัชรศรี เบญจมาศ, พลอย - ชวพร เลาหพงศ์ชนะ, โมเม - นภัสสร บุรณศิริ มาร่วมเสวนาในหัวข้อ “ผิดหรือที่ผู้หญิงมีแรงบันดาลใจที่จะให้ความสวยเป็นที่สุด?” เพื่อถกประเด็นและแสดงความคิดเห็นจากผลสำรวจ พร้อมปลุกกระแสให้ผู้หญิงหันมาฉุกคิดและเปิดมุมมองใหม่ๆ ในเรื่องความงาม โดยมี หมอเอิ้น-แพทย์หญิงพิยะดา หาชัยภูมิ มาร่วมเผยเคล็ดลับสร้างทัศนคติบวกด้านความงามให้กับผู้หญิง
กาละแมร์ - พัชรศรี เบญจมาศ พิธีกรสาวมั่น เวิร์กกิ้งวูแมนที่แสนมั่นใจในตัวเอง แชร์ประสบการณ์ไว้อย่างน่าสนใจว่า “ตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยมีใครชื่นชมว่าตนเองเป็นคนสวย เลยไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องความสวยความงามมากนัก แต่พอเริ่มทำงานในวงการแล้วเห็นตัวเองในหน้าจอโทรทัศน์ จึงตระหนักถึงความสำคัญของความสวย เลยหันมาเอาใจใส่ตัวเองมากยิ่งขึ้น และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ชีวิตได้พบกับสิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็นได้พบเจอกับโอกาสที่ดี เพื่อนที่ดี ตลอดจนหน้าที่การงานที่ดี จึงอยากฝากกับผู้หญิงไทยทุกคนว่า จุดเริ่มต้นของความสวยเริ่มจากการปรับทัศนคติและมุมมอง ต้องรักตัวเอง รู้จักเปลี่ยนความคิดว่าการสวยที่สุดได้ในแบบของตนเองไม่ใช่เรื่องยาก อย่ามัวแต่ไม่กล้าหรือรีรอเวลา แต่ต้องเริ่มลงมือทำในสิ่งใกล้ตัว อย่างการมีวินัยในตัวเอง อย่างการตื่นเช้ามาออกกำลังกาย หรือการเปิดนิตยสารหาความรู้เกี่ยวกับความสวยความงาม แล้วสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นกับชีวิตคุณเอง”
คริส หอวัง นางเอกสาวสวยหมวยร้อยล้าน และแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของโอเลย์ กล่าวว่า “เพราะความกังวลกับกรอบทางความคิดว่าคนรอบข้างจะวิพากษ์วิจารณ์ ผู้หญิงไทยจำนวนมากจึงไม่กล้าที่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สวยในแบบที่ตัวเองปรารถนา ฉะนั้นคริสอยากให้ผู้หญิงทุกคนลองกล้าที่จะลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการอย่างมั่นใจ ซึ่งเมื่อสวยในแบบที่ตัวเองมั่นใจแล้ว ก็นำไปสู่การเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรอบๆ ข้าง ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีด้วยกัน ด้วยบทบาทของอาชีพนักแสดงและการเข้ามาร่วมงานกับโอเลย์ของคริส ทำให้คริสต้องดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษ และเมื่อมีเคล็ดลับหรือผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิวที่ดี คริสก็มักจะแนะนำและบอกต่อสิ่งดีๆ ให้กับคนรอบข้าง เพื่อเป็นการเติมเต็มและแบ่งปันความสวยซึ่งกันและกัน”
พลอย - ชวพร เลาหพงศ์ชนะ แฟชั่นนิสต้าสาวยุคใหม่ กล่าวว่า “โดยส่วนตัวเป็นคนหลงใหลในเรื่องแฟชั่นตั้งแต่เด็กๆ ชอบหยิบจับสิ่งต่างๆ มามิกซ์แอนด์แมตช์กันให้เป็นสไตล์ใหม่ที่แฝงกลิ่นอายของตัวเอง จนบางครั้งคนอื่นๆ อาจจะมองว่าเราเป็นคนแปลก ประกอบกับมีโอกาสได้เข้ามาทำงานในวงการแฟชั่นก็พบว่าผู้หญิงไทยมักไม่มั่นใจในตัวเอง แต่รอฟังคำแนะนำหรือคำชื่นชมจากคนอื่นก่อนจึงจะรู้สึกมั่นใจ ฉะนั้นไม่ว่าจะได้รับคำชมจากคนรอบข้างแค่ไหน ก็ไม่สำคัญเท่ากับความสวยที่คุณเห็นคุณค่าด้วยตัวคุณเอง และที่สำคัญ อย่ามัวยึดติดแต่กับจุดด้อยของตัวเองจนมองข้ามข้อดีที่ตัวเองมีอยู่ นำสิ่งดีๆ เหล่านั้นมาทำ เพิ่มความมั่นใจให้คุณเป็นจุดเด่นในสายตาคนรอบข้าง”
โมเม - นภัสสร บุรณศิริ บิวตี้กูรูผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงไทย กล่าวว่า “จากประสบการณ์ตรงที่ตัวเองไม่ได้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มคนสวยตั้งแต่แรก พอเข้ามารับบทบาทการเป็นดีเจและพิธีกร ซึ่งคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ ฉะนั้นจึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสู่การก้าวมาสู่การเป็นกูรูด้านความงามที่ได้รับการยอมรับจนถึงปัจจุบัน ซึ่งการที่จะเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ นั้น ตัวเองจะต้องดูแลตัวเองมากกว่าปกติ ซึ่งเมื่อเรามั่นใจในตัวเองแล้ว เราก็จะสามารถพูดหรือแนะนำสิ่งดีๆ ให้กับคนอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่ และสิ่งที่อยากจะฝากกับสาวๆ ยุคใหม่ก็คือ ความจริงแล้วในโลกนี้ไม่มีคนที่ขี้เหร่ มีแต่คนขี้เกียจเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะสวยที่สุดในแบบฉบับของตนเองก็ต้องให้ความใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด”
หมอเอิ้น - แพทย์หญิงพิยะดา หาชัยภูมิ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ธรรมชาติของคนเรามักจะรักแบบมีเงื่อนไขโดยจะมีความสุขเมื่อเห็นคนรอบข้างมีความสุข แต่หากทำอะไรไปแล้ว คนรอบข้างเกิดไม่ได้ชื่นชอบ ก็จะรู้ผิดหวังและนำไปสู่การไม่รักตัวเองในที่สุด ฉะนั้นจึงอยากแนะนำให้เปลี่ยนความคิดจากการเริ่มรักตัวเองก่อน เมื่อคนเรารักตัวเอง ทำเพื่อตัวเองอย่างถูกต้องแล้ว ก็จะเกิดพลังที่ส่งผลต่อความคิดและอารมณ์ และส่งผ่านไปยังบุคคลรอบข้างอย่างยั่งยืน นอกจากนี้การสร้างความสุขเพื่อความสวยอย่างยั่งยืนนั้นทำได้ง่ายๆ โดยเริ่มจากการสร้างสมาธิ อย่างน้อยวันละ 5-10 นาที ที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่างๆ รวมถึงการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินอย่างเป็นปกติ ในยามว่างให้ลองหากิจกรรมที่ตนเองชื่นชอบเพื่อผ่อนคลายความเครียด และให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30 นาที และสุดท้ายคือเรื่องความรัก ทั้งรักตัวเอง รักสิ่งที่ตนเองมี รวมถึงส่งต่อความรักไปยังคนรอบข้าง เพียงเท่านี้คุณก็จะสวยให้สุดได้อย่างไม่ยากเย็น” :: Text by FLASH