ผู้เขียนเคยลิ้มลองรสชาติของ”เกี๊ยวซ่า”ครั้งแรกโดยชิมจากร้านริมทางย่านถนนข้าวสาร เห็นหน้าตาก็สงสัยว่ามันเป็นเกี๊ยวตรงไหน แล้วทำไมต้องซ่าด้วย
แต่พอได้มีโอกาสลิ้มลองเกี๊ยวซ่าจากร้านอาหารญี่ปุ่นของแท้ถึงกับอึ้งว่าเกี๊ยวซ่าที่เคยกินนั้นนอกจากหน้าตาแล้วทั้งไส้และวิธีการทอดก็แตกต่างกับต้นตำรับโดยสิ้นเชิง และเริ่มติดใจเกี๊ยวซ่าญี่ปุ่นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนได้มีโอกาสมาชิมเกี๊ยวซ่าของร้าน Osaka Ohsho ถึงได้บอกกับตัวเองว่าเจอแล้ว!!...เกี๊ยวซ่าแสนอร่อย
“เกี๊ยวซ่า” หรืออ่านตรงตัวว่า Gyuza เป็นอาหารของญี่ปุ่นที่รับอิทธิพลมาจากจีนแล้วนำมาดัดแปลงจนกลายเป็นรูปแบบและรสชาติเอกลักษณ์ทางอาหารของชาวญี่ปุ่นที่เดินทางเสิร์ฟความอร่อยไปทั่วโลกมาแล้ว สำหรับร้าน Osaka Ohsho นั้นแปลตรงตัวว่า “ราชาเกี๊ยวซ่า จากโอซาก้า” แสดงถึงความมั่นใจว่าเกี๊ยวซ่าสูตรต้นตำรับของร้านนี้อร่อยสู้เขาได้
ร้านOsaka Ohsho ถือกำเนิดมาเมื่อปี 2512 ร้านแรกเปิดอยู่ย่านสถานีรถไฟแห่งหนึ่งของโอซาก้า เริ่มแรกมีเมนูให้ลูกค้าเลือกเพียง 3 อย่างคือ ข้าวผัด เกี๊ยวซ่าและรางเมงหรือบะหมี่สูตรต้นตำรับ เคยสร้างปรากฏการณ์ขายเกี๊ยวซ่า 1.8 ล้านชิ้นภายในวันเดียว ปัจจุบันมี 369 สาขาทั่วโลก ส่วนที่เมืองไทยเพิ่มมาเปิดได้ไม่กี่เดือนเอง
เล่ากันว่าเมื่อสมัยเมื่อ 40 ปีมาแล้ว เกี๊ยวซ่ายังเป็นอาหารที่ทำรับประทานกันภายในครอบครัวของแต่ละบ้าน ไม่มีใครคิดทำมาขายในร้านมาก่อน Osaka Osho ถือเป็นร้านแรกที่นำสูตรพิเศษเกี๊ยวซ่ามาขายและก็มีลูกค้าชื่นชอบบอกปากต่อปากจนขายดิบขายดี จากนั้นมาก็มีร้านอื่น ๆ นำเกี๊ยวซ่ามาขายบ้าง จนปัจจุบันเมนูเกี๊ยวซ่าจะต้องมีอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นแทบทุกร้าน
มาร้านนี้ต้องสั่งเมนูเกี๊ยวซ่ามาลองของกันก่อนว่าจะอร่อยตามที่อวดอ้างสรรพคุณกันหรือไม่ เกี๊ยวซ่าเริ่มที่ราคา 90 บาท 6 ชิ้น แต่ถ้าคิดว่าไม่น่าจะพอก็สั่ง 12 ชิ้นก็ได้ราคา 170 บาท ความพิถีพิถันของเกี๊ยวซ่าร้านนี้นับว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ ตาปกติไส้เกี๊ยวซ่าจะประกอบด้วย กะหล่ำปลี หมูสับ กระเทียมและขิง โดยเฉพาะเนื้อหมูนั้น สูตรร้านนี้จะเลือกใช้จุดเด่นของหมูแต่ละส่วน เกี๊ยวซ่าแต่ละตัวจึงประกอบด้วยเนื้อหมูถึง 3 ส่วนด้วยกัน เมื่อนำเครื่องทั้งหมดลงผัดแล้วจึงจะห่อในแป้งเกี๊ยวสีขาว
ข้อสำคัญเวลาทอดก็ต้องมีเคล็ดลับด้วย ทางร้านจะผลิตกระทะพิเศษสำหรับทอดเกี๊ยวซ่าโดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกค้าสามารถสัมผัสกับแป้งเกี๊ยวได้ 2 อารมณ์ คือแป้งด้านล่างจะเกรียมกรอบหอม ส่วนแป้งด้านบนเหนียมนุ่มละมุนลิ้น ที่สำคัญคือไม่มีน้ำมันเกาะเพราะทอดในน้ำ
แค่ได้กลิ่นหอมตอนทอดก็ชวนให้อยากลิ้มลองแล้ว ขอแนะนำให้รับประทานตอนร้อน ๆ จะอร่อยมาก กัดไปคำแรกจะรู้สึกถึงความต่างระหว่างแป้งกรอบกับแป้งนุ่มที่มีสองอารมณ์ในเกี๊ยวชิ้นเดียวกัน กัดไปถึงไส้จะได้รสชาติของเนื้อหมู ขิง กระเทียมที่เข้ากันได้ลงตัวกลายเป็นความหอมหวานอร่อยสมชื่อจริง ๆ
ส่วน”น้ำจิ้ม” นั้น ปกติคนญี่ปุ่นจะรับประทานเกี๊ยวซ่ากับโชวหยุแค่นี้ก็หมออร่อยแล้ว แต่ที่เมืองไทยทางร้านเตรียมน้ำจิ้มถึง 4 แบบ คือ โชวหยุ วาซาบิ มายองเนส และพนอสึ แต่ถ้ายังแซบไม่ถูกปากก็มีพริกป่นให้เติมด้วย เอาใจกันสุดฤทธิ์
ทุก ๆ 7 โมงเช้าจะเป็นเวลาปรุงไส้เกี๊ยวซ่าเพื่อที่จะส่งไส้เหล่านี้ไปยังสาขาต่าง ๆ โดยแต่ละสาขาจะห่อเกี๊ยวซ่าวันละ 2 รอบคือเช้าและบ่ายเพื่อความสดใหม่ และจะทอดตามออร์เดอร์ลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานเกี๊ยวซ่าสดใหม่หอมกรุ่นทุกจานจากกระทะ
นอกจากนี้ยังมีข้าวหน้าต่าง ๆ อยากแนะนำให้ลองสั่ง “ ข้าวไข่ฟู” (ฟุราโร่ เท็นชินฮัง) เป็นข้าวสวยญี่ปุ่นคลุกกับงาดำเล็กน้อยพอให้เคี้ยวหอม ๆ ที่น่าตื่นเต้นคือไข่ที่นำไปทอดจนฟูหนาตามมาตรฐานต้องหนาถึง 1.5 ซม. หน้าตาไม่เหมือนไข่เจียวน้ำมันของบ้านเรา เพราะน่าจะทอดในน้ำ ไข่จึงนุ่มสีเหลืองสวยมีกลิ่นหอมของไข่อย่างชัดเจนราดด้วยซอสเท็นชินฮังสูตรพิเศษของร้าน
อาหารจานเส้นที่ไม่ควรพลาดคือราเมนสูตรต้นตำรับที่ขายมา 40 กว่าปีคือ ราเมนสูตรต้นตำรับซอสเกลือ 1972 ( ราคา 160 บาท ) เป็นนำซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวนานกว่า 2 วัน เนื้อซุปจึงขุ่นและข้นคลักแต่ให้ความหวานหอมของกระดูกหมูแท้ ๆ อีกจานคือ ราเมนสูตรต้นตำรับซอสโชยุ 1973 (ราคา 160 บาท) เป็นซุปใสปรุงรสด้วยโชยุหรือซีอิ้วญี่ปุ่นจะให้ความหอมที่ต่างจากซุปถ้วยแรก
ราเมงน้ำซุปมะเขือเทศพร้อมไก่และชีส ( ราคา 230บาท ) เป็นราเมงยอดฮิตของสาว ๆ ญี่ปุ่นที่บอกว่ากินแล้วผิวสวยเพราะใส่มะเขือเทศสดไปตุ๋นในน้ำซุปจนเข้มข้น นอกจากนี้ยังใส่หมูคอลลาเจนหรือสามชั้นที่ใช้กรรมวิธีรีดไขมันออกจนเหลือแต่คอลลาเจนให้กินโดยไม่ต้องกลัวอ้วน
เมนูของ Osaka Ohsho ยังมีอีกมากมาย ที่สำคัญคือร้านที่เมืองไทยจะมีเมนูหลากหลายที่มาจากทุกเครือของเขา อาทิ พิซซ่าที่มีจุดกำเนิดจากโอซาก้า มีให้เลือกทั้งหน้ากุ้ง หน้าหมู หมีเย็น ทงคัตสึโชยุราเมง สุกี้ยากี้เสิร์ฟพร้อมข้าว เป็นต้น
ไปลิ้มลองเกี๊ยวซ่าต้นตำรับได้ที่ร้านOsaka Osho ชั้น 2 อาคารฟิฟตี้ฟิฟ ทองหล่อซอย 2 เขตวัฒนา กทม โทร 0-2381-0701-2 เปิดบริการตั้งแต่ 9.00 - 23.00 น.