By Lady Manager
Question รังสี UVA UVB มีผลเสียต่อผิวอย่างไรคะ เวลาเราเลือกซื้อครีมกันแดด ต้องดูค่าอะไรบ้าง เพื่อป้องกันที่ดีที่สุด
Answer โดย นพ.วรพล สุขีวัฒนา แพทย์ผู้ก่อตั้ง DOCTOR TONY Clinic
"ถ้าพูดถึงรังสีเป็น Visible Light คือ แสงที่เรามองเห็น ม่วง ครามน้ำเงิน แสด แดง ต่ำกว่านั้นจะเป็น UVA และ UVB ซึ่งมีความยาวคลื่นสั้นกว่าแสงที่เรามองเห็น โดยที่ UVB โดย B ย่อมาจาก Burn ความยาวคลื่นจะสั้นฉะนั้นมันจะอยู่ตื้นๆ จะทำให้เกิดรอยไหม้ รอยแดง ในขณะที่ UVA ลงลึกกว่าจะทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นของผิวหนัง
ปัจจุบัน เขาจะแยก UVA เป็น UVA 1 กับ UVA 2 สำคัญมากเพราะว่า ถ้าเทียบรังสี UV ทั้งหมดที่เข้ามาในโลกนี้ 100% จะเป็น UVB 5% เท่านั้น อีก 95% จะเป็น UVA เลย และใน 95% นั้นจะเป็น UVA 1 ถึง 75% ฉะนั้น UVA 1 มีความสำคัญในการทำให้คนเราผิวแก่ก่อนวัย ซึ่ง UVA 1 กันแดดที่จะใช้ในการป้องกันรังสี UVA 1 ได้ จะต้องมีความเฉพาะเจาะจง มีเพียงส่วนผสม 2 ตัวเท่านั้นที่กัน UVA 1 ได้ คือ Avobenzone และ Zinc Oxide ซึ่งต้องไปดูว่ากันแดดที่เราใช้มี 2 ตัวนี้หรือไม่
ในการเลือกครีมกันแดดนั้น ก็ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่ระบุทั้งค่า SPF และค่า PA เพื่อที่จะสามารถป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB
SPF คืออะไร (Sun Protective Factor) จะเป็นค่าที่ระบุว่าครีมนี้สามารถป้องกัน UVB ได้กี่เท่า เช่น ถ้าคนๆ นั้นออกแดดใช้เวลา 30 นาที ในการทำให้ผิวคนนั้นไหม้แดด SPF15 จะสามารถทำให้ผิวคนนั้นทนทานต่อแสงแดดเป็น 15 เท่า นำ 30x15 = 450 นาที
ตัวเลขที่ระบุหลัง SPF จะถูกนำมาคูณกับจำนวนนาทีที่ผิวเราทนต่อรังสี UVBได้ เช่นถ้าผิวหนังเราทน UVB ได้10 นาที ถ้าใช้ครีมกันแดด SPF30 = 10 นาที x 30 เท่า = 300 นาทีโดยประมาณ
ในขณะที่ UVA มักจะถูกระบุด้วยค่า PA (Protection Grade of UVA) และตามด้วยเครื่องหมาย+ เพื่อระบุจำนวนเท่า PA บวกเยอะเท่าไหร่ จะมีค่า PA เยอะมากขึ้นเท่านั้น
ซึ่งในปัจจุบันจะมี 3 ระดับ คือ PA+ , PA++ , PA+++ เรียงตามระดับความสามารถในการป้องกัน"
# ท่านผู้อ่านสามารถฝากคำถามสารพันปัญหาคาใจหญิงเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ ความงาม และแน่นอน เรื่องเซ็กซ์กับความสัมพันธ์ มาได้ที่ lady@astvmanager.com เราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญมาเคลียร์ให้หายคลางแคลงใจเลยค่ะ *_*
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Question รังสี UVA UVB มีผลเสียต่อผิวอย่างไรคะ เวลาเราเลือกซื้อครีมกันแดด ต้องดูค่าอะไรบ้าง เพื่อป้องกันที่ดีที่สุด
Answer โดย นพ.วรพล สุขีวัฒนา แพทย์ผู้ก่อตั้ง DOCTOR TONY Clinic
"ถ้าพูดถึงรังสีเป็น Visible Light คือ แสงที่เรามองเห็น ม่วง ครามน้ำเงิน แสด แดง ต่ำกว่านั้นจะเป็น UVA และ UVB ซึ่งมีความยาวคลื่นสั้นกว่าแสงที่เรามองเห็น โดยที่ UVB โดย B ย่อมาจาก Burn ความยาวคลื่นจะสั้นฉะนั้นมันจะอยู่ตื้นๆ จะทำให้เกิดรอยไหม้ รอยแดง ในขณะที่ UVA ลงลึกกว่าจะทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นของผิวหนัง
ปัจจุบัน เขาจะแยก UVA เป็น UVA 1 กับ UVA 2 สำคัญมากเพราะว่า ถ้าเทียบรังสี UV ทั้งหมดที่เข้ามาในโลกนี้ 100% จะเป็น UVB 5% เท่านั้น อีก 95% จะเป็น UVA เลย และใน 95% นั้นจะเป็น UVA 1 ถึง 75% ฉะนั้น UVA 1 มีความสำคัญในการทำให้คนเราผิวแก่ก่อนวัย ซึ่ง UVA 1 กันแดดที่จะใช้ในการป้องกันรังสี UVA 1 ได้ จะต้องมีความเฉพาะเจาะจง มีเพียงส่วนผสม 2 ตัวเท่านั้นที่กัน UVA 1 ได้ คือ Avobenzone และ Zinc Oxide ซึ่งต้องไปดูว่ากันแดดที่เราใช้มี 2 ตัวนี้หรือไม่
ในการเลือกครีมกันแดดนั้น ก็ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่ระบุทั้งค่า SPF และค่า PA เพื่อที่จะสามารถป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB
SPF คืออะไร (Sun Protective Factor) จะเป็นค่าที่ระบุว่าครีมนี้สามารถป้องกัน UVB ได้กี่เท่า เช่น ถ้าคนๆ นั้นออกแดดใช้เวลา 30 นาที ในการทำให้ผิวคนนั้นไหม้แดด SPF15 จะสามารถทำให้ผิวคนนั้นทนทานต่อแสงแดดเป็น 15 เท่า นำ 30x15 = 450 นาที
ตัวเลขที่ระบุหลัง SPF จะถูกนำมาคูณกับจำนวนนาทีที่ผิวเราทนต่อรังสี UVBได้ เช่นถ้าผิวหนังเราทน UVB ได้10 นาที ถ้าใช้ครีมกันแดด SPF30 = 10 นาที x 30 เท่า = 300 นาทีโดยประมาณ
ในขณะที่ UVA มักจะถูกระบุด้วยค่า PA (Protection Grade of UVA) และตามด้วยเครื่องหมาย+ เพื่อระบุจำนวนเท่า PA บวกเยอะเท่าไหร่ จะมีค่า PA เยอะมากขึ้นเท่านั้น
ซึ่งในปัจจุบันจะมี 3 ระดับ คือ PA+ , PA++ , PA+++ เรียงตามระดับความสามารถในการป้องกัน"
# ท่านผู้อ่านสามารถฝากคำถามสารพันปัญหาคาใจหญิงเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ ความงาม และแน่นอน เรื่องเซ็กซ์กับความสัมพันธ์ มาได้ที่ lady@astvmanager.com เราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญมาเคลียร์ให้หายคลางแคลงใจเลยค่ะ *_*
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
