By Lady Manager
ลีลาการพูดเร็วขานราคาระรัวเร้าอารมณ์ กระตุ้นความอยากซื้อ บวกกับท่าง้างค้อน มือไม้ไม่อยู่นิ่ง ก็ทำให้สนุกไปกับลานประมูลสุดๆ
ฮาวา- เกศริน อรุณฉาย พิธีกรประมูลรถมือหนึ่ง แห่ง บริษัท Manheim Asia Pacific นางอยู่ในยุทธจักรสายนี้มากว่า 15 ปี โดยเริ่มต้นจากเด็กที่คอยโหวกเหวกวิ่งไปวิ่งมาคอยดูคนยกมือ เปิดประตูรถ ช่วยดูบิล พาลูกค้าไปจ่ายเงิน จนถึงวันที่ต้องขึ้นเวทีโชว์สเต็บเทพกับลีลาเสียงสุดเร้า ขานราคาจากผู้ประมูลให้ตัดสินใจซื้อในเวลาจำกัด
ขึ้นเวทีประมูลครั้งแรกแบบชิลๆ เน้นสมาธินับเลข
“ด้วยความที่ทำกิจกรรมทางการพูด เจอคนเยอะ มาตั้งแต่เด็ก ม.1 - ม.6 จริงๆไม่ได้กล้าแสดงออกแต่จำเป็น เพราะเป็นกิจกรรม อาจารย์เขาคงเห็นอะไรในตัวเราก็เลยดันให้เราทำกิจกรรมทางด้านการพูด ดังนั้นการขึ้นเวทีครั้งแรกของเราจึงไม่ตื่นเต้น
เราแค่รู้สึกว่าเราต้องมีสมาธิกับการนับเลขมากกว่า ต้องมีสมาธิ ต้องมองลูกค้านับมือให้เห็น ต้องนับเลขให้ถูกต้อง โชคดีได้เดินสายออกต่างจังหวัดกับเทรนเนอร์ที่เป็นรุ่นพี่คนนึง ซึ่งพี่เขาให้แนวทางในการคิดเวลาทำงาน ว่าให้เราจัดกระบวนการ จัดระบบตนเองว่าเราจะขายของชิ้นนึง นอกจากรถแล้วประกอบด้วยหลายอย่าง เราจะทำอย่างไร เราจะพูดออกไปด้วยความเข้าใจของเราอย่างไร ถ้าเราเป็นคนซื้อเราอยากรู้อะไร ต้องจัดกระบวนการในความคิดของเราแล้วนำเสนอออกไป
แล้วในเรื่องของการเรียกราคา ในเรื่องของการกระตุ้นให้เขาสู้ราคา อันนี้เราก็ได้มาจากรุ่นพี่ และได้มาจากการประมูลด้วย ว่าการแสดงเจตนาซื้อของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ต้องศึกษาไปเรื่อยๆระหว่างการทำงาน” ฮาวา เล่าประสบการณ์การขึ้นเวทีครั้งแรกแบบชิลๆ
จังหวะเสียงขานราคาสุดเร้า กระตุ้นการตัดสินใจเร็วขึ้น!
ถ้าใครได้เห็นลีลาในการประมูลรถของเธอ จะต้องอึ้ง ทึ่ง แทบจะหงายเงิบ ! เรียกได้ว่า ฟังกันแทบไม่ทัน ตัวแม่เเร็ปเปอร์มาเองเลยทีเดียว
"ลีลาทำให้ไม่น่าเบื่อ น้ำเสียงต้องกระชับฉับไว ซื้อขายได้จริง ปอดต้องแข็งแรง พยายามขยับปากเยอะๆ เพราะเวลามีจำกัด การพูดทำให้กระตุ้นคนซื้อได้ ตัดสินใจได้เร็วขึ้น เราต้องย้ำเลขตัวสุดท้ายเสมอ เพราะคนอยู่ไกลอาจจะไม่ได้ยิน”
“มันไม่ใช่งานสบาย ยืนยิ้ม ต้องกล้านำเสนอ แก้ไขเฉพาะหน้าได้ดี ตื่นตัวตลอดเวลา ของราคาเป็นแสนเป็นล้าน ต้องปิดราคาขายให้เร็ว ปิดราคาขายภายใน 2 นาที
เคยเร็วสุดคันนึงนาทีเดียวก็เสร็จแล้ว เฉลี่ยทั่วไปประมาณ 2 นาที แต่ตอนนี้เราบังคับไม่ได้เพราะเนื่องจากตลาดรถยังนิ่งๆช่วงนี้รถมือสอง คือไม่ได้ว่าแย่ แต่ไม่ได้ว่าขายได้ดุเดือดเหมือนที่ผ่านมา ปิดการขายได้ แต่จะยากต้องใช้เวลา บางคันเราอาจจะดึงไป 3-4 นาที แต่ไปรวบรัดในบางคันที่เราจะรู้แน่ว่า คันนี้ราคาที่เขาตั้งมาขายได้แน่ บางคันที่ 1 นาที ก็เฉลี่ยกันไป
เราจะต้องทำการประมูลด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม ภาพลักษณ์ต้องโปร่งใสยุติธรรม ทุกอย่างต้องถูกต้อง บนความพอใจของผู้ซื้อ ผู้ขาย เพราะเราเป็นคนกลาง เพราะฉะนั้นเราต้องรู้ว่า ผู้ขายต้องการขายรถ ผู้ซื้อก็ต้องการซื้อ ความต้องการอาจจะต่างกันบ้าง แต่เราต้องจูน 2 ฝ่ายให้ตรงกัน ผู้ขายต้องการขายราคาสูง ผู้ซื้อต้องการขายราคาต่ำ ทำอย่างไรให้เขาเข้าใจว่าคันนี้มีราคากลางของมันอยู่ คุณหนีราคานี้ไปไหนไม่ได้ แล้วทุกอย่างต้องโปร่งใส ไม่มีการขายให้ใครเร็ว ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้ใคร
ความซื่อสัตย์ ความโปร่งใสต้องมีผลต่อหน้าที่การงานของ Auctioneer เช่นกัน แล้วผู้ขายที่นำรถมาขาย เขามองเราอยู่ ถ้าเราไม่โปร่งใส ถ้าเราไม่พยายามให้เขาเห็นว่า เราพยายามผลักดันจนเขาได้ราคาที่สูงที่สุดจริงๆ แล้ว ไม่ใช่เข้ามาปุ้บ รีบๆขายๆ ขายได้ขายไปเลย จริงๆคันนั้นอาจจะได้อีกหมื่นสองหมื่น หน้าที่ของเราคือทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้ขายที่ความรู้สึกว่าเราผลักดันเต็มที่แล้วนะ ให้ได้เต็มที่แล้ว ผู้ซื้อก็ยอมรับได้ในราคาที่เราพยายามจะนำเสนอ ว่าหมื่นสองหมื่นมันได้ตามรุ่นนี้ ปีนี้ สภาพแบบนี้ ยังได้
ฉะนั้นคุณซื้อได้ มันยังไม่ผิดราคาตลาด เราจะเน้นเสมอว่ามันยังไม่ผิดราคาตลาด ซื้อไปทำกำไรต่อได้ เราเองก็ต้องรู้ราคารถด้วย ว่าราคาปลีกขายเท่าไหร่ ราคาขายส่งที่เขาจะซื้อนำไปบวกทำกำไรขายต่อมันควรจะเป็นเท่าไหร่ในแต่ละรุ่น อาจจะไม่ได้รู้หมดแต่ต้องรู้ เป็นส่วนใหญ่ 90 กว่าเปอร์เซนต์ต้องรู้ แล้วจะทำให้ปิดการขายได้รวดเร็ว ทำอย่างไรก็ได้ให้เราสามารถปิดการขายได้ในราคาที่ผู้ขายพอใจ ผู้ซื้อพอใจ” ฮาวา ย้ำถึงความซื่อสัตย์ โปร่งใสของหน้าที่ Auctioneer
พูดเก่งไม่สำคัญ ประสาทสัมผัส ไหวพริบปฏิภาณต้องเลิศ
การเป็นพิธีกรประมูลไม่จำเป็นต้องพูดเก่งเจื้อยแจ้ว พูดน้ำไหลไฟดับ คนพูดไม่เก่ง ฝึกฝนกันได้
“ต้องมีปฏิภาณไหวพริบที่ดี ประสาทสัมผัสต้องไว มีประสบการณ์ก็จะเป็นตัวช่วย แต่มันฝึกกันได้ ควรมีประสบการณ์ในตลาดรถยนต์มือสองจะช่วยได้ดีที่สุด
เด็กที่ทำอยู่ตอนนี้ครึ่งหนึ่งมาจากคนพูดไม่เป็นเลย ทุกวันนี้ก่อนจะทำการประมูลบางคนยังต้องมีวิ่งเข้าห้องน้ำ เพราะตื่นเต้น แต่จากคนพูดไม่เก่ง พูดไม่เป็นตอนนี้ก็ปรับตัวเอง เราบอกเขาว่า หน้าที่ของเรา เราเป็นพิธีกรประมูล ไม่ใช่พิธีกร เราอาจจะไม่ต้องพูดเก่งมากเหมือนพิธีกร ไม่ต้องนำเสนอ พูดอะไรเยอะแยะ แต่เราต้องรู้วิธีการนำเสนอ วิธีการพรีเซนต์ว่าเราจะขายรถคันนี้ได้อย่างไร ช่วงเวลาไหนเราควรจะเร้าใจ ช่วงเวลาไหนเราควรจะชัดเจน ช่วงเวลาไหนควรจะดึงเวลาช้าลงมา ช่วงที่การสู้ราคามันดุเดือดเลือดพล่าน เป็นช่วงที่เราเองจะต้องใส่ลงไปเต็มๆ
เราเป็นคนควบคุมค่ะ บรรยากาศการประมูลจะให้คันไหนเป็นอย่างไร ถ้าเรารู้ว่ารถคันนี้ราคาเล่นได้ ขายได้แน่ๆ หน้าที่ของเราคือทำอย่างไรก็ได้ให้มันน่าสนใจให้รีบจบ จบให้ได้ รีบยกมือ แล้วรีบเคาะขายรีบจบการขายให้ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะรีบจบให้ผู้ขายเสียราคา ต้องคำนึงทั้งสองด้านด้วย เพราะฉะนั้น คนพูดไม่เป็น คนพูดไม่เก่ง เป็นพิธีกรประมูลได้ ถ้าใจเขาบอกว่า เขาต้องการจะเป็น เขาชอบ เขาอยากจะเป็น เขาอดทนได้ เพราะเรายืนกันยาว เดี๋ยวจะเห็นว่า ประมูลกันเดี๋ยวจะร้อนจะเหนื่อย พูดตลอด มันจะต้องมีแรงมีพลังงานพอสมควรถ้าเขาอดทนได้รักที่จะทำก็ฝึกได้ ใจเป็นหลัก”
รักษาเส้นเสียงให้ดีที่สุด ไม่ตะโกน อย่านอนดึก
เรื่องเจ็บป่วยคือเรื่องจิ๊บ ดึงเข็มน้ำเกลือกระโดดขึ้นเวทีก็เคยมาแล้ว!
“เพราะคิดอย่างเดียวว่า ทำอย่างไรให้ขายรถให้ได้ ส่วนในเรื่องของสุขภาพถ้าป่วยก็ทำงานยาก แต่ถ้าคนทำมาจะเป็นอัตโนมัติไปแล้ว ป่วยก็ทำได้ เคยดึงเข็มน้ำเกลือขึ้นเวที คือเวลาเป็นไข้หรืออะไรนิดหนึ่งพออยู่บนเวทีสมาธิจะอยู่ที่การขายรถแล้ว มันลืมหมดทุกอย่าง อย่างเดียวที่จะทำการประมูลไม่ได้ ก็คือเสียงไม่มี ซึ่งวาโชคดีว่าไม่เคยเลย เคยมีแต่เสียงแหบๆ รู้ว่ากำลังจะคออักเสบ แต่ไม่เคยเสียงหาย โชคดีของเรา ถามว่ามันจะเกิดได้ไหม มีสิทธิ์ วันนึงบางทีเสียงหายไปเลย บางคนเป็น
อยู่ที่การฝึกเสียงของแต่ละคน เราฝึกการใช้เสียงมา รวมถึงกายภาพของระบบทางเดินหายใจด้วยเพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเส้นเสียง Sensitive มาก ตะโกนนิดนึงเสียงก็ไปแล้ว เราจะพยายามสอน Auctioneer เราว่า อย่าตะโกน ใช้เสียงต้องคอนโทรล(Control)ให้เป็น เพราะคุณต้องอยู่กับมันทั้งวันครึ่งค่อนวัน อย่าไปเข่นเสียง อย่าไปทำให้เสียงพีคสุด อย่าไปทำให้เสียงแย่ ยิ่งทำให้แย่ลง ทำอย่างไรก็ได้ให้เร้าใจคนโดยไม่ต้องตะโกน ทุกคนจะถูกสอนมาว่าไม่ต้องตะโกน ไมค์ช่วยอยู่แล้ว พูดเบาปรับไมค์ให้ดังได้
สำหรับน้องๆ อาจจะต้องเตรียมพร้อมในเรื่องของสุขภาพ ทุกคนจะไม่นอนดึก ทานอาหารให้เรียบร้อย ส่วนในเรื่องของข้อมูลรถ เราต้องนั่งคุยเหมือนกันว่า วันนี้มีคันนี้นะ ขายยากหน่อย ต้องพยายามหน่อย เพราะตอนนี้รถซีดานขายยากหมด กระบะยังพอไปได้ แต่ราคาตอนนี้นิ่ง แต่รถสภาพดีๆก็ยังขายได้ สภาพที่สิบกว่าปี ราคาหลักหมื่นก็ยังขายได้ ถ้าราคาที่ตั้งมายังสูงเกินไป มันยังไม่ใช่ราคาที่ผู้ซื้อสามารถทำการซื้อได้ ก็ขายไม่ได้ ยากที่จะขาย แต่หน้าที่ของพิธีกรต้องทำให้เห็นว่า เราพยายามที่สุดแล้วถึงขั้นนี้ 4 รอบแล้ว เอาไงดี มากสุดของการเจรจา เป็นเดือนสองเดือนก็มีนะ ที่ยังขายไม่ได้ ส่วนใหญ่ตอนนี้ผู้ขายต้องเข้าใจตลาดว่า ถ้าไม่รีบปล่อยไปราคาก็ตกลงไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรดีขึ้น มันก็จะเสียโอกาสในการขาย ราคาอาจจะหายไปคันนึง อาจจะหายห้าหมื่น หรือเป็นแสนก็มีนะ ผ่านไปเดือนสองเดือน ในบางรุ่น”
ประมูลทุกอย่าง เครื่องเพชรยันสุนัข
ไม่ได้มีฝีปากในการประมูลรถเพียงอย่างเดียว บอกแล้วนางคร่ำหวอดในวงการมานาน เครื่องเพชร เครื่องจักร บ้าน รถ หาเจ้าของให้สุนัข ก็เคย!
“ตอนนี้ก็ยังประมูลทุกอย่างได้ถ้าหากมีเชิญไปในเรื่องงานการกุศลมากกว่า เพราะ หลักๆคือประมูลรถมือสอง และรถใหม่ของผู้ผลิต แต่ในส่วนของการประมูลอย่างอื่นปรับได้อยู่แล้ว เพราะเคยทำมา ทั้งสังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ เครื่องจักร เครื่องเพชร และสุนัข แต่ตอนนี้เป็นการกุศล เน้นไปช่วยเขามากกว่า
สินค้าแต่ละอย่างต่างกัน อย่างรถยนต์ผู้ซื้อเราชัดเจน เราเข้าใจตลาดค่อนข้างดี แต่เมื่อไหร่ที่เราไปขายของแปลกๆ เช่น เพชร หรืออะไรที่เป็นของมีค่า เราต้องไปก่อนเวลา ศึกษากับเขาเหมือนกันว่ามันคืออะไร บอกตรงๆว่าไม่รู้จัก คืออะไร เขาซื้อขายกันเท่าไหร่ วันนี้มีผู้ซื้อมาไหม เราต้องมาร์เก็ตติ้งตัวเองด้วย เราจะได้ไม่เหวอในงานประมูลของเรา คุณมั่นใจใช่ไหม คนที่มาทำการประมูลที่มาลงทะเบียนแล้วมีกี่คน คนที่คาดว่าจะประมูลแต่ละชิ้นมาบ้างหรือยัง เราต้องเช็กกันขนาดนั้น ส่วนรายละเอียดสินค้าข้อเด่นก็ต้องคุยกันก่อน ให้เขาแจ้งมาก่อนว่าคืออะไร อย่างไร
อสังหาริมทรัพย์ก็เคยทำ อสังหาฯจะเป็นอะไรที่สปีดในการพูดจะต่างจากประมูลรถอยู่แล้ว จะไปเนิบๆ เรื่อยๆ เพราะของตัดสินใจยากกว่า ราคาสูงกว่า ประมูลรถง่ายกว่าถ้าเขาชอบก็สู้ราคาเลย การตัดสินใจจะเฉียบขาดฉับไวมากกว่า อย่างบ้านต้องมีคนพาไปดูกันล่วงหน้า เราก็นัดวันประมูลเป็นเรื่องเป็นราว เป็นทางการ มีกำหนดการอะไรมากมาย กว่าจะได้มาประมูลก็ยากกว่า”
เกิดมาเพื่อสิ่งนี้! ลานประมูลคือโลกของเรา
“ ไม่เคยมีวันไหนตื่นแล้วไม่อยากมาทำงาน หรือขี้เกียจ เพราะที่นี่คือโลกของเรา” ฮาวา พูดย้ำชัด
“ฉะนั้นเรารู้สึกว่า ทุกอย่างเราอยู่ที่นี่ ชีวิตเราอยู่ที่นี่ อยากตื่นมาทำงานทุกวัน นี่ไม่ได้สร้างภาพนะ มันเป็นแบบนี้จริงๆ มันคือวันที่เป็นตัวเองมากที่สุดเวลาเราทำงาน เราเกิดมาเพื่อทำอาชีพนี้ กล้าพูดเลย เรามีความสุขในทุกครั้ง ทุกนาทีที่เราพูดใส่ไมค์
ก่อนหน้านี้เคยเปลี่ยนงานเหมือนกันไปเป็นมาร์เก็ตติ้งของบริษัทเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง แต่มันไม่ใช่เลย ไปนั่งเงียบๆ นั่งคิดกลยุทธการตลาด อึดอัด อยู่ไม่ได้ ข้าวปลากินไม่ได้ ลาออกเลย จากนั้นมาเป็นฟรีแลนซ์ประมูล เครื่องเพชร เครื่องจักร”
สำหรับคนที่กำลังมองหางานและสิ่งที่ใช่ให้กับตัวเอง คุณฮาวา แนะนำว่า
“พยายามเปิดหูเปิดตาให้กว้างๆแล้วก็มอง หากรู้สึกว่าอยากทำอะไรให้ลองทำเลย ถ้าไม่มีผลเสียต่อตนเองและผู้อื่น เพราะสิบอย่างที่ลองอาจจะมีสองอย่างที่มันคือตัวเรา เสต็บต่อไป เมื่อเจอสิ่งที่ตัวเองคิดว่าใช่แล้ว ลุยเลยให้เต็มที่อย่าทำแบบกั๊กเอาไว้ งานที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ที่ชอบที่ทุ่มเทอยู่ วัตถุประสงค์คืออะไร ต้องตีให้แตก ตั้งเป้าไว้ว่าทำให้ได้ แล้วทำให้มันได้
เราต้องรู้ว่าหน้าที่เราคืออะไร เป้าหมายของงานคืออะไร เป้าหมายของเราคืออะไร แล้วเดินไปให้ถึง แต่ถ้ามันจะไม่ถึงเผื่อใจเอาไว้ บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร แล้วพยายามต่อ สิบอย่างคุณลองมาอาจจะได้อย่างเดียว ทำไปแป้บเดียว อ้าวไม่ใช่อีกแล้ว มองหาอีกครั้ง คนเราเริ่มใหม่ได้ตลอด ไม่มีคำว่าสายกับการเริ่มต้นใหม่
เรื่องอายุไม่เกี่ยว คนเราทั้งชีวิต เริ่มต้นใหม่ได้ พยายามเดินไป แล้วไปถึงจุดหมาย อาจจะไม่ถึง ไปไม่สุดเหมือนคนอื่น แต่เรารู้ว่าเราเดินไปเต็มที่แล้วให้ภูมิใจ” สาวนักประมูลมือหนึ่ง กล่าว
ปิดท้ายกับคำถามกรุบกริบ เพราะเห็นลานประมูล ผู้ชายพรึ่บ! เรียกว่าละลานตากับพ่อค้ารถ แล้วฮาวาก็สวยหุ่นเซี๊ยะซะขนาดนี้ แอบถามอ่ะนะ ว่ามีหนุ่มๆ มาเจ๊าะเเจ๊ะจิ๊จ๊ะบ้างไหมจ๊ะ
“ก็มีบ้างค่ะ แต่เราต้องวางตัว เราทำธุรกิจเราซื้อขายรถยนต์ เราก็ต้องวางตัว มีเหมือนกันจะมาคุย มาอะไร เราก็ยิ้มแย้มตอบไปปกติ ไม่ได้ดึงพาเขาเข้าเรื่องพิศวาสอะไรกันบ้าง เราก็คุยเรื่องงานเป็นหลักมากกว่า ใครชมสวยก็ ขอบคุณค่ะ มันอยู่ที่การวางตัวค่ะ เราอยู่กับพ่อค้ารถ แต่พ่อค้ารถเขาก็มีมารยาทและวางตัวดีเช่นกัน ไม่ได้หมายความว่า เขามาเจอพนักงานสวยๆ แล้วจะต้องมาจีบเสมอไป เขาก็วางตัวเป็นเช่นกัน เขารู้ว่ามาที่นี่มาทำการค้า
ถามว่ามีบ้างมั้ย ก็มี แต่ต่างคนต่างรู้ว่าตัวเองทำอะไร และเราก็ชัดเจน! ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นแน่”
คลิปประมูลรถ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
ลีลาการพูดเร็วขานราคาระรัวเร้าอารมณ์ กระตุ้นความอยากซื้อ บวกกับท่าง้างค้อน มือไม้ไม่อยู่นิ่ง ก็ทำให้สนุกไปกับลานประมูลสุดๆ
ฮาวา- เกศริน อรุณฉาย พิธีกรประมูลรถมือหนึ่ง แห่ง บริษัท Manheim Asia Pacific นางอยู่ในยุทธจักรสายนี้มากว่า 15 ปี โดยเริ่มต้นจากเด็กที่คอยโหวกเหวกวิ่งไปวิ่งมาคอยดูคนยกมือ เปิดประตูรถ ช่วยดูบิล พาลูกค้าไปจ่ายเงิน จนถึงวันที่ต้องขึ้นเวทีโชว์สเต็บเทพกับลีลาเสียงสุดเร้า ขานราคาจากผู้ประมูลให้ตัดสินใจซื้อในเวลาจำกัด
ขึ้นเวทีประมูลครั้งแรกแบบชิลๆ เน้นสมาธินับเลข
“ด้วยความที่ทำกิจกรรมทางการพูด เจอคนเยอะ มาตั้งแต่เด็ก ม.1 - ม.6 จริงๆไม่ได้กล้าแสดงออกแต่จำเป็น เพราะเป็นกิจกรรม อาจารย์เขาคงเห็นอะไรในตัวเราก็เลยดันให้เราทำกิจกรรมทางด้านการพูด ดังนั้นการขึ้นเวทีครั้งแรกของเราจึงไม่ตื่นเต้น
เราแค่รู้สึกว่าเราต้องมีสมาธิกับการนับเลขมากกว่า ต้องมีสมาธิ ต้องมองลูกค้านับมือให้เห็น ต้องนับเลขให้ถูกต้อง โชคดีได้เดินสายออกต่างจังหวัดกับเทรนเนอร์ที่เป็นรุ่นพี่คนนึง ซึ่งพี่เขาให้แนวทางในการคิดเวลาทำงาน ว่าให้เราจัดกระบวนการ จัดระบบตนเองว่าเราจะขายของชิ้นนึง นอกจากรถแล้วประกอบด้วยหลายอย่าง เราจะทำอย่างไร เราจะพูดออกไปด้วยความเข้าใจของเราอย่างไร ถ้าเราเป็นคนซื้อเราอยากรู้อะไร ต้องจัดกระบวนการในความคิดของเราแล้วนำเสนอออกไป
แล้วในเรื่องของการเรียกราคา ในเรื่องของการกระตุ้นให้เขาสู้ราคา อันนี้เราก็ได้มาจากรุ่นพี่ และได้มาจากการประมูลด้วย ว่าการแสดงเจตนาซื้อของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ต้องศึกษาไปเรื่อยๆระหว่างการทำงาน” ฮาวา เล่าประสบการณ์การขึ้นเวทีครั้งแรกแบบชิลๆ
จังหวะเสียงขานราคาสุดเร้า กระตุ้นการตัดสินใจเร็วขึ้น!
ถ้าใครได้เห็นลีลาในการประมูลรถของเธอ จะต้องอึ้ง ทึ่ง แทบจะหงายเงิบ ! เรียกได้ว่า ฟังกันแทบไม่ทัน ตัวแม่เเร็ปเปอร์มาเองเลยทีเดียว
"ลีลาทำให้ไม่น่าเบื่อ น้ำเสียงต้องกระชับฉับไว ซื้อขายได้จริง ปอดต้องแข็งแรง พยายามขยับปากเยอะๆ เพราะเวลามีจำกัด การพูดทำให้กระตุ้นคนซื้อได้ ตัดสินใจได้เร็วขึ้น เราต้องย้ำเลขตัวสุดท้ายเสมอ เพราะคนอยู่ไกลอาจจะไม่ได้ยิน”
“มันไม่ใช่งานสบาย ยืนยิ้ม ต้องกล้านำเสนอ แก้ไขเฉพาะหน้าได้ดี ตื่นตัวตลอดเวลา ของราคาเป็นแสนเป็นล้าน ต้องปิดราคาขายให้เร็ว ปิดราคาขายภายใน 2 นาที
เคยเร็วสุดคันนึงนาทีเดียวก็เสร็จแล้ว เฉลี่ยทั่วไปประมาณ 2 นาที แต่ตอนนี้เราบังคับไม่ได้เพราะเนื่องจากตลาดรถยังนิ่งๆช่วงนี้รถมือสอง คือไม่ได้ว่าแย่ แต่ไม่ได้ว่าขายได้ดุเดือดเหมือนที่ผ่านมา ปิดการขายได้ แต่จะยากต้องใช้เวลา บางคันเราอาจจะดึงไป 3-4 นาที แต่ไปรวบรัดในบางคันที่เราจะรู้แน่ว่า คันนี้ราคาที่เขาตั้งมาขายได้แน่ บางคันที่ 1 นาที ก็เฉลี่ยกันไป
เราจะต้องทำการประมูลด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม ภาพลักษณ์ต้องโปร่งใสยุติธรรม ทุกอย่างต้องถูกต้อง บนความพอใจของผู้ซื้อ ผู้ขาย เพราะเราเป็นคนกลาง เพราะฉะนั้นเราต้องรู้ว่า ผู้ขายต้องการขายรถ ผู้ซื้อก็ต้องการซื้อ ความต้องการอาจจะต่างกันบ้าง แต่เราต้องจูน 2 ฝ่ายให้ตรงกัน ผู้ขายต้องการขายราคาสูง ผู้ซื้อต้องการขายราคาต่ำ ทำอย่างไรให้เขาเข้าใจว่าคันนี้มีราคากลางของมันอยู่ คุณหนีราคานี้ไปไหนไม่ได้ แล้วทุกอย่างต้องโปร่งใส ไม่มีการขายให้ใครเร็ว ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้ใคร
ความซื่อสัตย์ ความโปร่งใสต้องมีผลต่อหน้าที่การงานของ Auctioneer เช่นกัน แล้วผู้ขายที่นำรถมาขาย เขามองเราอยู่ ถ้าเราไม่โปร่งใส ถ้าเราไม่พยายามให้เขาเห็นว่า เราพยายามผลักดันจนเขาได้ราคาที่สูงที่สุดจริงๆ แล้ว ไม่ใช่เข้ามาปุ้บ รีบๆขายๆ ขายได้ขายไปเลย จริงๆคันนั้นอาจจะได้อีกหมื่นสองหมื่น หน้าที่ของเราคือทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้ขายที่ความรู้สึกว่าเราผลักดันเต็มที่แล้วนะ ให้ได้เต็มที่แล้ว ผู้ซื้อก็ยอมรับได้ในราคาที่เราพยายามจะนำเสนอ ว่าหมื่นสองหมื่นมันได้ตามรุ่นนี้ ปีนี้ สภาพแบบนี้ ยังได้
ฉะนั้นคุณซื้อได้ มันยังไม่ผิดราคาตลาด เราจะเน้นเสมอว่ามันยังไม่ผิดราคาตลาด ซื้อไปทำกำไรต่อได้ เราเองก็ต้องรู้ราคารถด้วย ว่าราคาปลีกขายเท่าไหร่ ราคาขายส่งที่เขาจะซื้อนำไปบวกทำกำไรขายต่อมันควรจะเป็นเท่าไหร่ในแต่ละรุ่น อาจจะไม่ได้รู้หมดแต่ต้องรู้ เป็นส่วนใหญ่ 90 กว่าเปอร์เซนต์ต้องรู้ แล้วจะทำให้ปิดการขายได้รวดเร็ว ทำอย่างไรก็ได้ให้เราสามารถปิดการขายได้ในราคาที่ผู้ขายพอใจ ผู้ซื้อพอใจ” ฮาวา ย้ำถึงความซื่อสัตย์ โปร่งใสของหน้าที่ Auctioneer
พูดเก่งไม่สำคัญ ประสาทสัมผัส ไหวพริบปฏิภาณต้องเลิศ
การเป็นพิธีกรประมูลไม่จำเป็นต้องพูดเก่งเจื้อยแจ้ว พูดน้ำไหลไฟดับ คนพูดไม่เก่ง ฝึกฝนกันได้
“ต้องมีปฏิภาณไหวพริบที่ดี ประสาทสัมผัสต้องไว มีประสบการณ์ก็จะเป็นตัวช่วย แต่มันฝึกกันได้ ควรมีประสบการณ์ในตลาดรถยนต์มือสองจะช่วยได้ดีที่สุด
เด็กที่ทำอยู่ตอนนี้ครึ่งหนึ่งมาจากคนพูดไม่เป็นเลย ทุกวันนี้ก่อนจะทำการประมูลบางคนยังต้องมีวิ่งเข้าห้องน้ำ เพราะตื่นเต้น แต่จากคนพูดไม่เก่ง พูดไม่เป็นตอนนี้ก็ปรับตัวเอง เราบอกเขาว่า หน้าที่ของเรา เราเป็นพิธีกรประมูล ไม่ใช่พิธีกร เราอาจจะไม่ต้องพูดเก่งมากเหมือนพิธีกร ไม่ต้องนำเสนอ พูดอะไรเยอะแยะ แต่เราต้องรู้วิธีการนำเสนอ วิธีการพรีเซนต์ว่าเราจะขายรถคันนี้ได้อย่างไร ช่วงเวลาไหนเราควรจะเร้าใจ ช่วงเวลาไหนเราควรจะชัดเจน ช่วงเวลาไหนควรจะดึงเวลาช้าลงมา ช่วงที่การสู้ราคามันดุเดือดเลือดพล่าน เป็นช่วงที่เราเองจะต้องใส่ลงไปเต็มๆ
เราเป็นคนควบคุมค่ะ บรรยากาศการประมูลจะให้คันไหนเป็นอย่างไร ถ้าเรารู้ว่ารถคันนี้ราคาเล่นได้ ขายได้แน่ๆ หน้าที่ของเราคือทำอย่างไรก็ได้ให้มันน่าสนใจให้รีบจบ จบให้ได้ รีบยกมือ แล้วรีบเคาะขายรีบจบการขายให้ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะรีบจบให้ผู้ขายเสียราคา ต้องคำนึงทั้งสองด้านด้วย เพราะฉะนั้น คนพูดไม่เป็น คนพูดไม่เก่ง เป็นพิธีกรประมูลได้ ถ้าใจเขาบอกว่า เขาต้องการจะเป็น เขาชอบ เขาอยากจะเป็น เขาอดทนได้ เพราะเรายืนกันยาว เดี๋ยวจะเห็นว่า ประมูลกันเดี๋ยวจะร้อนจะเหนื่อย พูดตลอด มันจะต้องมีแรงมีพลังงานพอสมควรถ้าเขาอดทนได้รักที่จะทำก็ฝึกได้ ใจเป็นหลัก”
รักษาเส้นเสียงให้ดีที่สุด ไม่ตะโกน อย่านอนดึก
เรื่องเจ็บป่วยคือเรื่องจิ๊บ ดึงเข็มน้ำเกลือกระโดดขึ้นเวทีก็เคยมาแล้ว!
“เพราะคิดอย่างเดียวว่า ทำอย่างไรให้ขายรถให้ได้ ส่วนในเรื่องของสุขภาพถ้าป่วยก็ทำงานยาก แต่ถ้าคนทำมาจะเป็นอัตโนมัติไปแล้ว ป่วยก็ทำได้ เคยดึงเข็มน้ำเกลือขึ้นเวที คือเวลาเป็นไข้หรืออะไรนิดหนึ่งพออยู่บนเวทีสมาธิจะอยู่ที่การขายรถแล้ว มันลืมหมดทุกอย่าง อย่างเดียวที่จะทำการประมูลไม่ได้ ก็คือเสียงไม่มี ซึ่งวาโชคดีว่าไม่เคยเลย เคยมีแต่เสียงแหบๆ รู้ว่ากำลังจะคออักเสบ แต่ไม่เคยเสียงหาย โชคดีของเรา ถามว่ามันจะเกิดได้ไหม มีสิทธิ์ วันนึงบางทีเสียงหายไปเลย บางคนเป็น
อยู่ที่การฝึกเสียงของแต่ละคน เราฝึกการใช้เสียงมา รวมถึงกายภาพของระบบทางเดินหายใจด้วยเพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเส้นเสียง Sensitive มาก ตะโกนนิดนึงเสียงก็ไปแล้ว เราจะพยายามสอน Auctioneer เราว่า อย่าตะโกน ใช้เสียงต้องคอนโทรล(Control)ให้เป็น เพราะคุณต้องอยู่กับมันทั้งวันครึ่งค่อนวัน อย่าไปเข่นเสียง อย่าไปทำให้เสียงพีคสุด อย่าไปทำให้เสียงแย่ ยิ่งทำให้แย่ลง ทำอย่างไรก็ได้ให้เร้าใจคนโดยไม่ต้องตะโกน ทุกคนจะถูกสอนมาว่าไม่ต้องตะโกน ไมค์ช่วยอยู่แล้ว พูดเบาปรับไมค์ให้ดังได้
สำหรับน้องๆ อาจจะต้องเตรียมพร้อมในเรื่องของสุขภาพ ทุกคนจะไม่นอนดึก ทานอาหารให้เรียบร้อย ส่วนในเรื่องของข้อมูลรถ เราต้องนั่งคุยเหมือนกันว่า วันนี้มีคันนี้นะ ขายยากหน่อย ต้องพยายามหน่อย เพราะตอนนี้รถซีดานขายยากหมด กระบะยังพอไปได้ แต่ราคาตอนนี้นิ่ง แต่รถสภาพดีๆก็ยังขายได้ สภาพที่สิบกว่าปี ราคาหลักหมื่นก็ยังขายได้ ถ้าราคาที่ตั้งมายังสูงเกินไป มันยังไม่ใช่ราคาที่ผู้ซื้อสามารถทำการซื้อได้ ก็ขายไม่ได้ ยากที่จะขาย แต่หน้าที่ของพิธีกรต้องทำให้เห็นว่า เราพยายามที่สุดแล้วถึงขั้นนี้ 4 รอบแล้ว เอาไงดี มากสุดของการเจรจา เป็นเดือนสองเดือนก็มีนะ ที่ยังขายไม่ได้ ส่วนใหญ่ตอนนี้ผู้ขายต้องเข้าใจตลาดว่า ถ้าไม่รีบปล่อยไปราคาก็ตกลงไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรดีขึ้น มันก็จะเสียโอกาสในการขาย ราคาอาจจะหายไปคันนึง อาจจะหายห้าหมื่น หรือเป็นแสนก็มีนะ ผ่านไปเดือนสองเดือน ในบางรุ่น”
ประมูลทุกอย่าง เครื่องเพชรยันสุนัข
ไม่ได้มีฝีปากในการประมูลรถเพียงอย่างเดียว บอกแล้วนางคร่ำหวอดในวงการมานาน เครื่องเพชร เครื่องจักร บ้าน รถ หาเจ้าของให้สุนัข ก็เคย!
“ตอนนี้ก็ยังประมูลทุกอย่างได้ถ้าหากมีเชิญไปในเรื่องงานการกุศลมากกว่า เพราะ หลักๆคือประมูลรถมือสอง และรถใหม่ของผู้ผลิต แต่ในส่วนของการประมูลอย่างอื่นปรับได้อยู่แล้ว เพราะเคยทำมา ทั้งสังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ เครื่องจักร เครื่องเพชร และสุนัข แต่ตอนนี้เป็นการกุศล เน้นไปช่วยเขามากกว่า
สินค้าแต่ละอย่างต่างกัน อย่างรถยนต์ผู้ซื้อเราชัดเจน เราเข้าใจตลาดค่อนข้างดี แต่เมื่อไหร่ที่เราไปขายของแปลกๆ เช่น เพชร หรืออะไรที่เป็นของมีค่า เราต้องไปก่อนเวลา ศึกษากับเขาเหมือนกันว่ามันคืออะไร บอกตรงๆว่าไม่รู้จัก คืออะไร เขาซื้อขายกันเท่าไหร่ วันนี้มีผู้ซื้อมาไหม เราต้องมาร์เก็ตติ้งตัวเองด้วย เราจะได้ไม่เหวอในงานประมูลของเรา คุณมั่นใจใช่ไหม คนที่มาทำการประมูลที่มาลงทะเบียนแล้วมีกี่คน คนที่คาดว่าจะประมูลแต่ละชิ้นมาบ้างหรือยัง เราต้องเช็กกันขนาดนั้น ส่วนรายละเอียดสินค้าข้อเด่นก็ต้องคุยกันก่อน ให้เขาแจ้งมาก่อนว่าคืออะไร อย่างไร
อสังหาริมทรัพย์ก็เคยทำ อสังหาฯจะเป็นอะไรที่สปีดในการพูดจะต่างจากประมูลรถอยู่แล้ว จะไปเนิบๆ เรื่อยๆ เพราะของตัดสินใจยากกว่า ราคาสูงกว่า ประมูลรถง่ายกว่าถ้าเขาชอบก็สู้ราคาเลย การตัดสินใจจะเฉียบขาดฉับไวมากกว่า อย่างบ้านต้องมีคนพาไปดูกันล่วงหน้า เราก็นัดวันประมูลเป็นเรื่องเป็นราว เป็นทางการ มีกำหนดการอะไรมากมาย กว่าจะได้มาประมูลก็ยากกว่า”
เกิดมาเพื่อสิ่งนี้! ลานประมูลคือโลกของเรา
“ ไม่เคยมีวันไหนตื่นแล้วไม่อยากมาทำงาน หรือขี้เกียจ เพราะที่นี่คือโลกของเรา” ฮาวา พูดย้ำชัด
“ฉะนั้นเรารู้สึกว่า ทุกอย่างเราอยู่ที่นี่ ชีวิตเราอยู่ที่นี่ อยากตื่นมาทำงานทุกวัน นี่ไม่ได้สร้างภาพนะ มันเป็นแบบนี้จริงๆ มันคือวันที่เป็นตัวเองมากที่สุดเวลาเราทำงาน เราเกิดมาเพื่อทำอาชีพนี้ กล้าพูดเลย เรามีความสุขในทุกครั้ง ทุกนาทีที่เราพูดใส่ไมค์
ก่อนหน้านี้เคยเปลี่ยนงานเหมือนกันไปเป็นมาร์เก็ตติ้งของบริษัทเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง แต่มันไม่ใช่เลย ไปนั่งเงียบๆ นั่งคิดกลยุทธการตลาด อึดอัด อยู่ไม่ได้ ข้าวปลากินไม่ได้ ลาออกเลย จากนั้นมาเป็นฟรีแลนซ์ประมูล เครื่องเพชร เครื่องจักร”
สำหรับคนที่กำลังมองหางานและสิ่งที่ใช่ให้กับตัวเอง คุณฮาวา แนะนำว่า
“พยายามเปิดหูเปิดตาให้กว้างๆแล้วก็มอง หากรู้สึกว่าอยากทำอะไรให้ลองทำเลย ถ้าไม่มีผลเสียต่อตนเองและผู้อื่น เพราะสิบอย่างที่ลองอาจจะมีสองอย่างที่มันคือตัวเรา เสต็บต่อไป เมื่อเจอสิ่งที่ตัวเองคิดว่าใช่แล้ว ลุยเลยให้เต็มที่อย่าทำแบบกั๊กเอาไว้ งานที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ที่ชอบที่ทุ่มเทอยู่ วัตถุประสงค์คืออะไร ต้องตีให้แตก ตั้งเป้าไว้ว่าทำให้ได้ แล้วทำให้มันได้
เราต้องรู้ว่าหน้าที่เราคืออะไร เป้าหมายของงานคืออะไร เป้าหมายของเราคืออะไร แล้วเดินไปให้ถึง แต่ถ้ามันจะไม่ถึงเผื่อใจเอาไว้ บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร แล้วพยายามต่อ สิบอย่างคุณลองมาอาจจะได้อย่างเดียว ทำไปแป้บเดียว อ้าวไม่ใช่อีกแล้ว มองหาอีกครั้ง คนเราเริ่มใหม่ได้ตลอด ไม่มีคำว่าสายกับการเริ่มต้นใหม่
เรื่องอายุไม่เกี่ยว คนเราทั้งชีวิต เริ่มต้นใหม่ได้ พยายามเดินไป แล้วไปถึงจุดหมาย อาจจะไม่ถึง ไปไม่สุดเหมือนคนอื่น แต่เรารู้ว่าเราเดินไปเต็มที่แล้วให้ภูมิใจ” สาวนักประมูลมือหนึ่ง กล่าว
ปิดท้ายกับคำถามกรุบกริบ เพราะเห็นลานประมูล ผู้ชายพรึ่บ! เรียกว่าละลานตากับพ่อค้ารถ แล้วฮาวาก็สวยหุ่นเซี๊ยะซะขนาดนี้ แอบถามอ่ะนะ ว่ามีหนุ่มๆ มาเจ๊าะเเจ๊ะจิ๊จ๊ะบ้างไหมจ๊ะ
“ก็มีบ้างค่ะ แต่เราต้องวางตัว เราทำธุรกิจเราซื้อขายรถยนต์ เราก็ต้องวางตัว มีเหมือนกันจะมาคุย มาอะไร เราก็ยิ้มแย้มตอบไปปกติ ไม่ได้ดึงพาเขาเข้าเรื่องพิศวาสอะไรกันบ้าง เราก็คุยเรื่องงานเป็นหลักมากกว่า ใครชมสวยก็ ขอบคุณค่ะ มันอยู่ที่การวางตัวค่ะ เราอยู่กับพ่อค้ารถ แต่พ่อค้ารถเขาก็มีมารยาทและวางตัวดีเช่นกัน ไม่ได้หมายความว่า เขามาเจอพนักงานสวยๆ แล้วจะต้องมาจีบเสมอไป เขาก็วางตัวเป็นเช่นกัน เขารู้ว่ามาที่นี่มาทำการค้า
ถามว่ามีบ้างมั้ย ก็มี แต่ต่างคนต่างรู้ว่าตัวเองทำอะไร และเราก็ชัดเจน! ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นแน่”
คลิปประมูลรถ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
