>>ข่าวฉาวเรื่องยุ่งๆ ในมุ้งของผู้นำฝรั่งเศสกำลังเป็นที่สนใจของสาธารณชนทั่วโลก เมื่อประธานาธิบดีคนปัจจุบัน "ฟรองซัวส์ อองลองด์" วัย 59 ปี ยอมรับว่าแอบไปมีกิ๊กกับดาราหนังรุ่นใหญ่ของฝรั่งเศส อย่าง "จูลี่ กาเยท์" วัย 41 ปี ที่เคยเป็นเซ็กซี่สตาร์ จนมีข่าวว่าสุภาพสตรีหมายเลข 1 คนปัจจุบัน "วาเลอรี่ เทรียร์ไวย์เลอร์" อดีตนักข่าวสาวที่ฟรองซัวส์ควงกันมาหลายปีหลังจากเลิกรากับ "ซาโกลีน รอยาล" อดีตภรรยาและมารดาของลูกๆ ทั้ง 4 เสียอกเสียใจจนงดออกสื่อไป
ข่าวเรื่องกิ๊กนี้แดงออกมาได้เมื่อมีปาปาราซซีจับภาพตอนที่ฟรองซัวส์ย่องไปหากิ๊กที่รังรักใกล้ๆ กับที่พักประธานาธิบดีบนถนนช็องเอลีเซ่ โดยจะหลบสื่อและสายตามวลชนด้วยการเดินทางไปตอนค่ำๆ พร้อมขี่สกู๊ตเตอร์ไปแบบแอบๆ ด้วยการพรางตัวสวมหมวกติดฟิล์มดำมืดมองไม่เห็นใบหน้า
โดยงานนี้นอกจากข่าวกิ๊กดูจะกลายเป็นเรื่องจริงจังมากกว่าแค่สัมพันธ์ซ่อนเร้น เพราะมีข่าวลือว่าดาราสาวกำลังตั้งท้องทายาทกับผู้นำฝรั่งเศสได้ 4 เดือนแล้ว และน่าจะคลอดในช่วงราวฤดูใบไม้ผลิปีนี้ ซึ่งสาวจูลี่ไม่ได้ท้องนี้เป็นท้องแรก แต่เธอเคยแต่งงานและมีลูกติดมาแล้ว 2 คน จากสามีเก่า ซึ่งพอได้ยินข่าวที่ว่านี้ สาววาเลอรี่ถึงกับช็อกจนล้มป่วยต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
เรื่องราวร้อนแรงขนาดนี้ทำให้ในงานวันแถลงข่าวเรื่องการเดินทางไปเยือนประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมีนาคมของประธานาธิบดีฝรั่งเศส นักข่าวเมืองน้ำหอมหลายสำนักจึงจ้องจะสาวไส้ลึกถึงเรื่องรักเรื่องเลิกนี้ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นที่ว่า ได้เลิกรากันแล้วหรือยัง แล้วตอนนี้ใครกันแน่ที่เป็นสตรีหมายเลข 1
ดังนั้น ฟรองซัวส์จึงรีบประกาศตั้งแต่ตอนเริ่มต้นงานด้วยการบอกว่า อยากให้ถามแต่เรื่องงานและเรื่องกำหนดการเดินทาง และไม่ขอตอบเรื่องส่วนตัว ซึ่งในตอนแรกก็เหมือนว่านักข่าวจะให้ความร่วมมือด้วยดี แต่พอช่วงท้ายการแถลงข่าวกลับเริ่มมีการถล่มยิงคำถามเกี่ยวกับเรื่องในมุ้ง จนทำให้ฟรองซัวส์ถึงกับปรี๊ดแตก ประชดประชันให้ว่า
“แม้ว่าประเทศเราจะเป็นประเทศแห่งเสรีภาพ แต่ก็ขอให้เคารพในเรื่องส่วนตัวและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์กันหน่อย” แต่ก็ไม่วายทิ้งระเบิดในช่วงท้ายถึงประเด็นสุภาพสตรีหมายเลข 1 ว่าสาววาเลอรี่ เทรียร์ไวย์เลอร์ ไม่ได้เป็นสุภาพสตรีหมายเลข 1 ตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกัน เพราะคบกันจริงแต่ไม่ได้แต่งงานตามกฏหมาย ไม่ได้มีสถานะอย่างเป็นทางการแต่ทุกคนเรียกกันไปเองทั้งนั้น
ตอนนี้ฟรองซัวส์จึงถูกถล่มอย่างหนัก เพราะชาวฝรั่งเศสไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวเหมือนที่เขาคิด แต่ชาวฝรั่งเศสเห็นว่า เงินภาษีของเขาส่วนหนึ่งต้องถูกนำไปเป็นงบประมาณในส่วนของสตรีหมายเลข 1 ซึ่งมีงบประมาณในการจัดการดูแลสูงถึงเดือนละเกือบ 1 ล้านบาท โดยจะมีทีมงานถึง 5 คนคอยดูแล มีคนขับรถส่วนตัว และการใช้เครื่องบินส่วนตัวหรือรถลีมูซีนอีกด้วย ดังนั้น เขาน่าจะได้รับรู้ว่าเงินภาษีเขาไปตกอยู่ที่ไหนบ้าง และเริ่มกลายเป็นกระแสเรียกร้องว่าตำแหน่งสุภาพสตรีหมายเลข 1 นี่จำเป็นอยู่ไหม?
… รักเร้นๆ ครั้งนี้ดูจะกลายเป็นเรื่องไฟไหม้ฟางที่กำลังจะเผาเก้าอี้ของประธานาธิบดีฟรองซัวส์ให้ร้อนขึ้นทุกขณะ และคนที่ดูจะช้ำที่สุดก็คงหนีไม่พ้นสาววาเลอรี่ ที่ดูท่าจะตกกระป๋องในอนาคตอันใกล้นี้ …
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/