By Lady Manager
Bobbi Brown เปิดตัว Makeup Lessons คลาสเรียนเน้นการสอนแบบตัวต่อตัว! รวมถึงการถ่ายทอดทิปแบบไม่มีกั๊ก เทคนิคเรียบง่ายแต่จัดเต็ม ไม่ซับซ้อน
มีหลากหลายเมนู Makeup Lessons ให้เลือกเรียนกันเพียบ แต่ช่วงนี้เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลแห่งงานมงคลสมรส และฤดูรับซอง(งานแต่ง) เราจึงขอเลือกคลาส Party Makeup (3,000 บาท) พร้อมแลกซื้อเครื่องสำอางได้มูลค่า 3,000 บาทเช่นกัน นั่นเท่ากับเรียนฟรีใช่มะ! อ่าห์ ฟิน!
เมกอัพอาร์ทติสที่จะมาสอนเราวันนี้คือ คุณโดม-พัชระ สุขพันธ์ Studio Manager แห่ง Bobbi Brown อ๊ะ! งั้นเรามาเริ่มเรียนกันเลยจ๊ะ
Step 1: สกินแคร์ คีย์หลักเมกอัพเนียนกริ๊บ!
เรามาเริ่มกันที่การเคลนซิ่ง (Cleansing) หน้าให้สะอาด หลังจากกันคิ้วออกให้เข้ารูปทรงเพราะเป็นคนคิ้วดกจนรกรุงรัง
“จากนั้นขั้นตอนแรกกับการบำรุงผิงหน้า เพราะหากใบหน้าไม่เรียนเนียนขาดความชุ่มชื้นจะทำให้แต่งหน้าไม่ทน
เพราะผิวค่อนข้างแห้ง ขาดน้ำแบบสุดๆ ลงอายครีม (Eyecream) และลงมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ให้ทั่วใบหน้า อ้อ!ระวังด้วยค่ะ หากลงครีมบำรุงเยอะไปก็ไม่ดีอีก เพราะจะทำให้ลงรองพื้นไม่ติด หลุดง่าย เป็นคราบ
จากนั้นทาลิปบาล์มเพื่อให้ริมฝีปากชุ่มชื้นไม่แห้งกรัง” คุณโดม บอกเทคนิคปรับผิวหน้าให้เนียนชุ่มชื้น ซึ่งเป็นคีย์หลักในการแต่งหน้าให้เนียนกริ๊บ!
Step 2 : ลงรองพื้นปรับผิวให้ปิ๊ง!
จากนั้นลง Skin Foundation Beige ด้วยแปรง แอบถามคุณโดมได้ความมาว่า
“เพราะหากใช้ฟองน้ำจะเปลืองครีมรองพื้น ส่วนใช้นิ้วก็จะเกลี่ยได้ไม่เนียน สุดท้าย แปรงเลิศที่สุด” คุณโดม กล่าว
จากนั้นลงคอนซีลเลอร์(Concealer) สีพีช(Peach) ใต้ตาเพื่ออำพรางให้ใต้ตาดูตื้นขึ้น เพราะเราเป็นคนใต้ตาคล้ำมากเนื่องจากนอนดึกเป็นประจำ แถมเป็นพวกประเภทเบ้าตาชัด หนังตาดำอีกต่างหาก
มาถึงขั้นตอนสำคัญของการฉาบหน้าและการปรับสีผิวปกปิดรอยแดง รอยดำ และสิว ด้วยการลง Skin Foundation โดยวัดจากสีผิวจริงเท่านั้น รับประกันว่าหน้าจะไม่วอก หรือคล้ำเกินไป
คุณโดม แนะด้วยว่า
“การทารองพื้นนั้นควรบีบใส่หลังมือก่อนแล้วจึงใช้แปรงช่วย เริ่มจากทากลางแก้มก่อน โดยไม่ลงทับคอนซีลเลอร์เด็ดขาด ให้เว้นไว้ เพราะจะทำให้บริเวณที่ใช้คอนซีลเลอร์กลบไว้จะหนาผิดปกติและเป็นคราบ
ใช้แปรงเกลี่ยออกด้านข้างไปตามทิศทางกล้ามเนื้อ สุดท้ายใช้มือกดเพื่อให้รองพื้นเซ็ทตัว การกดรองพื้นย้ำๆเป็นการดี จะทำให้ครีมรองพื้นไม่ตกไปในรูขุมขนดูไม่สบายตา
จากนั้นใช้แป้งฝุ่น Press Powder ลงทับเพื่อลดความมัน และเพิ่มความเนียน” คุณโดม แอบบอกเทคนิคตลอดเวลา
Step 3 : ฉีกยิ้มปัดพวงแก้ม ลิปสีอ่อนป้องกันหน้าก่อม็อบ
ทาปากด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อน
“เพราะหากตาเข้มแล้ว ปากยังเข้มอีก หน้าเราจะมีการก่อม็อบกันเกิดขึ้น คือจะแย่งซีนกันนั่นเอง นอกเสียจากว่าเป็นสาวมั่นสุดๆ เช่น โอปอล์ การทาลิปสีแดงกับสโมกกี้อายถึงจะทำได้
จากนั้นปัดแก้มด้วยสีชมพูอ่อน เพราะผิวนางแบบมีรอยแดง หากใช้สีเข้มกว่านี้จะยิ่งเน้นให้เห็นเด่นชัดว่าแก้มมีรอยแดงมากขึ้น
ก่อนปัดแก้มควรฉีกยิ้มเยอะๆ เพื่อให้เห็นพวงแก้มได้อย่างชัดเจน เพื่อจะได้รู้ตำแหน่งที่ควรจะปัด จากนั้นปัดตรงพวงแก้ม
กรณีนี้นางแบบเป็นคนผิวแห้งมากจึงแนะนำให้ใช้ Blush ในรูปแบบครีม เพื่อจะได้สีที่ติดทนนานกว่าแบบฝุ่น” คุณโดม แนะนำ
Step 4 : ดวงตาโดดเด่นสวยสะพรึงด้วยสโมกกี้อาย
“ปรับสีคิ้วให้คล้ายสีผม และเก็บรายละเอียดด้วยมาสคาร่า (Mascara) คิ้ว และหากคิ้วแหว่งให้เติมด้วยสีเข้มเพื่ออำพรางว่า คิ้วเท่ากัน
โดมแนะนำว่า ใต้ท้องคิ้วนั้นต้องสะอาด เกลี้ยงเกลา ด้วยการใช้แปรงแต้มสีอ่อนให้ทั่วท้องคิ้ว เพราะจะทำให้คิ้วดูโดดเด่น ปรับตาให้สว่างใส
การแต่งหน้าสไตล์สโมกกี้อาย (Smokey eye) ต้องลงสีอ่อนก่อนทุกครั้ง จะไม่มีการคัดเบ้าเพราะจะดูเชย โบราณ
วิธีที่ดีที่สุดควรใช้แปรงแต้มสีเข้มทาบริเวณหางตาเบลนด์สีเข้าไปแทนการคัดเบ้า การทำสโมกกี้อายเลี่ยงไม่ได้เลยคือใต้ตาจะเลอะเปื้อน หากแต่งตาเสร็จแล้วให้เช็ดใต้ใช้อายครีม หากใช้อายรีมูฟเวอร์ (Eye Remover)ใต้ตาจะเกิดอาการสีแหว่งคอนซีลเลอร์หายทันที
ส่วนการกรีดอายไลน์เนอร์ (Eye Liner) ด้วยเนื้อเจลนั้น เทคนิคคือ แตะเป็นจุดไข่ปลาตามรูปตาเพื่อให้ชิดขอบตามากที่สุด จากนั้นเติมหางเขียนตาให้ยาวออกไป ไม่ตวัดขึ้นเพราะจะดูเชย ข้อสำคัญบริเวณใต้ตาเส้นอายไลน์เนอร์ต้องเชื่อมต่อกัน
จากนั้นเบลนด์สีอายไลน์เนอร์ให้เข้ากับอายแชโดว์เพื่อให้ดูฟุ้งๆ ตามคอนเซ็ปต์ Smoky Eye”
ปิดท้ายด้วยกันดัดขนตา ปัดมาสคาร่า เป็นอันเสร็จสรรพ !
ขอบคุณ! เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง Bobbi Brown สยามพารากอน
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Bobbi Brown เปิดตัว Makeup Lessons คลาสเรียนเน้นการสอนแบบตัวต่อตัว! รวมถึงการถ่ายทอดทิปแบบไม่มีกั๊ก เทคนิคเรียบง่ายแต่จัดเต็ม ไม่ซับซ้อน
มีหลากหลายเมนู Makeup Lessons ให้เลือกเรียนกันเพียบ แต่ช่วงนี้เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลแห่งงานมงคลสมรส และฤดูรับซอง(งานแต่ง) เราจึงขอเลือกคลาส Party Makeup (3,000 บาท) พร้อมแลกซื้อเครื่องสำอางได้มูลค่า 3,000 บาทเช่นกัน นั่นเท่ากับเรียนฟรีใช่มะ! อ่าห์ ฟิน!
เมกอัพอาร์ทติสที่จะมาสอนเราวันนี้คือ คุณโดม-พัชระ สุขพันธ์ Studio Manager แห่ง Bobbi Brown อ๊ะ! งั้นเรามาเริ่มเรียนกันเลยจ๊ะ
Step 1: สกินแคร์ คีย์หลักเมกอัพเนียนกริ๊บ!
เรามาเริ่มกันที่การเคลนซิ่ง (Cleansing) หน้าให้สะอาด หลังจากกันคิ้วออกให้เข้ารูปทรงเพราะเป็นคนคิ้วดกจนรกรุงรัง
“จากนั้นขั้นตอนแรกกับการบำรุงผิงหน้า เพราะหากใบหน้าไม่เรียนเนียนขาดความชุ่มชื้นจะทำให้แต่งหน้าไม่ทน
เพราะผิวค่อนข้างแห้ง ขาดน้ำแบบสุดๆ ลงอายครีม (Eyecream) และลงมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ให้ทั่วใบหน้า อ้อ!ระวังด้วยค่ะ หากลงครีมบำรุงเยอะไปก็ไม่ดีอีก เพราะจะทำให้ลงรองพื้นไม่ติด หลุดง่าย เป็นคราบ
จากนั้นทาลิปบาล์มเพื่อให้ริมฝีปากชุ่มชื้นไม่แห้งกรัง” คุณโดม บอกเทคนิคปรับผิวหน้าให้เนียนชุ่มชื้น ซึ่งเป็นคีย์หลักในการแต่งหน้าให้เนียนกริ๊บ!
Step 2 : ลงรองพื้นปรับผิวให้ปิ๊ง!
จากนั้นลง Skin Foundation Beige ด้วยแปรง แอบถามคุณโดมได้ความมาว่า
“เพราะหากใช้ฟองน้ำจะเปลืองครีมรองพื้น ส่วนใช้นิ้วก็จะเกลี่ยได้ไม่เนียน สุดท้าย แปรงเลิศที่สุด” คุณโดม กล่าว
จากนั้นลงคอนซีลเลอร์(Concealer) สีพีช(Peach) ใต้ตาเพื่ออำพรางให้ใต้ตาดูตื้นขึ้น เพราะเราเป็นคนใต้ตาคล้ำมากเนื่องจากนอนดึกเป็นประจำ แถมเป็นพวกประเภทเบ้าตาชัด หนังตาดำอีกต่างหาก
มาถึงขั้นตอนสำคัญของการฉาบหน้าและการปรับสีผิวปกปิดรอยแดง รอยดำ และสิว ด้วยการลง Skin Foundation โดยวัดจากสีผิวจริงเท่านั้น รับประกันว่าหน้าจะไม่วอก หรือคล้ำเกินไป
คุณโดม แนะด้วยว่า
“การทารองพื้นนั้นควรบีบใส่หลังมือก่อนแล้วจึงใช้แปรงช่วย เริ่มจากทากลางแก้มก่อน โดยไม่ลงทับคอนซีลเลอร์เด็ดขาด ให้เว้นไว้ เพราะจะทำให้บริเวณที่ใช้คอนซีลเลอร์กลบไว้จะหนาผิดปกติและเป็นคราบ
ใช้แปรงเกลี่ยออกด้านข้างไปตามทิศทางกล้ามเนื้อ สุดท้ายใช้มือกดเพื่อให้รองพื้นเซ็ทตัว การกดรองพื้นย้ำๆเป็นการดี จะทำให้ครีมรองพื้นไม่ตกไปในรูขุมขนดูไม่สบายตา
จากนั้นใช้แป้งฝุ่น Press Powder ลงทับเพื่อลดความมัน และเพิ่มความเนียน” คุณโดม แอบบอกเทคนิคตลอดเวลา
Step 3 : ฉีกยิ้มปัดพวงแก้ม ลิปสีอ่อนป้องกันหน้าก่อม็อบ
ทาปากด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อน
“เพราะหากตาเข้มแล้ว ปากยังเข้มอีก หน้าเราจะมีการก่อม็อบกันเกิดขึ้น คือจะแย่งซีนกันนั่นเอง นอกเสียจากว่าเป็นสาวมั่นสุดๆ เช่น โอปอล์ การทาลิปสีแดงกับสโมกกี้อายถึงจะทำได้
จากนั้นปัดแก้มด้วยสีชมพูอ่อน เพราะผิวนางแบบมีรอยแดง หากใช้สีเข้มกว่านี้จะยิ่งเน้นให้เห็นเด่นชัดว่าแก้มมีรอยแดงมากขึ้น
ก่อนปัดแก้มควรฉีกยิ้มเยอะๆ เพื่อให้เห็นพวงแก้มได้อย่างชัดเจน เพื่อจะได้รู้ตำแหน่งที่ควรจะปัด จากนั้นปัดตรงพวงแก้ม
กรณีนี้นางแบบเป็นคนผิวแห้งมากจึงแนะนำให้ใช้ Blush ในรูปแบบครีม เพื่อจะได้สีที่ติดทนนานกว่าแบบฝุ่น” คุณโดม แนะนำ
Step 4 : ดวงตาโดดเด่นสวยสะพรึงด้วยสโมกกี้อาย
“ปรับสีคิ้วให้คล้ายสีผม และเก็บรายละเอียดด้วยมาสคาร่า (Mascara) คิ้ว และหากคิ้วแหว่งให้เติมด้วยสีเข้มเพื่ออำพรางว่า คิ้วเท่ากัน
โดมแนะนำว่า ใต้ท้องคิ้วนั้นต้องสะอาด เกลี้ยงเกลา ด้วยการใช้แปรงแต้มสีอ่อนให้ทั่วท้องคิ้ว เพราะจะทำให้คิ้วดูโดดเด่น ปรับตาให้สว่างใส
การแต่งหน้าสไตล์สโมกกี้อาย (Smokey eye) ต้องลงสีอ่อนก่อนทุกครั้ง จะไม่มีการคัดเบ้าเพราะจะดูเชย โบราณ
วิธีที่ดีที่สุดควรใช้แปรงแต้มสีเข้มทาบริเวณหางตาเบลนด์สีเข้าไปแทนการคัดเบ้า การทำสโมกกี้อายเลี่ยงไม่ได้เลยคือใต้ตาจะเลอะเปื้อน หากแต่งตาเสร็จแล้วให้เช็ดใต้ใช้อายครีม หากใช้อายรีมูฟเวอร์ (Eye Remover)ใต้ตาจะเกิดอาการสีแหว่งคอนซีลเลอร์หายทันที
ส่วนการกรีดอายไลน์เนอร์ (Eye Liner) ด้วยเนื้อเจลนั้น เทคนิคคือ แตะเป็นจุดไข่ปลาตามรูปตาเพื่อให้ชิดขอบตามากที่สุด จากนั้นเติมหางเขียนตาให้ยาวออกไป ไม่ตวัดขึ้นเพราะจะดูเชย ข้อสำคัญบริเวณใต้ตาเส้นอายไลน์เนอร์ต้องเชื่อมต่อกัน
จากนั้นเบลนด์สีอายไลน์เนอร์ให้เข้ากับอายแชโดว์เพื่อให้ดูฟุ้งๆ ตามคอนเซ็ปต์ Smoky Eye”
ปิดท้ายด้วยกันดัดขนตา ปัดมาสคาร่า เป็นอันเสร็จสรรพ !
ขอบคุณ! เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง Bobbi Brown สยามพารากอน
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net