By Lady Manager
ปัญหา “ก้นดำ” นับว่าเป็นปัญหากวนใจของสาวเราอย่างแรง แม้จะอยู่ใต้ร่มผ้าไม่ถูกแดดก็ตาม แต่สงสัยกันบางไหมจ๊ะว่า ทำไมหนอก้น มันมักจะดำกว่าส่วนอื่น แถมยังมีรอยแตกลายอีกต่างหาก อยากจะใส่ชุดว่ายน้ำโชว์หุ่นใจจะขาด ก็ต้องมานั่งกังวลว่าแก้มก้นดำๆจะปลิ้น เฮ้อ!กลุ้ม
เราลองมาหาเหตุผลจาก พญ.ทวีรัตนา บุตรสุนทร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ กันดูค่ะ
การเสียดสีบ่อเกิดความดำด้าน
“ปกติเม็ดสีบริเวณขาหนีบและก้นมักจะเยอะกว่าผิวหนังส่วนอื่นอยู่แล้ว แต่บางคนผอมมากก็ดำได้นะ เพราะเนื้อตรงผิวหนังช่วงที่เป็นกระดูกตรงก้น จะมีปริมาณน้อย จึงทำให้เกิดการเสียดสีมาก และทำให้ดำ จนกลายเป็นวงๆ เหมือนกระดูกตรงบริเวณก้นที่เสียดสีนั้นเลย
ยิ่งมีการเสียดสี เช่น ใส่กางเกงรัดๆ ยิ่งเป็นยีนส์ยิ่งเสียดสีเข้าไปใหญ่ เพราะผ้าค่อนข้างหนา หรือสวมกางเกงในฟิต และความอ้วน ก็เป็นอีกปัจจัยเพราะจะทำให้ผิวหนังเสียดสีมากกว่าคนน้ำหนักปกติ บางรายที่อ้วนมาก ไม่สามารถลดน้ำหนักได้ รักษาไปอาจจะทรงๆ อยู่ แต่ความดำไม่หายไปก็มี
ส่วนใหญ่ที่ดำเพราะเป็นเรื่องของการเสียดสีบริเวณตำแหน่งนั้น หากมีการเสียดสีมากๆ หนังก็จะมีการหนาตัวขึ้นและดำ เช่น หากเป็นการดำบริเวณรักแร้ และขาหนีบ ก้น จะเป็นเรื่องของการเสียดสี โดยปกติบริเวณนี้เม็ดสีจะเยอะกว่าบริเวณอื่นอยู่แล้ว จึงมีแนวโน้มดำกว่าที่อื่น"
ดังนั้นปัญหาง่ามขาหนีบ ก้น รักแร้ดำ จึงถือว่าเป็นปัญหาด้านผิวหนังที่พบได้บ่อย อีกทั้งยังต้องหลีกเลี่ยงการแกะเกาหากรู้สึกคันเมื่อก้นอับชื้น เกิดตุ่ม ผด หรือสิว เพราะเมื่อสิวหายก็ทำให้เกิดรอยดำ ดูกระดำกระด่าง
ส่วนอาการผิวด้านในคนที่เกิดจากการเสียดสีเป็นเวลานานๆ เซลล์ผิวหนังจะจับตัวกันมากขึ้นเป็นผื่นแข็ง เนื่องจากเกิดการอักเสบใต้ผิว ควรให้แพทย์ตรวจเช็คดูว่ายังมีอาการอักเสบหรือไม่ แพทย์อาจสั่งจ่ายยาทาในกลุ่มเสตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบของผิว
หาเบาะนุ่มรองก้นลดการสัมผัส
คุณหมอแนะว่าให้หาเบาะรองก้นเลี่ยงการนั่งพื้น
"อะไรที่เลี่ยงได้ เราก็หลีก หากเลี่ยงไม่ได้ เราอาจจะต้องหาอะไรมากันกระแทกบริเวณที่เสียดสีนั้น เช่น เวลานั่งควรเอาเบาะนุ่มๆ มารองก้นเพื่อลดการสัมผัส"
อย่างไรก็ตาม คุณหมอเสริมว่า การทาครีมบำรุงผิวมอบความชุ่มชื่นเป็นประจำในบริเวณจุดสัมผัส หรือเสียดสี จะช่วยลดอาการดำ ความหมองคลำ และความแห้งกร้านได้ดี รวมทั้งช่วยในเรื่องความเนียนน่าสัมผัส เพราะช่วยทำให้ผิวไม่แห้ง ความหยาบจึงลดลงด้วย หรืออีกวิธีได้ผลไม่แพ้กัน คือ การสครับ (scrub) ฉะนั้นการเลือกใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ใกล้จุดซ่อนเร้น ควรเลือกด้วยความระมัดระวัง เพราะเนื้อเยื่อของผิวส่วนนี้มีความบอบบาง
"ตามจุดสัมผัสหากเราใช้ผลิตภัณฑ์พวกสครับขัดเบาๆ อาจจะพอให้จางลงได้บ้าง หรือให้ความหนาลดลงได้บ้าง แต่คงไม่ใช่ในรายที่ผิวบริเวณดังกล่าวดำมาก เพราะหมอไม่แนะนำให้สครับขัดแบบรุนแรง เพราะบางคนคิดว่า ยิ่งลงแรงขัดความดำจะได้หลุดออก เช่น เอาใยบวมหนาๆ มาขัดถูแรงๆ จนเกิดอาการอักเสบบวมแดง พอแดงมากๆ อาจจะทำให้ความดำเยอะขึ้นได้อีก เพราะนั่นคือการเสียดสีอย่างรุนแรง
ดังนั้นอย่าขัดตัวบ่อย อาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอ ที่สำคัญ ผงสครับขัดตัวต้องมีความละเอียดพอสมควร ไม่ใช่เอาแบบเม็ดเกลือชนิดหยาบๆ มาขัดตัวเด็ดขาด ห้ามขัดหรือถูแบบรุนแรง
ส่วนวิธีการรักษาด้วยยาทากรณีขัดก็แล้วบำรุงก็แล้วยังไม่เกิดผล คุณหมอบอกว่า
"จะดูสภาพว่า ดำหนามากไหม และจะให้ยาไปทาตามสภาพ ถ้าดำอย่างเดียวอาจจะให้ยาที่ลดการทำงานของเม็ดสีตรงนั้น แต่ถ้ามันมีอาการหนาตัวอาจจะต้องใช้ยาที่ทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิวเล็กน้อย แต่หากใช้ยาบริเวณขาหนีบหรือก้นต้องระวังอย่างมาก เพราะเนื้อจะบางมาก หากไปซื้อยาทาเองควรถามเภสัชกรให้ดี
การรักษาด้วยยากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะดีกว่าไปซื้อยาข้างนอกมาทาเอง เพราะยาข้างนอกส่วนใหญ่ประสิทธิภาพในการรักษาจะค่อนข้างต่ำ เขาอาจจะมีข้อจำกัดว่าจะผสมยาได้กี่เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่พวกหมอจะใช้ในเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าได้" คุณหมอกล่าว
สารพัดวิธีแก้กลุ้ม!
- ใช้สมุนไพรตามธรรมชาติ เช่น มะขามเปียก มะนาว นำมาถูทิ้งไว้ประมาณ 2-5 นาที บริเวณที่เกิดรอยด่างดำ ความเป็นกรดอ่อนๆ จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออก ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น
- การลดน้ำหนักของผู้ที่มีรูปร่างอ้วน ให้เน้นท่าออกกำลังกายกระชับต้นขา ต้นแขน เพื่อช่วยลดการเสียดสีของผิวหนัง
- รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินอี สามารถพบได้มากในอาหาร เช่น นม ไข่ ถั่ว เนื้อสัตว์ ปลา ผัก วิตามินซี สามารถพบได้มากในอาหาร เช่น ผัก และผลไม้ วิตามินทั้งสอง มีบทบาทที่เป็นประโยชน์ต่อผิว ทำให้ผิวแข็งแรง และลดการอักเสบ
- ไม่ควรใส่กางเกงในนอน แต่หากจำเป็นต้องใส่ก็ให้เลือกกางเกงในที่ไม่มีตะเข็บ ไม่รัดติ้ว แล้วไม่ใส่จนรัดเกินไป
- ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA และ whitening เพื่อลดรอยด่างดำ
- ในกรณีที่มีรอยคล้ำดำมาก อาจต้องใช้เลเซอร์ ลบรอยดำ เพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสี ซึ่งการยิงเลเซอร์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สีผิว ถ้าเป็นคนผิวคล้ำเห็นผลไม่ดีเท่าคนผิวขาว หรือใช้พวกเลเซอร์ไอพีแอล (IPL) เหมือนเวลาเรายิงเลเซอร์แก้ปัญหารอยดำของสิวบนใบหน้า ซึ่งนำเลเซอร์นี้มาใช้กับผิวบริเวณก้นได้เช่นกัน
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
ปัญหา “ก้นดำ” นับว่าเป็นปัญหากวนใจของสาวเราอย่างแรง แม้จะอยู่ใต้ร่มผ้าไม่ถูกแดดก็ตาม แต่สงสัยกันบางไหมจ๊ะว่า ทำไมหนอก้น มันมักจะดำกว่าส่วนอื่น แถมยังมีรอยแตกลายอีกต่างหาก อยากจะใส่ชุดว่ายน้ำโชว์หุ่นใจจะขาด ก็ต้องมานั่งกังวลว่าแก้มก้นดำๆจะปลิ้น เฮ้อ!กลุ้ม
เราลองมาหาเหตุผลจาก พญ.ทวีรัตนา บุตรสุนทร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ กันดูค่ะ
การเสียดสีบ่อเกิดความดำด้าน
“ปกติเม็ดสีบริเวณขาหนีบและก้นมักจะเยอะกว่าผิวหนังส่วนอื่นอยู่แล้ว แต่บางคนผอมมากก็ดำได้นะ เพราะเนื้อตรงผิวหนังช่วงที่เป็นกระดูกตรงก้น จะมีปริมาณน้อย จึงทำให้เกิดการเสียดสีมาก และทำให้ดำ จนกลายเป็นวงๆ เหมือนกระดูกตรงบริเวณก้นที่เสียดสีนั้นเลย
ยิ่งมีการเสียดสี เช่น ใส่กางเกงรัดๆ ยิ่งเป็นยีนส์ยิ่งเสียดสีเข้าไปใหญ่ เพราะผ้าค่อนข้างหนา หรือสวมกางเกงในฟิต และความอ้วน ก็เป็นอีกปัจจัยเพราะจะทำให้ผิวหนังเสียดสีมากกว่าคนน้ำหนักปกติ บางรายที่อ้วนมาก ไม่สามารถลดน้ำหนักได้ รักษาไปอาจจะทรงๆ อยู่ แต่ความดำไม่หายไปก็มี
ส่วนใหญ่ที่ดำเพราะเป็นเรื่องของการเสียดสีบริเวณตำแหน่งนั้น หากมีการเสียดสีมากๆ หนังก็จะมีการหนาตัวขึ้นและดำ เช่น หากเป็นการดำบริเวณรักแร้ และขาหนีบ ก้น จะเป็นเรื่องของการเสียดสี โดยปกติบริเวณนี้เม็ดสีจะเยอะกว่าบริเวณอื่นอยู่แล้ว จึงมีแนวโน้มดำกว่าที่อื่น"
ดังนั้นปัญหาง่ามขาหนีบ ก้น รักแร้ดำ จึงถือว่าเป็นปัญหาด้านผิวหนังที่พบได้บ่อย อีกทั้งยังต้องหลีกเลี่ยงการแกะเกาหากรู้สึกคันเมื่อก้นอับชื้น เกิดตุ่ม ผด หรือสิว เพราะเมื่อสิวหายก็ทำให้เกิดรอยดำ ดูกระดำกระด่าง
ส่วนอาการผิวด้านในคนที่เกิดจากการเสียดสีเป็นเวลานานๆ เซลล์ผิวหนังจะจับตัวกันมากขึ้นเป็นผื่นแข็ง เนื่องจากเกิดการอักเสบใต้ผิว ควรให้แพทย์ตรวจเช็คดูว่ายังมีอาการอักเสบหรือไม่ แพทย์อาจสั่งจ่ายยาทาในกลุ่มเสตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบของผิว
หาเบาะนุ่มรองก้นลดการสัมผัส
คุณหมอแนะว่าให้หาเบาะรองก้นเลี่ยงการนั่งพื้น
"อะไรที่เลี่ยงได้ เราก็หลีก หากเลี่ยงไม่ได้ เราอาจจะต้องหาอะไรมากันกระแทกบริเวณที่เสียดสีนั้น เช่น เวลานั่งควรเอาเบาะนุ่มๆ มารองก้นเพื่อลดการสัมผัส"
อย่างไรก็ตาม คุณหมอเสริมว่า การทาครีมบำรุงผิวมอบความชุ่มชื่นเป็นประจำในบริเวณจุดสัมผัส หรือเสียดสี จะช่วยลดอาการดำ ความหมองคลำ และความแห้งกร้านได้ดี รวมทั้งช่วยในเรื่องความเนียนน่าสัมผัส เพราะช่วยทำให้ผิวไม่แห้ง ความหยาบจึงลดลงด้วย หรืออีกวิธีได้ผลไม่แพ้กัน คือ การสครับ (scrub) ฉะนั้นการเลือกใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ใกล้จุดซ่อนเร้น ควรเลือกด้วยความระมัดระวัง เพราะเนื้อเยื่อของผิวส่วนนี้มีความบอบบาง
"ตามจุดสัมผัสหากเราใช้ผลิตภัณฑ์พวกสครับขัดเบาๆ อาจจะพอให้จางลงได้บ้าง หรือให้ความหนาลดลงได้บ้าง แต่คงไม่ใช่ในรายที่ผิวบริเวณดังกล่าวดำมาก เพราะหมอไม่แนะนำให้สครับขัดแบบรุนแรง เพราะบางคนคิดว่า ยิ่งลงแรงขัดความดำจะได้หลุดออก เช่น เอาใยบวมหนาๆ มาขัดถูแรงๆ จนเกิดอาการอักเสบบวมแดง พอแดงมากๆ อาจจะทำให้ความดำเยอะขึ้นได้อีก เพราะนั่นคือการเสียดสีอย่างรุนแรง
ดังนั้นอย่าขัดตัวบ่อย อาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอ ที่สำคัญ ผงสครับขัดตัวต้องมีความละเอียดพอสมควร ไม่ใช่เอาแบบเม็ดเกลือชนิดหยาบๆ มาขัดตัวเด็ดขาด ห้ามขัดหรือถูแบบรุนแรง
ส่วนวิธีการรักษาด้วยยาทากรณีขัดก็แล้วบำรุงก็แล้วยังไม่เกิดผล คุณหมอบอกว่า
"จะดูสภาพว่า ดำหนามากไหม และจะให้ยาไปทาตามสภาพ ถ้าดำอย่างเดียวอาจจะให้ยาที่ลดการทำงานของเม็ดสีตรงนั้น แต่ถ้ามันมีอาการหนาตัวอาจจะต้องใช้ยาที่ทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิวเล็กน้อย แต่หากใช้ยาบริเวณขาหนีบหรือก้นต้องระวังอย่างมาก เพราะเนื้อจะบางมาก หากไปซื้อยาทาเองควรถามเภสัชกรให้ดี
การรักษาด้วยยากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะดีกว่าไปซื้อยาข้างนอกมาทาเอง เพราะยาข้างนอกส่วนใหญ่ประสิทธิภาพในการรักษาจะค่อนข้างต่ำ เขาอาจจะมีข้อจำกัดว่าจะผสมยาได้กี่เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่พวกหมอจะใช้ในเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าได้" คุณหมอกล่าว
สารพัดวิธีแก้กลุ้ม!
- ใช้สมุนไพรตามธรรมชาติ เช่น มะขามเปียก มะนาว นำมาถูทิ้งไว้ประมาณ 2-5 นาที บริเวณที่เกิดรอยด่างดำ ความเป็นกรดอ่อนๆ จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออก ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น
- การลดน้ำหนักของผู้ที่มีรูปร่างอ้วน ให้เน้นท่าออกกำลังกายกระชับต้นขา ต้นแขน เพื่อช่วยลดการเสียดสีของผิวหนัง
- รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินอี สามารถพบได้มากในอาหาร เช่น นม ไข่ ถั่ว เนื้อสัตว์ ปลา ผัก วิตามินซี สามารถพบได้มากในอาหาร เช่น ผัก และผลไม้ วิตามินทั้งสอง มีบทบาทที่เป็นประโยชน์ต่อผิว ทำให้ผิวแข็งแรง และลดการอักเสบ
- ไม่ควรใส่กางเกงในนอน แต่หากจำเป็นต้องใส่ก็ให้เลือกกางเกงในที่ไม่มีตะเข็บ ไม่รัดติ้ว แล้วไม่ใส่จนรัดเกินไป
- ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA และ whitening เพื่อลดรอยด่างดำ
- ในกรณีที่มีรอยคล้ำดำมาก อาจต้องใช้เลเซอร์ ลบรอยดำ เพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสี ซึ่งการยิงเลเซอร์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สีผิว ถ้าเป็นคนผิวคล้ำเห็นผลไม่ดีเท่าคนผิวขาว หรือใช้พวกเลเซอร์ไอพีแอล (IPL) เหมือนเวลาเรายิงเลเซอร์แก้ปัญหารอยดำของสิวบนใบหน้า ซึ่งนำเลเซอร์นี้มาใช้กับผิวบริเวณก้นได้เช่นกัน
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
