xs
xsm
sm
md
lg

“ภัคญดา ชุติดนัยกุล” ดีไซเนอร์สาวแห่งแบรนด์น้องใหม่ Phakyada

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>Celeb Online มีโอกาสได้เข้ามาเยี่ยมเยือนโชว์รูมในซอยสุขุมวิท 51 ของดีไซเนอร์สาว พั้นช์ - ภัคญดา ชุติดนัยกุล แห่งแบรนด์เสื้อผ้าน้องใหม่ Phakyada ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากแฟชั่นนิสต้าสาวไทยมากขึ้นเรื่อยๆ

ในวัย 24 ปี พั้นช์ กำลังปลุกปั้นแบรนด์เสื้อผ้า ที่มีจุดเริ่มต้นเล็กๆ จากการตัดเสื้อผ้าใส่เอง จนเพื่อนๆ ยุให้ทำออกขายจริงๆ จังๆ เสียเลย “พั้นช์มีเพื่อนที่ทำเสื้อผ้าขายมาก่อนอยู่ 2-3 คน เขาชอบมาขอคำปรึกษาเรื่องออกแบบชุดกับเรา ซึ่งพอเขาเอาไปทำก็ดันออกมาเวิร์ก ขายได้ เราก็เริ่มคิด เอ๊ะ ทำไมเราไม่ลองทำเองบ้างล่ะ คนอื่นยังมาถามเราเลยนะ ก็เริ่มจากเล็กๆ ทำเองขายเองในอินสตาแกรม และเพื่อนๆ ก็เอาไปใส่ พอดีกับที่เรามีเพื่อนเป็นดารา เป็นเซเลบหลายคน จากตรงนั้นก็ช่วยให้มีคนรู้จักเสื้อผ้าของเรามากขึ้น”

พั้นช์เรียนจบด้านแฟชั่นดีไซน์จาก ราฟเฟิล อินเตอร์เนชันแนล คอลเลจ แต่หลังเรียนจบก็ไปหาประสบการณ์ด้วยการเป็นพีอาร์ให้แบรนด์นาฬิกาก่อนที่จะมาทำในสิ่งที่ตัวเองรักด้วยการเปิดร้านเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง จนถึงตอนนี้แบรนด์ของเธอก็มีอายุมาประมาณ 1 ปีแล้ว ซึ่งนิยามของเสื้อผ้าในสไตล์ Phakyada นั้น พั้นช์ บอกว่า

“ชุดเดียวอยู่เลยค่ะ คือสามารถใส่ชุดของพั้นช์ทำงานยันไปปาร์ตี้ต่อได้เลย แต่ว่าจะต้องเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจนะ เปรี้ยวนิดนึง เพราะเสื้อผ้าอาจจะเปิดด้านหลัง หรือเปิดไหล่ แต่จะไม่โป๊นะคะ เป็นเลือกโชว์อย่างใดอย่างหนึ่ง และเสื้อผ้าพั้นช์ค่อนข้างใส่ง่ายค่ะ สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งเซ็ต อาจจะซื้อแค่เสื้อ แล้วเอาไปใส่กับกางเกงยีนส์ที่มีอยู่แล้ว หรือถ้าซื้อกางเกง ก็สามารถใส่กับเสื้อกล้ามธรรมดาๆ ก็ได้”

โชว์รูมภายในซอยสุขุมวิท 51 ของเธอ โดดเด่นด้วยธีมสีม่วงสด โดยเหตุผลที่เลือกสีม่วงเพราะ เธอเกิดวันเสาร์ และไม่อยากให้ดูหวานเกินไปหรือหม่นจนเกินไป แต่กลับกลายเป็นจุดเด่นที่ใครๆ ก็ต้องพูดถึง

“พั้นช์อยากเปิดร้านกลางเมือง เพื่อที่ลูกค้าจะได้เดินทางสะดวก เพราะนอกจากขายเสื้อผ้าแล้ว พั้นช์ยังรับตัดด้วยค่ะ อย่างพวกชุดราตรี ที่พั้นช์จะดีไซน์และตัดให้ เพราะพั้นช์มีทีมช่างอยู่ด้วย ก็เลยต้องเจอลูกค้าบ่อย และเสื้อผ้าบางอย่างพั้นช์ส่งออกด้วยค่ะ เช่น ไต้หวัน อเมริกา ออสเตรเลีย เป็นพวกบายเออร์ที่ซื้อไปขายอีกที หรือนักเรียนไทยที่อยู่ที่นู่นมาซื้อแล้วเอาไปขายก็มีค่ะ ซึ่งคนต่างชาติก็รู้จักงานของเราจากอินสตาแกรม ล่าสุดก็มีคนจีน มาสอบถามเขาอยากจะให้เราส่งออกไป ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงพูดคุยกันอยู่ค่ะ”

แรงบันดาลใจในแต่ละคอลเลกชันของเธอ มักจะมาจากสิ่งรอบตัวที่ไปพอเจอมา อย่างกระโปรงเรนโบว์ซึ่งเป็นที่ฮอตฮิตตองสาวๆ และขายดีจนมีคนเรียกว่า กระโปรงเงินล้าน ก็มาจากการสังเกตสิ่งรอบตัว “ตอนนั้นเป็นช่วงที่ไปอยู่

นิวซีแลนด์ค่ะ ไปอยู่กับญาติที่นั่นประมาณเดือนกว่าๆ ทุกเช้าที่เราตื่นขึ้นมา จะเห็นสายรุ้งจากหน้าต่างห้องนอนของพั้นช์ทุกวันเลย เราก็เลยอยากจะเอาสิ่งที่เราได้สัมผัส มาเป็นแรงบันดาลใจกับเสื้อผ้าของเรา จนออกมาเป็นกระโปรงเรนโบว์อย่างที่เห็น พั้นช์ชอบคิดไปเรื่อยๆ ว่าจะทำเสื้อผ้าออกมาอย่างไร แนวไหน สีอะไร ใช้ผ้าแบบไหน พั้นช์ชอบเรียกว่า “นั่งญาณ” (หัวเราะ)”

เมื่อเสื้อผ้าเริ่มมีชื่อเสียง สิ่งหนึ่งที่เสื้อผ้าแบรนด์ไทยส่วนใหญ่จะโดนกันก็คือ การก๊อบปี้ สำหรับแบรนด์ Phakyada เองก็ไม่พลาดเช่นกัน โดยเฉพาะสินค้าสร้างชื่ออย่างกระโปรงเรนโบว์ “กระโปรงรุ่นนี้โดนก๊อปเยอะมากค่ะ แรกๆ พั้นช์ก็รู้สึกแอบดีใจนะที่โดนก๊อป แสดงว่าคนชอบเยอะแน่เลย จนหลังๆ คนพูดถึงกันเยอะขึ้น ทั้งเพื่อนๆ ทั้งลูกค้า ถ่ายภาพส่งมาให้ดู ว่าดูสิ มีก๊อปหลายเกรดเลย ตั้งแต่ราคาหลักร้อยจนถึงหลักพัน ตอนนั้นก็เริ่มหงุดหงิด เพราะแม่ค้าเอารูปเราเอง รูปของเพื่อนๆ และเซเลบที่ใส่กระโปรงของเราไปใช้ วันหนึ่งไปเดินสยามฯ กับเพื่อนๆ ก็เจอของก๊อปไป 4 ร้านเลย

แต่กระโปรงของแบรนด์ก็ยังขายได้อยู่นะคะ เพราะพั้นช์ทำผ้าขึ้นมาเอง ดังนั้นก๊อปอย่างไรก็ไม่เหมือนอยู่ดี เลยต้องผลิตอยู่หลายรอบเพราะคนเรียกร้องเยอะมาก แต่วันหนึ่งเราก็ต้องเลิกผลิต ปกติเสื้อผ้าของเราจะไม่ทำเยอะ เพราะไม่ได้เย็บจากโรงงาน แต่ใช้มีทีมช่างของเราเอง ชุดของเราจึงมีจำกัด ผ้าส่วนใหญ่จะนำเข้ามา มีแค่ไหนก็แค่นั้น หมดแล้วหมดเลย แต่ภายในปีนี้อาจจะมีออกมาอีก แต่เป็น Rainbow New Generation ก็หวังว่าคนจะยังชอบเหมือนแบบแรก และหวังว่าจะไม่โดนก๊อปอีกค่ะ”

ดีไซเนอร์คนโปรดของพั้นช์ คือดีไซเนอร์ชาวอังกฤษผู้ล่วงลับอย่าง อเล็กซานเดอร์ แม็กควีน ถึงขนาดมีรองเท้าคอลเลกชันสุดท้ายที่เขาออกแบบมาไว้ในครอบครองซึ่งมีราคาสูงเอาการ “พั้นช์ว่าเขาเป็นดีไซเนอร์ที่งานดีไซน์ของเขาเยอะ สวยอลังการ ซึ่งก็คล้ายกับตัวพั้นช์เองที่เป็นคนเยอะ ไม่ใช่เรื่องนิสัยนะคะ แต่หมายถึงเป็นคนชอบแต่งตัวเยอะค่ะ ซึ่งเพื่อนจะรู้ดีและชอบแซวกันขำๆ แต่ตัวจริงพั้นช์เป็นคนง่ายๆ สบายๆ คนมักจะคิดว่าเราหยิ่ง เพราะหน้านิ่งๆ จะดูดุ ลูกค้าบางคนเจอเราก็ไม่กล้ามาคุยด้วย แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย เดี๋ยวนี้เลยต้องยิ้มมากขึ้นกว่าเดิม คนจะได้ไม่กลัว”

ชีวิตประจำวันของดีไซเนอร์สาวส่วนใหญ่ก็จะวุ่นอยู่กับการทำงานออกแบบ พูดคุยกับทีมงานเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้ามีเวลาว่างเธอจะไปฟิตแอนด์เฟิร์มร่างกายด้วยการชกมวยไทย “พั้นช์ชอบชกมวยมากค่ะ เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ดีมาก ได้ออกเหงื่อทุกส่วน เผาผลาญดีมาก ต่อยแค่ชั่วโมงเดียวก็เท่ากับเข้ายิม 2-3 ชั่วโมง ถ้าวันไหนยุ่งๆ แต่อยากออกกำลังก็จะแวบออกไปต่อย แล้วกลับมาทำงานต่อ” แต่ถ้ามีเวลาว่างยาวๆ พั้นช์มักจะเลือกเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง เธอเคยไปท่องเที่ยวยุโรปอยู่ 3 เดือน ซึ่งประเทศที่ประทับใจที่สุดต้องยกให้อิตาลี โดยเฉพาะเมืองเวนิส “พั้นช์ไปกันเองกับเพื่อนผู้หญิงอีกคนค่ะ เลือกที่พักเอง เที่ยวเอง ค่อนข้างลุย ได้นั่งเรือกอนโดลาด้วย และเมืองเขาสวยมากจริงๆ ค่ะ”

ตอนนี้แบรนด์ Phakyada กำลังไปได้สวยจนมีแผนการที่จะขยับขยายเข้าไปขายในห้างสรรพสินค้า แต่พั้นช์บอกว่าเธออยากสั่งสมประสบการณ์ให้มากกว่านี้ “จริงๆ พั้นช์มีแพลนที่จะไปเรียนต่อปริญญาโท ที่เซ็นทรัล เซนต์มาร์ติน ที่ประเทศอังกฤษ ทางโน้นเขารับเราแล้วนะคะ แต่ตอนนี้เราก็มีแบรนด์เสื้อผ้าของเรา ที่ไม่สามารถทิ้งไปได้ และเสื้อผ้าของ

เราก็กำลังขยาย มีการพูดคุยเรื่องที่จะเอาไปวางขายในห้าง ตอนแรกคุยกันว่าจะเข้าภายในปีนี้ แต่หนูคิดว่าหนูยังเด็กไป ประสบการณ์ยังน้อย เลยอยากจะรอให้มันพร้อมมากกว่านี้ อยากให้เราน่าเชื่อถือมากกว่านี้ เพราะถ้าเข้าห้าง ความรับผิดชอบเราก็ต้องเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากแบรนด์นี้เป็นของหนูอย่างแท้จริง คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้มายุ่งหรือมาช่วยอะไร เราเลยอยากให้พร้อมทุกๆ ด้าน ส่วนเรื่องเรียนต่ออย่างไรก็ต้องมีแน่ๆ ค่ะ”

ทุกวันนี้มีแบรนด์เสื้อผ้าน้องใหม่เกิดขึ้นมากมาย เราก็ขอเอาใจช่วยให้สาวพั้นช์ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่จะประสบความสำเร็จตามรอยแบรนด์ไทยรุ่นพี่ๆ ด้วยนะคะ :: Text by FLASH

>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/
กำลังโหลดความคิดเห็น