>>พลพัฒน์ อัศวะประภา แห่ง ‘อาซาว่า’ (ASAVA), ภูภวิศ กฤตพลนารา แห่ง ‘อิชชู่’ (ISSUE), มลลิกา เรืองกฤตยา แห่ง ‘คลอเส็ท’ (KLOSET) และธีร์รัฐ ว่องวัฒนะสิน แห่ง ‘วิกธีร์รัฐ’ (VICKTEERUT) จับมือกันสร้างสรรค์ปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่วงการแฟชั่นไทยด้วยงานโชว์แฟชั่นเต็มรูปแบบครั้งแรกของคอลเลกชัน ออทัม/วินเทอร์ 2013 ที่สะท้อนความคิดอิสระแบบไร้ขีดจำกัดออกมาเป็นโชว์ในมุมมองใหม่ที่จะไม่เคยเห็นที่ใดมาก่อน ใน ‘แฟชั่น ฟิลด์ ทริป’ (Fashion Field Trip)
โดยมีเหล่ากองทัพเซเลบริตี้และแฟชั่นนิสต้าคนดังมารวมตัวกันเต็มความจุของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ‘ทีซีดีซี’ ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม ไม่ว่าจะเป็น อภิวัฒน์ ยศประพันธ์, ภริดา-ภารดา เสนีวงศ์ ณ อยุธยา, มิลิน ยุวจรัสกุล, วรรณพร โปษยานนท์, พัชทรี ภักดีบุตร, ชนิตา ปรีชาวิทยากุล, พัทธมน-ทักษอร เตชะณรงค์, มัญชุมาศ นำเบญจพล, อินทิรา ธนวิสุทธิ์, อัญชิสา วัชรพล, จารุจิต-พิมพ์เลิศ ใบหยก, อรวรรณ อิงคสิทธิ์, นน กนกวัฒนาวรรณ, กรัชเพชร อิสสระ, กุลวิทย์ เลาสุขศรี, คริส-พลอย หอวัง, อารยา เอ ฮาร์เก็ต, ศรีริต้า เจนเซ่น, รัตนารัตน์-รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล, ปกฉัตร เทียมชัย
พลพัฒน์ เป็นตัวแทนกล่าวถึงที่มาของงานนี้ว่า “ ‘แฟชั่น ฟิลด์ ทริป’ เกิดจากการรวมตัวของ 4 แบรนด์เสื้อผ้าที่มีปรัชญาการทำงานที่คล้ายคลึงกัน โดยมีความมุ่งหวังในการนำเสนอผลงานโชว์ให้มีความแตกต่างและสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น เพื่อให้แต่ละแบรนด์สามารถมีอิสระในการนำเสนอในมิติใหม่ โดยไม่ยึดติดว่าโชว์แฟชั่นจะต้องเป็นเพียงทางเดินรันเวย์เท่านั้น จึงได้ทำรูปแบบของเวทีให้มีการเปลี่ยนไป อีกทั้งยังนำเทคโนโลยีอันทันสมัยต่างๆ มาร่วมสร้างความแปลกใหม่และสร้างความโดดเด่นให้แก่การนำเสนอด้วย …และเราก็ตั้งใจพัฒนามาตรฐานการโชว์ทุกๆ ปีให้ดีขึ้นจนเทียบเท่าระดับสากล ซึ่งทั้ง 4 แบรนด์ก็หวังว่าการทำงานในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่เปิดมุมมองใหม่ให้แก่แวดวงแฟชั่นไทย”
ขณะที่เวทีการนำเสนอโชว์ในครั้งนี้ได้ออกแบบให้เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างกว่า 12 เมตร เปรียบเสมือนผืนผ้าใบ ที่แต่ละแบรนด์ก็จะสามารถแต่งแต้มสีสันที่แตกต่างกันลงไปตามแรงบันดาลใจของตนเอง โดยโชว์แรกที่เปิดตัวสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่วงการแฟชั่นไทย คือ ‘วิกธีร์รัฐ’ (VICKTEERUT) ที่นำเสนอเสื้อผ้าคอลเลกชันชื่อว่า ‘เบสิก ไทรโลจี้’ (Basic Trilogy) ที่มีความเรียบง่ายแบบ Minimalism แต่แฝงด้วยการตัดเย็บอย่างประณีต ผ่านเสียงดนตรีสดๆ ที่มาระเบิดขึ้นกลางรันเวย์สี่เหลี่ยมจัตุรัส พร้อมทั้งมีการจัดแสดงงานศิลปะที่เป็นลักษณะเขาวงกต ตกแต่งไฟนีออนที่ออกแบบมาสำหรับให้นางแบบสามารถเดินไปอยู่ในงานศิลปะได้ นับว่าเป็นการนำเอาแฟชั่นไปผนวกกับศิลปะได้อย่างกลมกลืน
ต่อด้วย ‘คลอเส็ท’ (KLOSET) ที่มาสร้างสีสันความสนุกสนานให้กับรันเวย์ เพราะเหล่านางแบบออกมากระโดดโลดเต้น ฉีกกฎการเดินโพสท่าในแบบฉบับเดิมๆ เพื่อพรีเซนต์คอลเลกชัน ‘อะ เกิร์ลส เบส เฟรนด์’ (A Girl’s Best Friend) ที่โดดเด่นด้วยลวดลายของสิ่งที่ผู้หญิงมักจะแพ้ทาง อาทิ ลายเสือ, เพชรพลอย, เครื่องประดับ, ดอกไม้ และความรัก ปรากฏอยู่ในลายผ้า ซึ่งการโชว์ครั้งนี้เป็นการมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าของนางแบบให้ดูสวมใส่ได้จริงโดยคงความเป็นตัวของตัวเอง ผสมกลิ่นอายปาร์ตี้ในยุค 1980 จนสามารถสะกดผู้ชมให้มาร่วมสนุกสนานด้วยกัน
ด้าน ‘อาซาว่า’ (ASAVA) เปิดตัวมาอย่างเรียบง่าย แต่แฝงลวดลายที่หรูหรา ผ่านจอแอลอีดีฉากหลังของรันเวย์จัตุรัส นำเสนอคอลเลกชัน ‘เดอะ บิ๊ก แอปเปิล’ (The Big Apple) ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากงานศิลปะแบบป็อปอาร์ต (Pop Art) แห่งยุค 70s ของ รอย ลิชเทนสไตน์ (Roy Lichtenstein) ดังนั้นพื้นที่ตรงกลางของเวทีจึงออกแบบให้ออกมาเป็นการจัดแสดงงานศิลปะ โดยให้เหล่านางแบบออกมาโพสท่าทางกับชิ้นงานศิลปะ โดยจะมีลูกเล่นกับจอภาพแอลอีดี (LED) มีความ 3 มิติและมีลายเส้นกราฟิกมาเกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจ
ปิดท้ายด้วยแฟชั่นโชว์ที่มีกลิ่นอายของความเป็นไทย จากแบรนด์ ‘อิชชู่’ (ISSUE) ที่ได้ ธชย ประทุมวรรณ ราชาทรงพลังเสียงแห่งเวทีเดอะวอยซ์ มาขับเสภาบอกเล่าความมาเป็นมาของคอลเลกชัน ‘รสชาติแลวิลาศด้วยรูปลักษณ์’ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน’ พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 เป็นเรื่องของศิลปะการผสมผสานรสชาติของอาหารและความละเมียดละไมของการทำอาหาร ที่ได้นำมาพัฒนาออกมาเป็นลายผ้าที่มีเอกลักษณ์สีสันครบถ้วนทุกรสตามรสชาติของอาหารไทย รวมไปถึงการนำเสนอโชว์ก็มีความพิเศษและน่าติดตามตามแบบฉบับของอิชชู่
นอกจากนี้ทั้ง 4 แบรนด์ยังมีจุดมุ่งหมายที่จะส่งต่อประสบการณ์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นใหม่ต่อไป โดยเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาผู้ที่ศึกษาไม่ว่าจะเป็นด้านแฟชั่น, ด้านสถาปัตยกรรมหรือด้านที่เกี่ยวข้อง มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำโชว์ในครั้งนี้และในขณะเดียวกันผู้เข้าชมก็จะได้เห็นโชว์ในลักษณะที่แปลกใหม่น่าสนใจด้วยเช่นกัน
ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะได้มีโอกาสเปิดรับสิ่งใหม่ๆมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งหวังว่ากลุ่มแฟชั่นไทยกลุ่มนี้จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจและแรงผลักดันให้แก่ผู้ที่รักแฟชั่นคลื่นลูกใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้ามาในโลกแฟชั่น ให้เติบโตไปอย่างมีคุณภาพ
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/