>>ช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ แฟนๆ กีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ชอบความท้าทายเร้าใจ เตรียมตัวเก็บกระเป๋ามุ่งหน้าลงใต้สู่จังหวัดกระบี่ กับการแข่งขัน ‘Red Bull Cliff Diving World Series 2013’ ที่ขนเอานักกีฬากระโดดหน้าผาระดับโลกมาประลองความกล้ากันที่ริมผาชายฝั่งอันแสนงดงามของทะเลใต้บ้านเรา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของคนไทยจะรับชมการแข่งขันกีฬาประเภทนี้อย่างใกล้ชิด
การแข่งขันกระโดดหน้าผา (Cliff Diving) เป็นหนึ่งในประเภทของการแข่งขันกีฬาผาดโผนหรือกีฬาเอ็กซ์ตรีม (Extreme sports) ที่ถูกกล่าวขานว่ามีความสมบูรณ์แบบที่สุดในโลก โดยเริ่มต้นครั้งแรกเมื่อศตวรรษที่ 18 เมื่อกษัตริย์คาเฮคิลิ (King Kahekili) ผู้นำของเกาะเมาวีหรือเมาอิ (Maui) เกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของหมู่เกาะฮาวายในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเกาะที่สวยงามที่สุดในโลก ได้บัญชาให้นักรบภายใต้การปกครองกระโดดหน้าผาสูงชันตามพระองค์ลงมา เพื่อพิสูจน์ความจงรักภักดีของเหล่าทหารหาญ
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการกระโดดหน้าผายอดกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่มาพร้อมหลักการ ‘Mana’ & ‘pono’ หรือพลัง (power) และความสมดุลของร่างกาย (balance) ที่ยึดเป็นหลักที่ใช้ในการกระโดดหน้าผาในปัจจุบัน และในเดือนพฤษภาคม ปี 2009 การกระโดดหน้าผาเพื่อพิสูจน์ความกล้าและความจงรักภักดีต่อกษัตริย์ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตำนานที่ถูกกล่าวขานและเล่าสู่กันฟังจากรุ่นสู่รุ่นอีกต่อไป
เพราะทางแบรนด์เครื่องดื่มยอดนิยมระดับโลก ยูโรเปี้ยน เรดบูล (European Red Bull) ได้เริ่มต้นจัดการแข่งขัน Red Bull Cliff Diving World Series ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมจากทั่วโลกลงชิงชัยการกระโดดลงสู่พื้นน้ำเบื้องล่าง ท้าทายระดับความสูงหน้าผาที่ระดับความสูง 27 เมตร หรือเทียบเท่าตึก 8 ชั้น แบบไร้อุปกรณ์ช่วยเหลือและเครื่องป้องกันทุกชนิด พร้อมการโชว์ทักษะการควบคุมร่างกาย ลีลาการม้วนตัว (twist) การตีลังกา (flips) และการพลิกแพลงท่าต่างๆ ต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงของโลก และกระแสลมภายในระยะเวลา 3 วินาที ก่อนการลงสู่พื้นน้ำเบื้องล่าง ด้วยความเร็ว 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบเท่าความเร็วการออกตัวของรถสปอร์ต ความน่าตื่นตะลึงนี้ทำให้กีฬานี้ได้รับความสนใจจากผู้ชื่นชอบกีฬาผาดโผนกว่า 1 ล้านคนทั่วโลก และจัดต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 5 แล้ว
ปีนี้ Red Bull Cliff Diving World Series กลับมาอีกครั้งกับการแข่งขันกระโดดหน้าผา โดยเหล่า 14 นักกระโดดผู้กล้าทุกคนจะต้องกระโดดแข่งขันแบบสะสมคะแนนจาก 8 ทัวร์นาเมนต์ใน 8 ประเทศ โดยปีนี้ได้เพิ่มสถานที่จัดการแข่งขันในทวีปอเมริกาใต้และเอเชีย จากเดิมที่จัดการแข่งขันแต่ในทวีปยุโรป และสนามที่จังหวัดกระบี่นี้นับเป็นสนามสุดท้ายของปี ที่จะตัดสินผู้ชนะของปีนี้กันในวันที่ 26 ตุลาคม
รอบชิงชนะเลิศนี้ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและในทวีปเอเชียนี้ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะต้องทำการกระโดด ณ บริเวณจุดต่างๆ รอบจังหวัดกระบี่ที่มีภูมิประเทศและทัศนียภาพที่งดงาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อที่นักท่องเที่ยวทุกคนอยากมาสัมผัส โดยพื้นที่หน้าผาทั้งหมดเกิดขึ้นมาจากการก่อตัวของหินปูนเมื่อ 300 กว่าปีที่แล้ว ผนวกกับภูมิทัศน์ของทะเลที่มีเอกลักษณ์ และเหมาะสมอย่างยิ่งกับการเป็นฉากหลังของการแข่งขันชิงแชมป์โลกรอบชิงชนะเลิศ โดยนักกระโดดหน้าผาผู้มากพรสวรรค์ อย่าง แชมป์เก่าชาวอังกฤษ แกรี ฮันท์ (Gary Hunt) อาร์เต็ม ซิลเชนโก (Artem Silchenko) จากประเทศรัสเซีย ออร์ลันโด ดูเก (Orlando Duque) ชาวโคลัมเบีย โจนาธาน พาเรเดส (Jonathan Parades) จากประเทศเม็กซิโก และเดวิด โคลทูรี (David Colturi) สตีเวน โลบิว (Steven Lubue) นักกระโดดหน้าผาชาวอเมริกันร่วมชิงชัย
เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องสำหรับการแข่งขันอันน่าตื่นตะลึงนี้ เรานำตัวอย่างภาพความประทับใจและวิวอันงดงามของการแข่งขันใน 4 สนามก่อนหน้านี้มาให้ชมกัน
เริ่มต้นการแข่งขันที่เมืองลาโรแชลล์ ประเทศฝรั่งเศส
โอเปราเฮาส์ กลางกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
เกาะอะโซเรส กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ประเทศโปรตุเกส
ริมทะเลสาบการ์ดา ในเมืองมัลเชสซิเน ประเทศอิตาลี
เตรียมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ครั้งสำคัญกับการแข่งขันกระโดดหน้าผาชิงแชมป์โลก (Red Bull Cliff Diving World Series 2013) รอบชิงชนะเลิศได้ในเดือนตุลาคมศกนี้ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.redbullcliffdiving.com :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/