ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวสังคมที่รักปาร์ตี้สุดหัวใจ แต่งกายเปรี้ยวจี๊ด บวกกับบุคลิกคล่องแคล่วพูดจาตรงไปตรงมา ชัดเจนและจริงจัง การกลับมาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อ 9 ปีที่แล้วของสาวเปรี้ยวอย่างน้องเล็ก-ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร จึงกลายเป็น Talk of the town ขนาดสื่อทุกฉบับยกให้เธอเปรี้ยวได้ใจเทียบกับ ปารีส ฮิลตัน ทายาทตระกูลโรงแรมดังระดับโลก เพราะสาวหัวนอกที่มั่นใจในตัวเองสุด ๆ คนนี้กล้าทำทุกอย่างที่พอใจจะทำ รวมถึงการสลัดเสื้อผ้าถ่ายชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่ลงในนิตยสารด้วยลีลาการโพสที่นางแบบอาชีพมีสิทธิตกงานได้
น้องเล็ก-ณพาภรณ์ เป็นหลานยายท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ ประธานกิตติมศักดิ์ บริษัท โรงแรมปาร์คนายเลิศ จำกัด เป็นลูกสาวคนที่ 2 ของสัณหพิศ โพธิรัตนังกูร เธอเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ซึ่งถูกวางตัวให้เข้ามารับช่วงธุรกิจโรงแรมของจึงถูกส่งไปเรียนด้านบริหารธุรกิจโรงแรม ด้วยหวังว่าเมื่อกลับมาจะได้มาดูแล โรงแรมสวิสโซเทล นายเลิศ ปาร์ค ฯ
นับย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2547 ก่อนท่านผู้หญิงเลอศักดิ์จะถึงแก่อนิจกรรม สาวน้อยร่างเล็กคนนี้ถูกเรียกตัวให้กลับมาช่วยงานด้านโรงแรม ด้วยบุคคลิกสไตล์การแต่งตัวที่เปรี้ยวจี๊ด ทุกท่วงท่าลีลาและการพูดจาแบบสาวหัวนอก ฉายแววความมั่นใจในตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม หลายคนจึงมองน้องเล็ก-ณพาภรณ์ ว่าไม่มีความสามารถในการทำงาน แต่เพราะเป็นทายาทเจ้าของโรงแรมจึงได้มานั่งในตำแหน่งบริหารซึ่งน้องเล็ก-ณพาภรณ์ก็ยอมรับว่าตอนกลับมาเมืองไทยใหม่ๆ เธอสนุกกับชีวิตกลางคืนแบบหัวราน้ำทีเดียว
“ 5 ปีแรกเที่ยวหัวราน้ำเลยค่ะ (หัวเราะ) เรียกว่ามีปาร์ตี้ทุกวัน แต่ละวันออกงานไม่ต่ำกว่า 2 งาน พอได้รับเชิญมีความสุขมาก เพราะจะได้แต่งตัว เสื้อผ้าเอาใส่รถไว้ พอถึงเวลาก็แต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าในรถ แต่งหน้าทำผมเองหมดค่ะ สนุกมากไม่มีเหนื่อย กินดื่มเต็มที่ (หัวเราะ) ไม่เช้าไม่เลิก”
แม้จะติดปาร์ตี้อย่างหนัก แต่เธอก็ต้องตื่นไปทำงานทุกวัน เพราะไม่อยากทำให้คุณยายและครอบครัวต่อว่าได้ “ตอนเช้าเวลาไปทำงานไปแต่ตัว หัวสมองยังนอนอยู่ที่บ้านค่ะ” ด้วยนิสัยที่เป็นคนมั่นใจในตัวเอง แม้ตอนนั้นน้องเล็ก-นพาภรณ์มาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยและเรียนรู้งาน แต่ความเป็นสาวหัวนอกจึงทำให้เธอไม่รู้จักธรรมเนียมปฏิบัติแบบไทย ๆ ที่ควรอ่อนน้อมกับคนที่อาวุโสกว่า
“คงเพราะตอนนั้นเล็กยังเด็กเพิ่งกลับมาใหม่ๆ ชอบปาร์ตี้ แต่งตัวจัด ใส่รองเท้าส้นสูงเดินไปทำงานเหมือนเดินบนแคตวอล์ก ใครเตือนยังไงไม่สนใจใคร มีพนักงานหลายคนมองเล็กแบบไม่เชื่อถือ แล้วนิสัยเล็กเป็นคนตรง ใครทำอะไรผิดก็ว่าต่อหน้าเลย ผู้บริหารบางคนทำงานที่โรงแรมมานานแล้ว อายุมากกว่าถูกต่อว่าแรงๆ ทำให้เขาเสียหน้า ก็เป็นธรรมดาที่คนไม่ชอบ คุณยายกับคุณแม่ต้องคอยเตือน”
หลังการจากไปของท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ พนักงาน 400 กว่าชีวิตของคุณยายกลายเป็นมรดก และเป็นเหมือนเครื่องมือชิ้นสำคัญที่ทำให้น้องเล็ก-ณพาภรณ์เริ่มเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น นั่นกลายเป็นจุดเปลี่ยนวิถีชีวิตของเธอครั้งสำคัญ
การต้องบริหารธุรกิจโรงแรมและบริหารคนไปพร้อม ๆ กันโดยไม่มีคุณยายคอยชี้แนะอยู่เคียงข้าง น้องเล็ก-ณพาภรณ์เล็กยอมรับว่าหลายครั้งที่รู้สึกเหมือนถูกลองเชิง ซึ่งถือเป็นความท้าทาย ในวันนี้เธอจึงลุกมาพิสูจน์ให้พนักงานเห็นว่าเธอสามารถทำงานได้ ไม่ใช่เก่งเฉพาะเรื่องแต่งตัวเฉิดฉายในสังคม
“ทุกอย่างเหมือนเดิม เล็กก็ยังเป็นเล็กที่ถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด เพียงแต่เวลาทำงานเราปรับความคิดให้เข้ากับผู้ใหญ่ ดีที่ผู้ใหญ่ให้ความไว้วางใจเรามากขึ้น เล็กพยายามเอาสิ่งที่คุณยายเคยทำให้ดูมาปฏิบัติ นำเอาสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สอนมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรเข้ามาเล็กสามารถโชว์ผู้ใหญ่เห็นว่าทำงานได้ ผู้ใหญ่เห็นผลงานก็ยอมรับเล็กมากขึ้น 3 ปีหลังนี่แหล่ะค่ะที่ทำงานจริงจังแบบมาทั้งตัวทั้งสมอง (หัวเราะ)”
สาวร่างเล็กบอกว่าทุกวันนี้ไม่ได้สร้างภาพให้ตัวเองดูดีหรือเป็น working women ที่ทำงานตลอดทั้งวัน พร้อมกับยอมรับว่าทุกวันนี้ยังคงเที่ยวและชอบสังสรรค์อยู่ เพียงแต่เลือกไปเท่าที่จำเป็นและไปกับเพื่อนสนิทเท่านั้น เวลาส่วนใหญ่ในตอนนี้หันมาทุ่มเทให้กับการออกกำลังกาย ซึ่งถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตเธอ
ทุกวันนี้หลังเลิกงานน้องเล็กมีความสุขกับการเล่นโยคะ เพราะได้ออกกำลังทุกสัดส่วน ทุกท่าให้ประโยชน์กับร่างกายช่วยทั้งภายนอกภายใน ขณะที่เทนนิสกับสกีน้ำก็ยังเป็นกีฬาโปรดที่ยังเล่นอยู่
“เป็นคนชอบออกกำลังกาย พ่อสอนเล่นกีฬาตั้งแต่ 8-9 ขวบ บ้านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยืนๆอยู่พ่อถีบลงแม่น้ำ(หัวเราะ)ก็เลยว่ายน้ำเป็น ตอนนั้นพ่อชอบเล่นสกีน้ำก็สอน เล็กก็ชอบมีครั้งนึงเกือบตายค่ะ พ่อผูกขากับรองเท้าสกีแล้วให้เรือลาก ซึ่งจริงๆแล้วต้องให้คนจับเชือกอีกด้าน เพราะถ้าเราจมคนที่จับเชือกจะต้องปล่อยให้เราจม แต่นี่ถูกผูกไว้กับเรือเราจมเรือก็ลากไปไกล 50 เมตรได้ สำลักตามแทบตาย กลัวน้ำไปช่วงหนึ่ง แต่ก็ไม่เข็ดกลับมาเล่นใหม่ ส่วนเทนนิสนี่ชอบมากสมัยเรียนไฮสคูลที่อังกฤษได้เป็นนักกีฬาโรงเรียนได้เป็นตัวแทนไปแข่งหลายที่ ตอนหลังเกิดอุบัติเหตุกล้ามเนื้อหลังฉีก หมอห้ามเล่นให้หากีฬาอื่นเล่นแทน ตอนนั้นแทบแย่” น้องเล็กพูดถึงกีฬาที่เธอโปรดปรานอย่างมีความสุข
เมื่อถามถึงเรื่องชีวิตแต่งงาน สาวนักเรียนนอกมั่นใจสุดโต่งน้องเล็ก-ณพาภรณ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า ไม่ขอพูดถึง เพราะตอนนี้มีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากมายโดยเฉพาะงานของบริษัท โรงแรมปาร์คนายเลิศ จำกัด ซึ่งเธอต้องทำหน้าที่สานต่อจากท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ให้ได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้