>>นวัตกรรมความงามที่ถูกคิดค้นขึ้นอยากไม่หยุดยั้ง ก่อให้เกิดเทรนด์ใหม่ๆ ในการดูแลรูปลักษณ์ของอิสตรีทั้งในเรื่องของผิวพรรณ ทรวดทรงและเส้นผมอยู่เสมอ อย่างในอดีตเรามีการใช้สบู่เผื่อทำความสะอาดผิว ถัดมาก็เลือกใช้แบบน้ำ ครีม โฟม เจล มาจนถึงออยล์ (น้ำมัน) ที่บางคนคิดว่าเป็นสิ่งใหม่ แต่ที่จริงแล้ว “น้ำมัน” นับเป็นศาสตร์แห่งความงามอันเป็นอมตะ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่อยู่คู่และคอยบำรุงความสวยงามของเรามาแต่บรรพกาลแล้ว
เคล็ดลับการใช้ “น้ำมัน” เป็นหนึ่งในขั้นตอนการบำรุง ทั้งการปรนนิบัติเส้นผม และผิวพรรณ เป็นเคล็ดลับความงามของเหล่าอิสตรีที่ใช้ในการปรุงแต่งประทินโฉมมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล ไม่ว่าจะเป็นซีกโลกตะวันตก หรือฝั่งตะวันออก อย่างในสมัยกรีกโบราณ ความมันเงาและดูสุขภาพดีของผิวพรรณโดยรวม ก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความงามในสมัยนั้น จึงได้มีการนำเอาน้ำมันมะกอกมาทาตัวเพื่อทำให้ผิวกายแลดูมันวาว
ข้ามฝั่งมาจากอียิปต์ พระนางคลีโอพัตรา ราชินีผู้เลอโฉมที่แสนโด่งดัง ก็ได้มีการนำน้ำมันเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางใช้เพื่อแต่งแต้มสีสันบนใบหน้า อาทิ สีที่นำมาแต่งแต้มบนริมฝีปากก็มักทำมาจากขี้ผึ้ง หรือน้ำมันมะกอกผสมกับหินศิลาแลงเพื่อให้ได้เป็นลิปสติกสีแดง ส่วนสีสันที่นำมาใช้ทาตานั้นจะทำมาจากน้ำมันมะกอกผสมกับผงถ่านเพื่อให้ได้เป็นอายแชโดว์สีดำ เปรียบเสมือนการแต่งตาแบบสโมคกี้อายในปัจจุบัน
ในส่วนของเส้นผมนั้น ในสมัยอียิปต์โบราณ ผู้หญิงชนชั้นแรงงานหรือชนชั้นทาสจะต้องตัดผมสั้น ในขณะที่หญิงสาวทั่วไปในสังคมจะไว้ผมยาว และถ้าแต่งงานแล้วก็ต้องมัดรัดมวยให้เรียบร้อย แถมยังเป็นยุคแห่งจุดกำเนิดของการเปลี่ยนสีผม หญิงสาวจะใช้การย้อมให้สีผมอ่อนลงโดยการหมักเส้นผมด้วยน้ำส้มสายชู แล้วออกไปอาบแดดเพื่อกัดสีผมให้อ่อนลง โดยหญิงสาวในสมัยนั้นก็ไม่ละเลยที่จะบำรุงเส้นผม โดยใช้น้ำมันมะกอกหมักผม เพื่อให้เส้นผมชุ่มชื่น อ่อนนุ่มและเงางามเป็นประกาย
ทางด้านตะวันออก ก็รู้จักคุณประโยชน์ของน้ำมันที่แตกต่างออกไป อย่างการนำเอาน้ำมันสกัดจากธรรมชาติมาใช้ในศาสตร์อายุรเวท ซึ่งเป็นตำราของอินเดียโบราณที่มีอายุยาวนานกว่า 4,000 ปีที่แล้ว เพื่อช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวย เงางาม ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันมะพร้าว ที่จะช่วยยับยั้งแบคทีเรีย และป้องกันการเกิดรังแค หรือน้ำมันจากเมล็ดอัลมอนด์ที่เปี่ยมด้วยวิตามินอี ช่วยให้ผมนุ่มสลวย ด้านประเทศญี่ปุ่นและจีน มีการนำเอาน้ำมันมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยเพื่อใช้นวดผ่อนคลายในวงการรสปา
โดยน้ำมันยังช่วยทำหน้าที่เหมือนฟิล์มใสๆ ช่วยเคลือบพื้นผิวชั้นนอก ให้เก็บกักน้ำหล่อเลี้ยงเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นเคลือบเกล็ดผม หรือผิวชั้นนอก นอกจากช่วยล็อกความชุ่มชื่นไว้ภายในแล้ว สารบำรุงและวิตามิน รวมถึงกรดไขมันจากธรรมชาติที่อยู่ในผลไม้ยังช่วยปรนนิบัติเส้นผมและผิวพรรณ
อย่างน้ำมันสกัดจากผลอโวคาโด ที่อุดมด้วยกรดไขมันจำเป็นตามธรรมชาติ โอเมก้า 3, 6 และ 9 ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นและบำรุงผมให้นุ่มสลวยน่าสัมผัส ส่วนน้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่น อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลัง สามารถแทรกซึมเข้าสู่เส้นผมได้อย่างรวดเร็ว บำรุงดูแลล้ำลึกเพื่อผมเรียบ นุ่มลื่น หรือถ้าเป็นน้ำมันจากดอกเสาวรส อุดมไปด้วยวิตามินซี แคลเซียมและฟอสฟอรัส น้ำมันเนื้อบางเบานี้จะช่วยในการบำรุงดูแลเส้นผมอย่างล้ำลึก
จากศาสตร์ความงามอันเป็นอมตะของน้ำมันอันเปี่ยมคุณค่ามากมาย ทาง ลอรีอัล โปรเฟสชันแนล จึงได้ผสานสารบำรุงอันเลอค่าของน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ มาไว้ในผลิตภัณฑ์ “มิทติก ออยล์” เพิ่มประกายความงามของเส้นผมคุณโดยไม่เหนียวเหนอะหนะ ด้วยส่วนผสมของผล อโวคาโด และน้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่น ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารแร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อเส้นผมเรียบลื่น เงางามดุจแพรไหม เหมาะกับผมธรรมดาถึงเส้นใหญ่
ด้าน “มิทติก ออยล์ มิลค์” ที่อุดมด้วยคุณค่าจากโปรตีนที่สกัดจากรอยัลเจลลี่ ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินบีคอมเพล็กซ์ เพื่อเส้นผมที่เรียบนุ่มลื่น เงางามดุจแพรไหม ผสานด้วยวิตามินอันทรงคุณค่าของน้ำมันสกัดจากดอกเสาวรส อุดมด้วยวิตามินซี แคลเซียม และฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงและเสริมสร้างเส้นผมให้แข็งแรง เงางาม นุ่มสลวยน่าสัมผัส เหมาะสำหรับทุกสภาพเส้นผม โดยเฉพาะผมเส้นเล็ก
ใครอยากผมสวยด้วยน้ำมัน ลองหาซื้อทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้ “มิทติค ออยล์” และ “มิทติค ออยล์ มิลค์” ในราคา 895 บาท มีวางจำหน่ายแล้ว ณ ซาลอนที่มีเครื่องหมาย ลอรีอัล โปรเฟสชันแนล :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net