แม้จะไม่ได้เป็นเจ้าแรกที่มีชุดยูนิฟอร์มออกแบบโดยดีไซเนอร์ แต่ Sofitel So Bangkok ก็ทุ่มงบกับเครื่องแบบพนักงานด้วยการเชิญกูรูดีไซเนอร์จากฝรั่งเศส มร.คริสเตียน ลาครัวซ์ มารังสรรค์เสื้อผ้าให้พนักงานประหนึ่งพื้นที่ส่วนบริการของโรงแรมเป็นรันเวย์ย่อมๆ
ก้อย-สิริเนตร มีนากุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร เกริ่นถึงธีมของโรงแรมให้ฟังว่า “โรงแรมเน้นดีไซน์และเทคโนโลยีเป็นหลัก โดยเน้นการตกแต่งภายในที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ภายใต้คอนเซ็ปต์ของธาตุทั้ง 5 ได้แก่ ดิน น้ำ ไม้ โลหะ และไฟ มาใช้ในการตกแต่ง โดยแบ่งพื้นที่โซนชั้นล่างเป็นเมืองไทยสมัยอดีต โซนกลางเป็นยุคกลาง และโซนชั้นบนเป็นโลกแห่งอนาคต ซึ่งการออกแบบตกแต่งภายในนั้น ได้อินทีเรียและสถาปนิกคนไทยเป็นคนออกแบบ ส่วนเครื่องแบบพนักงานนั้น เราอยากให้โรงแรมซึ่งเป็นเชนโรงแรมเดียวของฝรั่งเศส มีศิลปะแบบไทยผสมผสานกับศิลปะฝรั่งเศส จึงเชิญดีไซเนอร์คนดังอย่าง มร. คริสเตียน ลาครัวซ์ มาร่วมออกแบบเสื้อผ้า, คลับ ซิกเนเจอร์ เอ็กเซ็กคลูทีฟ เล้าจ์ของโรงแรม, โมบายประดับเพดานบริเวณล็อบบี้ และตราสัญลักษณ์ของโรงแรม”
ความโดดเด่นในงานดีไซน์ของลาครัวซ์ คงเป็นชุดเครื่องแบบของพนักงานส่วนหน้า (ผู้ให้บริการแขก) ที่มีถึง 15 แบบ โดยจะจัดรูปแบบแยกไว้สำหรับพนักงานระดับซีเนียร์และสต๊าฟ ลักษณะของชุดพนักงานระดับซีเนียร์จะค่อนข้างภูมิฐาน ผู้หญิงจะสวมแจ็กเกต ส่วนผู้ชายจะใส่กางเกงสแล็คให้ดูเป็นทางการ แต่หากในไลน์ของพนักงานทั่วไปผู้ชายจะนุ่งโจงกระเบน ส่วนผู้หญิงจะผูกผ้าให้มีลูกเล่น ส่วนรองเท้าของพนักงานทางโรงแรมก็จัดหาให้ โดยต้องให้เข้ากับชุดเครื่องแบบ
“พนักงานจะได้รับชุด 3 ชุด ในแบบและลายที่แตกต่างกันออกไป โดยทางโรงแรมจะให้อิสระในการเลือกใส่แต่ละชุดโดยไม่จำกัด ที่สำคัญเราไม่ได้จำกัดรูปแบบของเครื่องแบบพนักงานในแต่ละแผนกเหมือนโรงแรมอื่นๆ แต่จะเน้นให้พนักงานทุกคนได้ใส่ชุดในรูปแบบเดียวกันและสามารถให้ข้อมูลต่างๆ แก่ลูกค้าได้เหมือนๆ กันด้วย”
ก้อยเล่าต่อว่า มร.คริสเตียน ลาครัวซ์ ได้เดินทางมาดูโรงแรมตั้งแต่โครงสร้างยังไม่เสร็จ หลังจากทราบคอนเซ็ปต์ของโรงแรมแล้ว มร.ลาครัวซ์ก็ได้ออกแบบชุดส่งมาให้ โดยทางโรงแรมลงทุนพิมพ์ลายผ้าเหล่านั้นและทำการตัดเย็บที่เมืองไทย “เป็นการลงทุนที่สูงมาก แต่เราก็เลือกที่จะแตกต่างจากโรงแรมอื่นๆ โดยอยากสร้างให้โรงแรมเป็นรันเวย์ และพนักงานทุกคนเป็นประหนึ่งนางแบบ โดยพนักงานสามารถออกแบบทั้งทรงผมและแต่งหน้าได้อย่างเต็มที่ ยกเว้นพนักงานในส่วนของอาหารและเครื่องดื่มก็ต้องเก็บผมให้เรียบร้อย”
จัดเต็มที่งานตกแต่งของโรงแรมและชุดยูนิฟอร์มแล้ว พนักงานที่จะได้มาทำงานในโรงแรมแห่งนี้ นอกจากความรู้ความสามารถที่เข้าตาผู้บริหารแล้ว ยังต้องมีบุคลิกที่มั่นใจ ทันสมัย เข้ากับโรงแรมฮิปๆ แห่งนี้ด้วย
แฟชั่นไม่ได้จำกัดอยู่แค่แบรนด์เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือแอคเซสเซอรีเท่านั้น หากสถานที่ต่างๆ นำความเป็นเทรนด์และแฟชั่นเข้าไปประยุกต์ใช้ สถานที่ธรรมดาๆ ก็กลายสถานที่พิเศษสุดขึ้นมาได้
**คริสเตียน ลาครัวซ์ ดีไซเนอร์ระดับแถวหน้าของฝรั่งเศส คร่ำหวอดอยู่ในวงการแฟชั่นโลกมาอย่างยาวนาน ด้วยฝีไม้ลายมือในการออกแบบที่เล่นกับสีสันและลวดลายอันแสนสะดุดตา แม้แบรนด์คริสเตียน ลาครัวซ์ ของเขาได้ล้มละลายเมื่อปี 2009 แต่ผลงานอันวิจิตรของเขายังปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ