>>แต่ก่อนการเดินเข้าร้านซาลอนไปจัดแต่งทรงผม ไม่ว่าจะเป็นการไดร์ ยืด ดัด หรือทำสี ความสวยของเส้นผมทั้งหลายนั้น ต้องแลกมาด้วยการทนดมกลิ่นน้ำยา และความรู้สึกไม่สบายหนังศีรษะจากสารพัดสารเคมีในผลิตภัณฑ์แต่งผมทั้งหลาย แต่วันนี้คุณสามารถเลือกทำผมสวยได้แบบไม่ต้องทนกับสิ่งเหล่านั้นอีกต่อไปที่ "Le Salon @ 23" (เลอ ซาลอน แอท 23)
ร้าน Le Salon @ 23 (เลอ ซาลอน แอท 23) เป็นร้านทำผมของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ โดยตั้งอยู่ที่บริเวณล็อบบี้ ชั้น 23 ซึ่งร้านนี้ได้รับการดูแลโดยแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลและจัดแต่งทรงผมชื่อดังอย่าง ชวาร์สคอฟ โปรเฟสชันแนล ในทุกขั้นตอน ทั้งในเรื่องของผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือ ไปจนถึงเทคนิคฝีมือของช่างและมาตรฐานการบริการ
โดยความพิเศษของร้านนี้ที่น่าจะถูกใจสาวๆ ยุคนี้ที่สุด คือมีคอนเซ็ปเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมตามนโยบายการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของโรงแรม ซึ่งที่ร้านนี้ได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ชวาร์สคอฟ โปรเฟสชันแนล ในคอลเลกชัน Green Line อย่าง ESSENSITY
อันเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติสูงและมีประสิทธิภาพอันเลิศล้ำ โดยใช้ส่วนผสมสารสกัดจากธรรมชาติเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพผม ปราศจากสารเคมีที่ส่งผลให้ผมเสีย ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นสังเคราะห์ ซิลิโคน พาราฟิน มิเนอรัล ออยล์ และพาราเบน แต่ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติในแบบออร์แกนิกเข้ามาแทนที่ ซึ่งยังคงให้ประสิทธิภาพในการทำงานอย่างครบถ้วน คุณจึงสามารถทำผมได้โดยไม่ต้องมีกลิ่นฉุนของสารเคมี และไม่มีการแสบระคายเคืองต่อหนังศีรษะ แถมผมยังมีสุขภาพดีเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ และมีสัมผัสอันนุ่มลื่น
“ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ ทำให้ทั้งช่างผมและลูกค้าที่มาทำผมต้องไม่ทนกับกลิ่นน้ำยาในร้านทำผม ลูกค้าสามารถทำสีผมได้โดยไม่แสบหรือระคายเคืองผิวหนัง โดยยังคงได้รับการดูแลและจัดแต่งเส้นผมอย่างครบถ้วนไม่ต่างกับผลิตภัณฑ์แบบก่อนๆ แต่อย่างใด แต่อาจจะต้องให้เวลาในการทำสีผมนานขึ้นนิดหน่อย เพราะผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติจะออกฤทธิ์ช้ากว่า และไม่รุนแรงเท่าสารเคมี จึงต้องปล่อยน้ำยาทิ้งไว้บนเส้นผมให้นานขึ้นกว่าเดิม 10 นาที แต่รับรองว่าคุณจะได้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและไม่ทำลายสุขภาพ....
คำแนะนำอย่างหนึ่งสำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์แบบ Green Product นี้คือ อย่าให้ผิวหนังของเราสัมผัสกับครีมหรือน้ำยาในกระปุก ควรใช้ช้อนตัก เพราะความเป็นธรรมชาติเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมอย่างเหงื่อหรือฝุ่นละออง แบคทีเรียจากมือเราเข้าไปปะปนจะทำให้ผลิตภัณฑ์หมดอายุเร็วขึ้น” คุณสมศรี ทองขาว Chef Hairdresser ของ Le Salon @ 23 ให้คำแนะนำ
นอกจากจะบริการการดูแลผมแล้ว ถ้าใครที่สนใจผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่ไม่เป็นพิษต่อธรรมชาติ ยังสามารถซื้อหา Essensity กลับไปใช้ที่บ้านได้อีกด้วย เขามี 3 กลุ่มให้เลือกคือ ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม และผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เรียกได้ว่าดูแลเส้นผมคุณได้ครบทุกขั้นตอน
ที่ร้านนี้นอกจากผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้จะโดดเด่นไม่เหมือนใครแล้ว ยังมีการตกแต่งร้านที่สวยงาม ทันสมัย เน้นความเรียบหรู ด้วยผนังแบบปูนเปลือยและไม้ ประกอบกับสีสันสดใสของเฟอร์นิเจอร์ในร้าน แถมยังมีห้องส่วนตัวไว้คอยบริการแขกที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ซึ่งสามารถสระ อบ ดัด ตัด แต่งผมได้ทุกอย่างในห้องแห่งนี้
ใครสนใจจะมาลองสัมผัสกับประสบการณ์ทำผมแบบใหม่ๆ ที่นี่ กรุณาติดต่อสอบถามและโทรศัพท์นัดล่วงหน้าที่ 0-2100-1234 ต่อ 6888 หรือที่ศูนย์สุขภาพ LifeStyles on 26 โทรศัพท์ 0-2100-1234 ต่อ 6511 โดยร้านจะเปิดบริการในช่วงวันจันทร์ถึงเสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
:: Tips จากกูรู
ในการทำสีผม ก่อนมาทำไม่ควรสระผมเพราะจะเป็นการล้างน้ำมันตามผิวธรรมชาติออกไปซึ่งจะทำให้เมื่อใส่น้ำยาทำสีผมลงไป หนังศีรษะอาจเกิดการระคายเคืองได้ง่าย และควรเว้นว่างจากการบำรุงผมด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อทำให้เส้นผมมีสภาพเป็นธรรมชาติที่สุดซึ่งจะทำสีได้ง่ายที่สุด
หลังการทำสีผม ควรกลับมาอบไอน้ำเมื่อผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ เพื่อช่วยฟื้นฟูสุขภาพเส้นผม และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลเส้นผม ที่เหมาะกับผมทำสี จะช่วยคงความงามของสีผมไว้ได้นานยิ่งขึ้น
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
