By Lady Manager @Bitchy
ช็อกวงการฮอลลีวูดไปอีกคู่กับเรื่องราวรักสามเศร้าของนางเอกสาวหน้าเดียว คริสเตน สจ๊วร์ต (Kristen Stewart) ที่ออกยอมรับสารภาพ คบชู้สู่ชายกับ รูเพิร์ต แซนเดอร์ส (Rupert Sanders) ผู้กำกับวัย 41 ปีที่มีทั้งลูก และเมีย อยู่ทนโท่ จิตใจมันหวั่นไหวเพียงเพราะแค่ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่อง Snow White And The Huntsman
คนที่สุดช้ำจะเป็นใครไปได้นอกจากหนุ่มแวมไพร์ โรเบิร์ต แพททินสัน (Robert Pattinson)
ครั้นจะให้เลิกติดต่อกัน ขาดสะบั้นคงจะเป็นไปไม่ได้เพราะทั้งคู่ต้องออกงานพรมแดงเปิดตัวหนังรักแวมไพร์ภาคจบ The Twilight Saga : Breaking Dawn Part 2 ปลายปีนี้อีก
งั้น..เราลองมาหาวิธีวางตัวเมื่อต้อง เผชิญหน้ากับแฟนเก่า เนื่องจากมีอันต้องร่วมงานกัน หรืออยู่ร่วมออฟฟิศเดียวกัน เราควรวางตัวอย่างไรให้เหมาะในฐานะ "แฟนเก่า" ลองไปดูกันเลยจ้า
->วิธีแรก
แยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงาน
มันจะดูไม่เป็นมืออาชีพเลยหากคุณทะเลาะกันต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน เพราะเขาเหล่านั้นอาจคิดว่า คุณสองคนหยิบเรื่องรักร้าวในอดีตมาเติมเชื้อให้ปัญหาเรื่องงานอันเล็กน้อยใหญ่โตขึ้น เพียงแค่คุณสองคนไม่แยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงาน
ควรจัดการกับวิธีคิด และทำจิตใจให้ปล่อยวาง คุยกันในแต่เนื้องานเท่านั้น ห้ามใส่อารมณ์เพียงเพราะเรื่องเก่าของคุณทั้งสอง
แม้ความรักของคุณอาจจบไม่สวยนัก แต่การเกลียดเขาก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตของคุณดีขึ้น มีแต่จะทำให้เรื่องของเขาวนเวียนอยู่ในหัวคุณ จนพาลรู้สึกแย่กับตัวเองไปด้วยเปล่าๆ ปล่อยวางเสียบ้าง คิดเสียว่ามันเป็นแค่ความผิดพลาดที่จะผ่านไปในไม่ช้า ลืมเขาไปซะแม้จะต้องเจออยู่เกือบทุกวัน จะไปจำเขาให้รกสมองทำไมล่ะ
->วิธีสอง
อย่าคุยงานกันสองต่อสอง
หากคุณมีความจำเป็นจะต้องคุยงานกัน ทั้งที่ไม่อยากจะสบตากันด้วยซ้ำ แนะนำว่า อย่าคุยกันสองต่อสองในห้องเล็กๆ ให้ออกไปสูดอากาศภายนอก หรือไปคุยกันให้คนอื่นเห็น
เพราะการอยู่กันสองต่อสองกับคนเคยรัก คุณอาจห้ามใจไหว แต่อีกฝ่ายนี่ซิ โดยเฉพาะฝ่ายชายอาจเผลอ หรือตั้งใจถูกเนื้อต้องตัวคุณ เพราะหักห้ามอารมณ์ไม่ได้ จนทำให้ไฟรักเก่าลุกโชนจนดับแทบไม่ได้ มารู้ตัวอีกที เพื่อนร่วมงานก็เอาไปเม้าท์กันให้แซ่ด
แถมการคุยงานกันข้างนอกจะทำให้ความรู้สึกผูกพันมันน้อยกว่าอยู่ในห้องเล็กอีกด้วย บางคู่อาจห้ามใจไม่ไหวด้วยการทำร้ายร่างกายกันเพียงเพราะคำพูดกันสองต่อสองเนี้ยแหล่ะ
->วิธีสาม
คุยงานต่อหน้าล่วงหน้า ห้ามโทรหา
หากมีปัญหาแม้จะเป็นเรื่องงานไม่ควรโทรหาเขาเด็ดขาด เพราะมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์พอจบเรื่องงานปุ้บ เรื่องส่วนตัวมันจะพรั่งพรูออกมาจากปากคุณเลยทีเดียว
ควรคุยงานกันในเวลางานให้จบ หรืออาจจะคุยนัดงานเลยไปถึงสัปดาห์หน้า ล่วงหน้ากันไปเลยยาวๆ แต่ต้องคุยให้รู้เรื่องในเวลางานนะ มิใช่ว่าเอะอะหาเรื่องโทรหาเขาทำเป็นคุยเรื่องงาน อันที่จริงเพราะใจมันคิดถึงต่างหาก หรือหากงานมันติดขัดจริงๆ ส่งข้อความช่วยได้นะจ๊ะ
->วิธีสี่
อย่าทำตัวแปลก
คุยเจื้อยแจ้วเม้าท์มอยกับเพื่อนฝูงตามปกติ มิใช่ว่าพอแฟนเก่าเดินเข้ามาก็สะบัดตูดเดินหนี หรือทำหน้าไม่พอใจ จำไว้ว่า เขาไม่สามารถทำร้ายจิตใจคุณได้อีกต่อไปแล้ว อย่าได้แคร์!
พยายามทำตัวสวยใส แต่งตัวเริ่ดๆ ให้เขาเสียดาย ห้ามทำตัวเศร้า ทำตัวเป็นอีเพิ้ง หน้าไม่แต่ง ผมเพ้ารุงรัง แปลกจากเดิมที่เคยสวยเลิศอยู่เด็ดขาด
เพราะเขาอาจคิดว่า เขามีอิทธิพลต่อคุณมาก จนสามารถทำให้คุณเปลี่ยนเป็นคนละคนได้จากหน้ามือเป็นหลังเท้า หน้าสวยเป็นหน้าเน่าได้ จงทำตัวเหมือนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก จะเลิศและหาแฟนใหม่ได้ง่ายมากค่ะ
->วิธีห้า
เลิกงานปุ้บห้ามนั่งแช่ในออฟฟิศ
หลังจากเลิกงานแล้ว อย่ามามัวแต่นั่งเล่นคอมพ์ หรือทำตัวเซ็งโลกนั่งแช่จนดึกดื่น คุณต้องเปิดโลกทัศน์ และประตูบานใหม่ให้ชีวิตโสด หลังจากเลิกงานปุ้บ ต้องคิดใหม่เสียว่า มันคือห้วงเวลาแห่งความสุข
หลังจากเคลียร์เอกสาร หรืองานที่ได้รับมอบหมายแล้ว อย่ามานั่งจมปลักจนก้นด้านแทบเป็นแผลกดทับอยู่กับเก้าอี้ทำงาน ให้หาอะไรใหม่ๆ ทำจากเดิม เพราะระวังเถอะ แฟนเก่าของคุณอาจจะจ้องและย่องเข้ามาตอนเพื่อนร่วมงานคนอื่นไม่อยู่ หวังมาง้อ หรือโหมให้ถ่านไฟเก่าคุลุกโชนต้องกลับไปวงเวียนชีวิตรักอันเน่าเฟะอีก
จากนี้ควรปรนเปรอตัวเองหาสิ่งดีๆ ใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต เช่น สมัครสมาชิกฟิตเนส เต้นแอโรบิกหน้าโลตัส วิ่งรอบสวนสาธารณะ โยคะ นอกจากจะได้สุขภาพใจที่ดีแล้ว สุขภาพกายยังแข็งแรงน่าเซี๊ยะอีกด้วยแน่ะ
หรือหางานอดิเรก ชอบอะไรก็ทำไปเลย เพราะก่อนหน้านี้เอะอะก็จะอยู่แต่กับแฟนอย่างเดียว ถูกมั้ย!
การหากิจกรรมใหม่เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ อาการโศกเศร้าของคุณ และยังช่วยให้คุณได้พัฒนาทักษะของตัวเองไปในตัวอีกด้วย
->วิธีสุดท้าย
ยอมรับ ย้อนเวลาไม่ได้
นิสัยเสียของผู้หญิงเราคือ ชอบเสียใจภายหลังกับการตัดสินใจของตัวเองเนี่ยแหละ เรามักถามตัวเองว่าถ้าตอนนั้นเราเลือกอีกแบบ เราพูดอีกอย่าง ผลที่ได้วันนี้จะเปลี่ยนไปหรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่มีใครรู้หรอกว่าทำแบบไหนถึงจะดีที่สุด
เพราะสุดท้ายไม่ว่าคุณจะเลือกทำอะไร คุณก็จะต้องเสียทางเลือกอีกทางไปอยู่ดี ทางออกที่ดีที่สุดคือ คิดให้ดีก่อนจะตัดสินใจทำอะไร และเมื่อตัดสินใจทำลงไปแล้ว ก็อย่ามาคิดเสียใจภายหลัง ยอมรับการตัดสินใจของตัวเอง และพยายามทำวันต่อไปให้ดียิ่งขึ้น
ในเมื่อตัดใจจากเขาได้แล้ว แต่ยังต้องเผชิญหน้าเพราะต้องร่วมงานกันอยู่ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องทำใจให้แข็งดุจหินผา เราต้องยอมรับว่า สายน้ำไม่เคยไหลกลับ เข็มนาฬิกามันเดินไปข้างหน้าตลอด
เพราะความรักมันออกแบบไม่ได้ ของใครก็ของมัน อย่ามัวแต่เอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้วเราจะมีความสุขซะล่ะ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
ช็อกวงการฮอลลีวูดไปอีกคู่กับเรื่องราวรักสามเศร้าของนางเอกสาวหน้าเดียว คริสเตน สจ๊วร์ต (Kristen Stewart) ที่ออกยอมรับสารภาพ คบชู้สู่ชายกับ รูเพิร์ต แซนเดอร์ส (Rupert Sanders) ผู้กำกับวัย 41 ปีที่มีทั้งลูก และเมีย อยู่ทนโท่ จิตใจมันหวั่นไหวเพียงเพราะแค่ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่อง Snow White And The Huntsman
คนที่สุดช้ำจะเป็นใครไปได้นอกจากหนุ่มแวมไพร์ โรเบิร์ต แพททินสัน (Robert Pattinson)
ครั้นจะให้เลิกติดต่อกัน ขาดสะบั้นคงจะเป็นไปไม่ได้เพราะทั้งคู่ต้องออกงานพรมแดงเปิดตัวหนังรักแวมไพร์ภาคจบ The Twilight Saga : Breaking Dawn Part 2 ปลายปีนี้อีก
งั้น..เราลองมาหาวิธีวางตัวเมื่อต้อง เผชิญหน้ากับแฟนเก่า เนื่องจากมีอันต้องร่วมงานกัน หรืออยู่ร่วมออฟฟิศเดียวกัน เราควรวางตัวอย่างไรให้เหมาะในฐานะ "แฟนเก่า" ลองไปดูกันเลยจ้า
->วิธีแรก
แยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงาน
มันจะดูไม่เป็นมืออาชีพเลยหากคุณทะเลาะกันต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน เพราะเขาเหล่านั้นอาจคิดว่า คุณสองคนหยิบเรื่องรักร้าวในอดีตมาเติมเชื้อให้ปัญหาเรื่องงานอันเล็กน้อยใหญ่โตขึ้น เพียงแค่คุณสองคนไม่แยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงาน
ควรจัดการกับวิธีคิด และทำจิตใจให้ปล่อยวาง คุยกันในแต่เนื้องานเท่านั้น ห้ามใส่อารมณ์เพียงเพราะเรื่องเก่าของคุณทั้งสอง
แม้ความรักของคุณอาจจบไม่สวยนัก แต่การเกลียดเขาก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตของคุณดีขึ้น มีแต่จะทำให้เรื่องของเขาวนเวียนอยู่ในหัวคุณ จนพาลรู้สึกแย่กับตัวเองไปด้วยเปล่าๆ ปล่อยวางเสียบ้าง คิดเสียว่ามันเป็นแค่ความผิดพลาดที่จะผ่านไปในไม่ช้า ลืมเขาไปซะแม้จะต้องเจออยู่เกือบทุกวัน จะไปจำเขาให้รกสมองทำไมล่ะ
->วิธีสอง
อย่าคุยงานกันสองต่อสอง
หากคุณมีความจำเป็นจะต้องคุยงานกัน ทั้งที่ไม่อยากจะสบตากันด้วยซ้ำ แนะนำว่า อย่าคุยกันสองต่อสองในห้องเล็กๆ ให้ออกไปสูดอากาศภายนอก หรือไปคุยกันให้คนอื่นเห็น
เพราะการอยู่กันสองต่อสองกับคนเคยรัก คุณอาจห้ามใจไหว แต่อีกฝ่ายนี่ซิ โดยเฉพาะฝ่ายชายอาจเผลอ หรือตั้งใจถูกเนื้อต้องตัวคุณ เพราะหักห้ามอารมณ์ไม่ได้ จนทำให้ไฟรักเก่าลุกโชนจนดับแทบไม่ได้ มารู้ตัวอีกที เพื่อนร่วมงานก็เอาไปเม้าท์กันให้แซ่ด
แถมการคุยงานกันข้างนอกจะทำให้ความรู้สึกผูกพันมันน้อยกว่าอยู่ในห้องเล็กอีกด้วย บางคู่อาจห้ามใจไม่ไหวด้วยการทำร้ายร่างกายกันเพียงเพราะคำพูดกันสองต่อสองเนี้ยแหล่ะ
->วิธีสาม
คุยงานต่อหน้าล่วงหน้า ห้ามโทรหา
หากมีปัญหาแม้จะเป็นเรื่องงานไม่ควรโทรหาเขาเด็ดขาด เพราะมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์พอจบเรื่องงานปุ้บ เรื่องส่วนตัวมันจะพรั่งพรูออกมาจากปากคุณเลยทีเดียว
ควรคุยงานกันในเวลางานให้จบ หรืออาจจะคุยนัดงานเลยไปถึงสัปดาห์หน้า ล่วงหน้ากันไปเลยยาวๆ แต่ต้องคุยให้รู้เรื่องในเวลางานนะ มิใช่ว่าเอะอะหาเรื่องโทรหาเขาทำเป็นคุยเรื่องงาน อันที่จริงเพราะใจมันคิดถึงต่างหาก หรือหากงานมันติดขัดจริงๆ ส่งข้อความช่วยได้นะจ๊ะ
->วิธีสี่
อย่าทำตัวแปลก
คุยเจื้อยแจ้วเม้าท์มอยกับเพื่อนฝูงตามปกติ มิใช่ว่าพอแฟนเก่าเดินเข้ามาก็สะบัดตูดเดินหนี หรือทำหน้าไม่พอใจ จำไว้ว่า เขาไม่สามารถทำร้ายจิตใจคุณได้อีกต่อไปแล้ว อย่าได้แคร์!
พยายามทำตัวสวยใส แต่งตัวเริ่ดๆ ให้เขาเสียดาย ห้ามทำตัวเศร้า ทำตัวเป็นอีเพิ้ง หน้าไม่แต่ง ผมเพ้ารุงรัง แปลกจากเดิมที่เคยสวยเลิศอยู่เด็ดขาด
เพราะเขาอาจคิดว่า เขามีอิทธิพลต่อคุณมาก จนสามารถทำให้คุณเปลี่ยนเป็นคนละคนได้จากหน้ามือเป็นหลังเท้า หน้าสวยเป็นหน้าเน่าได้ จงทำตัวเหมือนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก จะเลิศและหาแฟนใหม่ได้ง่ายมากค่ะ
->วิธีห้า
เลิกงานปุ้บห้ามนั่งแช่ในออฟฟิศ
หลังจากเลิกงานแล้ว อย่ามามัวแต่นั่งเล่นคอมพ์ หรือทำตัวเซ็งโลกนั่งแช่จนดึกดื่น คุณต้องเปิดโลกทัศน์ และประตูบานใหม่ให้ชีวิตโสด หลังจากเลิกงานปุ้บ ต้องคิดใหม่เสียว่า มันคือห้วงเวลาแห่งความสุข
หลังจากเคลียร์เอกสาร หรืองานที่ได้รับมอบหมายแล้ว อย่ามานั่งจมปลักจนก้นด้านแทบเป็นแผลกดทับอยู่กับเก้าอี้ทำงาน ให้หาอะไรใหม่ๆ ทำจากเดิม เพราะระวังเถอะ แฟนเก่าของคุณอาจจะจ้องและย่องเข้ามาตอนเพื่อนร่วมงานคนอื่นไม่อยู่ หวังมาง้อ หรือโหมให้ถ่านไฟเก่าคุลุกโชนต้องกลับไปวงเวียนชีวิตรักอันเน่าเฟะอีก
จากนี้ควรปรนเปรอตัวเองหาสิ่งดีๆ ใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต เช่น สมัครสมาชิกฟิตเนส เต้นแอโรบิกหน้าโลตัส วิ่งรอบสวนสาธารณะ โยคะ นอกจากจะได้สุขภาพใจที่ดีแล้ว สุขภาพกายยังแข็งแรงน่าเซี๊ยะอีกด้วยแน่ะ
หรือหางานอดิเรก ชอบอะไรก็ทำไปเลย เพราะก่อนหน้านี้เอะอะก็จะอยู่แต่กับแฟนอย่างเดียว ถูกมั้ย!
การหากิจกรรมใหม่เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ อาการโศกเศร้าของคุณ และยังช่วยให้คุณได้พัฒนาทักษะของตัวเองไปในตัวอีกด้วย
->วิธีสุดท้าย
ยอมรับ ย้อนเวลาไม่ได้
นิสัยเสียของผู้หญิงเราคือ ชอบเสียใจภายหลังกับการตัดสินใจของตัวเองเนี่ยแหละ เรามักถามตัวเองว่าถ้าตอนนั้นเราเลือกอีกแบบ เราพูดอีกอย่าง ผลที่ได้วันนี้จะเปลี่ยนไปหรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่มีใครรู้หรอกว่าทำแบบไหนถึงจะดีที่สุด
เพราะสุดท้ายไม่ว่าคุณจะเลือกทำอะไร คุณก็จะต้องเสียทางเลือกอีกทางไปอยู่ดี ทางออกที่ดีที่สุดคือ คิดให้ดีก่อนจะตัดสินใจทำอะไร และเมื่อตัดสินใจทำลงไปแล้ว ก็อย่ามาคิดเสียใจภายหลัง ยอมรับการตัดสินใจของตัวเอง และพยายามทำวันต่อไปให้ดียิ่งขึ้น
ในเมื่อตัดใจจากเขาได้แล้ว แต่ยังต้องเผชิญหน้าเพราะต้องร่วมงานกันอยู่ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องทำใจให้แข็งดุจหินผา เราต้องยอมรับว่า สายน้ำไม่เคยไหลกลับ เข็มนาฬิกามันเดินไปข้างหน้าตลอด
เพราะความรักมันออกแบบไม่ได้ ของใครก็ของมัน อย่ามัวแต่เอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้วเราจะมีความสุขซะล่ะ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net