xs
xsm
sm
md
lg

ฝันร้ายที่โลซานของ เจนนิส สินธวาชีวะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>เพิ่งจะผ่านเหตุการณ์ตื่นเต้นมาไม่นาน เมื่อบ้านถูกคนลอบวางเพลิง และเป็นเรื่องเป็นราวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของคนนามสกุลใหญ่ระดับนายกรัฐมนตรี แต่ “เจนนิส สินธวาชีวะ” บอกว่าขอให้เรื่องราวเหล่านั้นจบไปเถอะ เพราะวันหนึ่งคนที่ทำก็จะได้รับผลกรรมนั้นเอง ใครทำดีทำชั่วอย่างไรก็รู้ดีแก่ใจ … แต่มีเหตุการณ์ตื่นเต้นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เธอไม่เคยลืมและยังคงเป็นฝันร้ายที่ติดอยู่ในความทรงจำของเธอเสมอมาตั้งแต่สมัยที่ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเธอถูกชายเสียสติจู่โจมจนบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ!!

แม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว แต่ทุกอย่างยังคงเป็นแผลในความทรงจำของเธอ กระทั่งในวันนี้เธอยังต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ เรียกความเข้มแข็งก่อนที่จะเริ่มเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ให้เราฟังอย่างละเอียดราวกับเหตุการณ์นั้นเพิ่งผ่านมาไม่นาน......

“เรื่องราวเกิดขึ้นสมัยอยู่สวิตเซอร์แลนด์ ตอนนั้นอายุสัก 18-19 ปี บ้านที่เราอยู่เป็นอพาร์ตเมนต์ในเมืองโลซาน เมืองเล็กๆ ที่เงียบมาก เมืองที่เราคุ้นเคยเพราะอยู่มานาน และไม่เคยรู้สึกมาก่อนว่ามีอะไรที่น่ากลัว ...


เหตุเกิดตอนประมาณเกือบ 1 ทุ่ม ซึ่งวันนั้นเราก็ใช้ชีวิตปกติ คือพาหมาออกไปเดินเล่น ละแวกบ้าน ซึ่งแถวบ้านก็จะมีร้านอาหารเล็กๆ ที่อยู่เยื้องกับบ้าน แล้วหน้าร้านอาหารก็จะมีตู้โทรศัพท์อยู่หน้าร้านด้วย...วันนั้นพาหมาออกไปเดินเล่นแล้วก็ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ในตู้โทรศัพท์ มือก็จูงหมาด้วย

ระหว่างนั้นเราเห็นว่ามีผู้ชายลักษณะสูงใหญ่ มีหนวดมีเครา ใส่เสื้อผ้าพะรุงพะรัง เดินมาก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะอากาศหนาวคนก็ใส่เสื้อผ้าหนาๆ หลายตัวเพื่อให้ความอบอุ่นมั้ง...เราคุยโทรศัพท์อยู่เราก็มองเขาแล้วก็หันกลับมาคุยโทรศัพท์ต่อ ตอนที่หันไปเราก็สบตาเขาแล้ว แต่เขาเหมือนคนเมา เราก็คิดว่าเขาคงมึนๆ เดี๋ยวก็เดินผ่านไป …

….แต่รู้สึกตัวอีกทีเขาใช้สองมือกระชากเราออกมา แล้วอัดกระแทกเข้าไปในตู้โทรศัพท์ หน้าอกเราก็กระแทกกับตู้โทรศัพท์แล้วล้มลง มือที่จับหมาอยู่ก็ปล่อย หมากระเจิงวิ่งหนีไปด้วยความตกใจ แล้วเขาก็จับเราขึ้นมาอีกทั้งที่เราล้มอยู่ที่พื้น แล้วก็เหวี่ยงเราออกไปที่ถนน เราก็ไถลไปที่พื้น จากนั้นก็ลุกขึ้นวิ่งหนีจะเข้าบ้าน

ด้วยความที่เขาตัวอ้วนใหญ่เขาก็ตามเราไม่ทัน แต่เขาก็พยายามวิ่งตาม เราวิ่งไปจะเข้าบ้านแล้วประตูที่นั่นต้องกดรหัสเข้าไป พอประตูเปิดเราก็เข้าไป แต่กว่าประตูจะปิดมันสโลว์มากเพราะว่าเป็นประตูไฟฟ้าที่เขาเซตระบบไว้อย่างนั้น ประตูปิดช้าเหลือเกิน ดึงก็ไม่ได้ เขาก็ไล่เราเกือบทันคือเขาก็วิ่งตามขึ้นมาบนบันไดอีก 3 ขั้นก็จะถึงประตูแล้ว ระหว่างที่เขาวิ่งตามเรามาเขาหยิบมีดออกมาด้วย ลักษณะเป็นมีดพับยาวสักคืบนึงได้ แล้วประตูก็ปิดพอดี!! ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนในหนังเลย กลัวมาก....


เขาอยู่ข้างนอก เราอยู่ข้างใน ตาต่อตามองกันเลย แต่เวลานั้นคิดว่าเราปลอดภัยแล้วเพราะเราอยู่ข้างใน และเขาก็ไม่สามารถเปิดประตูได้แน่นอน แต่เขาก็พยายามเอามีดมาแทงๆๆ ที่ประตู เราก็ตะโกนเรียกคนให้ช่วยเรียกตำรวจ แล้วตำรวจมาจับเขาไป ระหว่างที่ตำรวจยังไม่มาเขาก็ยังเอามีดจิ้มอยู่หน้าประตูแล้วก็บ่น ด่า แล้วตำรวจก็มาจับไป

หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คิดจะเอาเรื่องอะไร เพราะมารู้ทีหลังว่าเขาสติไม่ดี อยากให้เรื่องจบๆ ไป แต่หลังจากนั้นสัก 2 สัปดาห์ เราก็เจอเขาเดินอยู่แถวๆ บ้านอีก ซึ่งเราก็แปลกใจว่าเขาทำร้ายคนทำไมตำรวจยังปล่อยให้มาเดินอยู่อีก เขาไม่เห็นเรา...เราก็เลี่ยงๆ ไป แต่หลังจากนั้นเขาก็หายไป

ผลที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ในวันนั้นคือเราปากแตก เขียวตามตัว มือก็เป็นแผล เพราะไถลไปกับพื้น ต้องใช้เวลาเยียวยาทางจิตใจนานมาก กลัวจนไม่กล้าออกไปข้างนอก จะไปไหนต้องไปกับพี่ชายตลอด นอยด์ไปเป็นปีเลย”

ทุกวันนี้ทุกครั้งที่พบเห็นคนที่มีลักษณะสติไม่ค่อยสมประดี เธอมักจะเกิดความหวาดระแวงและพยายามอยู่ให้ห่างทุกครั้ง เพราะเธอคิดว่าคนที่สติไม่ค่อยดี เขาสามารถทำอะไรโดยที่เราไม่คาดคิดได้ตลอดเวลา....คุณผู้อ่านเองก็เช่นกันจะไปไหนมาไหนอย่าลืมระวังตัว อยู่ให้ห่างกับภัยไว้เป็นดี :: Text by FLASH

 
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net หรือ App Store ได้แล้วที่ celeb online ipad edition


กำลังโหลดความคิดเห็น