By Lady Manager
Question เลือกกินแต่พวก diet, low fat, sugar free แต่ยังไม่ผอมลง ทำไมคะ?
Answer โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ
“สังเกต คนอเมริกันกินทุกอย่าง ไม่ว่าจะ low fat, fat free, sugar free, cheese free แต่หุ่นก็อเมริกันไซส์!”
เรียกว่า เอวยัง ‘หนา’ อยู่เล้ย แต่ที่หมอกฤษดากังวลกว่าคือ
“ปลอดมันปลอดหวานแต่ไม่ปลอดภัย เพราะเมื่อไรที่ปลอดมัน อาทิ ไก่ทอดยี่ห้อดังเค้าบอกเค้าใช้น้ำมันที่ปลอดคอเลสเตอรอลทอด พวกนี้คือ กลุ่มคอลเลสเตอรอลฟรี (cholesterol free) แต่มันอาจจะสัมพันธ์กับเรื่องสุขภาพบางอย่างเช่น มะเร็ง หรือกินเข้าไปแล้วเวลาถ่ายออกมาจะเป็นมันๆ
แต่ถ้าเป็นชูการ์ฟรี (sugar free) พวกน้ำตาลเทียม จริงอยู่ มันทำให้ไม่อ้วน แต่มันไปกดสวิตช์ทำให้เราติดหวาน พูดง่ายๆ กินน้ำอัดลมพวกนี้ไม่อ้วนหรอก แต่มันจะหิวเร็วขึ้น
ทดสอบง่ายๆ หาแทงค์น้ำใหญ่ๆ แบบตู้ปลาก็ได้ เอาน้ำอัดลมมา 2 กระป๋อง กระป๋องหนึ่งเป็นชูการ์ฟรีหรือน้ำตาลเทียม อีกกระป๋องเป็นน้ำตาลแท้ ใส่ตุ๋มลงไปในน้ำ ดูซิว่ากระป๋องไหนจมกระป๋องไหนลอย
ผลก็คือ น้ำตาลแท้จะจม ทำไมอยากให้ทำการทดลองนี้ เพราะมันเห็นภาพชัด
ในกระป๋องที่เป็นน้ำตาลแท้จะใส่น้ำตาลประมาณ 6 ก้อน มันถึงหนักกว่าไงครับ มันถึงจม ขณะที่น้ำตาลเทียมหยดไปแค่หยดเดียวแต่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลแท้เป็นร้อยเท่า นี่แหล่ะข้อเสียของน้ำตาลเทียมที่ใช้นิดเดียวก็หวานปิ๊งแล้ว มันเลยทำให้เราติดหวาน”
จากข้อมูลทางโภชนาการและสุขภาพของสสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ) ชี้ให้เห็นว่า การบริโภคน้ำตาลที่มากเกินควรนอกจากนำมาซึ่งปัญหาโรคอ้วนและโรคฟันผุแล้ว ยังมีอันตรายต่อสุขภาพหลายประการ โดยน้ำตาลซูโครส (sucrose) หรือ ฟรุกโตส (fructose) จะทำให้ระดับไขมันกลูโคส (glucose) อินซูลิน (insulin) และกรดยูริก (uric acid) ในเลือดสูงขึ้น เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดและโรคเบาหวาน
คนที่ชอบกินหวานจัดบ่อยๆ จะทำให้ระบบความสมดุลของแร่ธาตุในร่างกายเสียไป ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันโรคในร่างกายลดต่ำลง ผลที่ตามมาก็คือทำให้ติดเชื้อง่าย
มิหนำซ้ำ การเผาผลาญน้ำตาลในร่างกายบ่อยๆ ยังเป็นตัวเร่งให้เกิดอนุมูลอิสระ เมื่อบริโภคเป็นเวลานานจะก่อให้ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) ในเลือดสูงอีกทั้งการรับประทานน้ำตาลซูโครสมาก ทำให้กรดอะมิโน (amino acid) ที่มีชื่อว่า ทริปโตฟาน (tritophan) ถูกเร่งเข้าสู่สมองมากเกินไปทำให้เสียสมดุลของฮอร์โมนในสมอง
ผลที่ตามมาก็คือ ทำให้เกิดอาการเซื่องซึม เหนื่อย ไม่กระฉับกระเฉง
“ผมแนะนำน้ำตาลเทียมธรรมชาติคือ หญ้าหวาน หรือไม่ก็ชะเอม ดีกว่าครับ”
# ท่านผู้อ่านสามารถฝากคำถามสารพันปัญหาคาใจหญิงเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ ความงาม และแน่นอน เรื่องเซ็กซ์กับความสัมพันธ์ มาได้ที่ lady@astvmanager.com เราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญมาเคลียร์ให้หายคลางแคลงใจเลยค่ะ *_*
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Question เลือกกินแต่พวก diet, low fat, sugar free แต่ยังไม่ผอมลง ทำไมคะ?
Answer โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ
“สังเกต คนอเมริกันกินทุกอย่าง ไม่ว่าจะ low fat, fat free, sugar free, cheese free แต่หุ่นก็อเมริกันไซส์!”
เรียกว่า เอวยัง ‘หนา’ อยู่เล้ย แต่ที่หมอกฤษดากังวลกว่าคือ
“ปลอดมันปลอดหวานแต่ไม่ปลอดภัย เพราะเมื่อไรที่ปลอดมัน อาทิ ไก่ทอดยี่ห้อดังเค้าบอกเค้าใช้น้ำมันที่ปลอดคอเลสเตอรอลทอด พวกนี้คือ กลุ่มคอลเลสเตอรอลฟรี (cholesterol free) แต่มันอาจจะสัมพันธ์กับเรื่องสุขภาพบางอย่างเช่น มะเร็ง หรือกินเข้าไปแล้วเวลาถ่ายออกมาจะเป็นมันๆ
แต่ถ้าเป็นชูการ์ฟรี (sugar free) พวกน้ำตาลเทียม จริงอยู่ มันทำให้ไม่อ้วน แต่มันไปกดสวิตช์ทำให้เราติดหวาน พูดง่ายๆ กินน้ำอัดลมพวกนี้ไม่อ้วนหรอก แต่มันจะหิวเร็วขึ้น
ทดสอบง่ายๆ หาแทงค์น้ำใหญ่ๆ แบบตู้ปลาก็ได้ เอาน้ำอัดลมมา 2 กระป๋อง กระป๋องหนึ่งเป็นชูการ์ฟรีหรือน้ำตาลเทียม อีกกระป๋องเป็นน้ำตาลแท้ ใส่ตุ๋มลงไปในน้ำ ดูซิว่ากระป๋องไหนจมกระป๋องไหนลอย
ผลก็คือ น้ำตาลแท้จะจม ทำไมอยากให้ทำการทดลองนี้ เพราะมันเห็นภาพชัด
ในกระป๋องที่เป็นน้ำตาลแท้จะใส่น้ำตาลประมาณ 6 ก้อน มันถึงหนักกว่าไงครับ มันถึงจม ขณะที่น้ำตาลเทียมหยดไปแค่หยดเดียวแต่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลแท้เป็นร้อยเท่า นี่แหล่ะข้อเสียของน้ำตาลเทียมที่ใช้นิดเดียวก็หวานปิ๊งแล้ว มันเลยทำให้เราติดหวาน”
จากข้อมูลทางโภชนาการและสุขภาพของสสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ) ชี้ให้เห็นว่า การบริโภคน้ำตาลที่มากเกินควรนอกจากนำมาซึ่งปัญหาโรคอ้วนและโรคฟันผุแล้ว ยังมีอันตรายต่อสุขภาพหลายประการ โดยน้ำตาลซูโครส (sucrose) หรือ ฟรุกโตส (fructose) จะทำให้ระดับไขมันกลูโคส (glucose) อินซูลิน (insulin) และกรดยูริก (uric acid) ในเลือดสูงขึ้น เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดและโรคเบาหวาน
คนที่ชอบกินหวานจัดบ่อยๆ จะทำให้ระบบความสมดุลของแร่ธาตุในร่างกายเสียไป ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันโรคในร่างกายลดต่ำลง ผลที่ตามมาก็คือทำให้ติดเชื้อง่าย
มิหนำซ้ำ การเผาผลาญน้ำตาลในร่างกายบ่อยๆ ยังเป็นตัวเร่งให้เกิดอนุมูลอิสระ เมื่อบริโภคเป็นเวลานานจะก่อให้ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) ในเลือดสูงอีกทั้งการรับประทานน้ำตาลซูโครสมาก ทำให้กรดอะมิโน (amino acid) ที่มีชื่อว่า ทริปโตฟาน (tritophan) ถูกเร่งเข้าสู่สมองมากเกินไปทำให้เสียสมดุลของฮอร์โมนในสมอง
ผลที่ตามมาก็คือ ทำให้เกิดอาการเซื่องซึม เหนื่อย ไม่กระฉับกระเฉง
“ผมแนะนำน้ำตาลเทียมธรรมชาติคือ หญ้าหวาน หรือไม่ก็ชะเอม ดีกว่าครับ”
# ท่านผู้อ่านสามารถฝากคำถามสารพันปัญหาคาใจหญิงเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ ความงาม และแน่นอน เรื่องเซ็กซ์กับความสัมพันธ์ มาได้ที่ lady@astvmanager.com เราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญมาเคลียร์ให้หายคลางแคลงใจเลยค่ะ *_*
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
