ผึ้ง-มธุนาฏ ซอโสตถิกุล สาวน้อยวัน 24 ปี เป็นทายาทรุ่นใหม่ของตระกูล "ซอโสตถิกุล" เจ้าของอาณาจักรใหญ่ ทั้ง ผลิตรองเท้านันยาง ผงชูรสตราชฎา ธุรกิจรับสร้างบ้าน ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนสแควร์ และ โรงแรม 5 ดาวที่ภูเก็ต
แต่สาวร่างเล็ก บุคลิกคล่องแคล่วและช่างพูดคนนี้ ก็ตั้งเป้าที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองรัก คือถ่ายทอดภาพเขียนสีน้ำจากแผ่นกระดาษลงบนผืนผ้า ภายใต้ชื่อแบรนด์ Matunart แทนที่จะเข้ามาบริหารงานสืบทอดธุรกิจตามความต้องการของบรรพบุรุษ
ผึ้งเป็นหลานสาวคนเดียวของ คุณปู่กอบชัยและคุณย่าสุกันยา ผู้บุกเบิกห้างสรรพสินค้าระดับตำนานอย่าง ซีคอนสแควร์ เธอบอกว่า ชอบงานศิลปะมากกว่าการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่คุณปู่อยากให้รู้เรื่องบริหารบ้าง ดังนั้น หลังจบเกียรตินิยมอันดับ 2 International Program in Design and Architecture สถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงต้องไปฝึกงานที่ซีคอนสแควร์ เพื่อเรียนรู้หลักการบริหาร ก่อนถูกส่งไปเรียนปริญญาโทด้าน Management ที่ Boston college
ไม่น่าแปลกใจที่เธอจะกลายเป็นขวัญใจของคุณปู่กับคุณย่า เพราะไม่ว่าผู้ใหญ่ทั้งสองจะสอนอะไร ผึ้งจะทำทุกอย่างให้ท่านมีความสุข ผึ้งบอกว่า คุณปู่คุณย่าเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก กิจกรรมที่ทำร่วมกันตลอดคือ ร้องเพลง เต้นรำ และเรียนเขียนภาพ โดยช่วงมัธยมคุณย่าจะให้ครูมาสอนที่บ้าน เรียนกันสองคน คุณย่าจะชอบเขียนภาพดอกไม้ ส่วนผึ้งชอบงานแบบลายเส้น พอเรียนสถาปัตย์แม้จะห่างๆไป แต่ถ้าว่างก็จะนั่งวาดภาพกันสองคนเกือบทุกอาทิตย์
อย่างไรก็ตาม หลังคุณย่าสุกันยาเสียชีวิต ผึ้งยอมรับว่า เป็นช่วงที่รู้สึกแย่มากๆ เหมือนโลกทลาย กิจกรรมที่เคยทำร่วมกับคุณย่า ไม่ว่าจะไปออกงาน หรือเรียนเขียนภาพ ไม่มีแล้ว เธอจะใช้เวลานั่งเขียนภาพ แม้จะรู้สึกเหงาแต่ยังมีคุณปู่ที่ต้องดูแล ผึ้งตั้งสติและวางแผนทำในสิ่งที่คิดว่าชอบ จึงเรียนศิลปะเพิ่มเติมที่ โรงเรียนครูโต ร้านจิราธร
ทุกวันนี้พอคุณปู่กอบชัยไปทำงาน เธอจะใช้เวลานั่งเขียนภาพและรวบรวมภาพวาดสีน้ำมานั่งดู และเกิดความคิดอยากทำผ้าพันคอขาย “ผึ้งชอบผ้าพันคออยู่แล้ว พอเห็นภาพเก่าๆกับที่ได้ไปเรียนเพิ่มเติมมาก็รู้สึกอยากลองทำดู เลยปรึกษาคุณปู่ ซึ่งท่านก็สนับสนุนแนะนำ ผึ้งเลยใช้ชื่อตัวเองเป็นชื่อแบรนด์ จะออกขายผ่านอินเตอร์เน็ตเดือนหน้า”
สำหรับคาแรกเตอร์แบรนด์ จะใช้ภาพผู้หญิงตลอดทุกคอลเลกชัน เพราะต้องการให้ผู้ใช้รู้ว่านี้คือ แบรนด์ Matunart “ลายผู้หญิงที่ออกแบบนำมาพิมพ์ลงผ้า ผึ้งต้องการสะท้อนตัวตนของผึ้ง แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ เป็นตัวของตัวเอง กล้าคิดกล้าทำ ไม่กร้าวร้าว หวานซ่อนเปรี้ยว ส่วนสีจะให้น้ำหนักตามคอลเลกชัน แต่เน้นความสดใส ผืนแรกตั้งใจให้เป็นสีเหลือง เพราะเป็นสีโปรดของคุณย่า”
จุดเด่นของ “Matunart” อยู่ที่การทำด้วยใจ ใส่ความรักลงไปในทุกขั้นตอนการทำงาน เธอทำด้วยความตั้งใจ เริ่มจากการนำภาพวาดสีน้ำที่เก็บไว้ มาสแกนใส่คอมพิวเตอร์ จากนั้นนำมาจัดลาย วางให้เกิดองค์ประกอบ วาดดอกไม้เพิ่มให้ผ้ามีลูกเล่น มีรายละเอียดเพิ่มเข้าไป จากนั้นส่งไปโรงงานพิมพ์ผ้าที่สมุทรสาคร เทสต์สี การพิมพ์ใช้เทคนิคพิเศษพิมพ์ทะลุ สามารถใช้ได้ทั้งสองด้าน
ส่วนผ้าซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก จะไปเลือกซื้อด้วยตัวเอง โดยเดินดูทุกร้านที่คิดว่าคุณภาพดี เพื่อให้ได้ผ้าที่ถูกใจ คือ “ชีฟองซีล” ที่เลือกใช้ผ้าตัวนี้เพราะเป็นผ้าที่นิ่มลื่น เวลาพันจะสบาย ความพลิ้วในตัวของมัน ที่ต้องไปคุมเองเพราะอยากให้ทุกอย่างออกมาตามที่คิด
ผึ้งยังบอกว่าเสน่ห์ของ “Matunart” คือ ศิลปะที่ปรากฏบนผืนผ้า ลวดลายและสีสันของมันไม่ใช่แค่แฟชั่น แต่มันคือศิลปะที่ถ่ายทอดออกมาจากใจ
“บางคนวาดภาพแล้วเอามาใส่กรอบแขวนบนฝาผนัง ผึ้งว่ามันคือภาพที่ถูกแขวนบนผนัง เอาไปไหนมาไหนด้วยไม่ได้ แต่ของผึ้งมันสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เราจะเอาติดตัวไปได้ด้วยทุกที่”
ภายใต้รอยยิ้มและสายตาที่สดใสซุกซนของ ผึ้ง-มธุนาฎ ยังกล่าวถึงเรื่องการทำธุรกิจครอบครัวว่า เป็นเรื่องอนาคตอีกไกล สำหรับในตอนนี้ขอทำในสิ่งที่รักก่อน “ผึ้งยังบอกคุณปู่เลยว่า หากทำแล้วไม่สำเร็จผึ้งจะออกมาทำในเรื่องของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เพื่อช่วยคุณปู่กอบชัยอีกหนึ่งแรง”
การเติบโตภายใต้การเลี้ยงดูที่อบอุ่น มีแบบแผนหล่อหลอมให้ “ผึ้ง” มีครบตามแบบฉบับของผู้หญิงสมัยใหม่ คือ สวย เก่ง และมั่นใจในตัวเอง
