ใครอยากมีทรงผมให้แจ้งเกิดได้ประหนึ่งนางแบบบนรันเวย์ พี แอนด์ จี บิวตี้ แอนด์ กรูมมิ่ง ผู้นำด้านความงามชั้นนำระดับโลก เผยเทรนด์ผมใหม่ล่าสุดประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2012 ที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าตั้งตาคอยเป็นครั้งแรก ใน “The Beauty Debate 2012”
ในซีซั่นนี้ แซม แมคไนท์ (Sam McKnight) แพนทีน โปร-วี โกลบอล แอมบาสเดอร์ ยูจีน โซไลมาน (Eugene Souleiman) เวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ โกลบอล ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ แคร์ แอนด์ สไตลิ่ง และ จอช วูด (Josh Wood) เวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ โกลบอล ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ คัลเลอร์ สามสุดยอดแฮร์สไตลิสท์ที่สร้างกระแสความร้อนแรงให้กับโลกแห่งแฟชั่นจนต้องตะลึง
เทรนด์ฤดูร้อนที่เหล่าดีไซเนอร์ประโคมใส่รันเวย์เป็นจุดเริ่มต้นให้ พี แอนด์ จี บิวตี้ แอนด์ กรูมมิ่ง แอมบาสเดอร์ (P&G Beauty and Grooming ambassadors) นำมาปรับ ประยุกต์ และตีความเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบทรงผมที่รับได้กับทุกเทรนด์ กลายมาเป็น พี แอนด์ จี คัลเลอร์ แอนด์ แฟชั่น ฟอร์แคสท์ (P&G Color and Fashion Forecast ) เทรนด์ความงามที่ได้คาดการณ์ไว้ 24 เดือนก่อนหน้า
อาทิ ลุคที่บ่งบอกถึงความไร้เดียงสาและโรแมนติก ดั่งสาวน้อยสุดหวาน ของเทรนด์ วิซิเบิล ออร่า (Visible Aura) ลุคสาวมั่นมาดโก้แบบเทรนด์ แทงโก้ (Tango) ลุคที่เน้นความหรูหราแต่ดูเรียบและเบาขึ้น เหมือนกับเทรนด์ แซนด์ ดูนส์ (Sand Dunes) ต่างจากลุคแห่งสีสันสาวเมืองใหญ่ ของเทรนด์ บิวตี้ กราฟฟิตี้ (Beauty Graffiti) ซึ่งบรรดาดีไซเนอร์ชั้นนำต่างกล่าวถึงเทรนด์ของพี แอนด์ จี ที่ปรากฏไปทั่วทุกแฟชั่นโชว์
เทรนด์จากแพนทีน โปร-วี
แซม แมคไนท์ (Sam McKnight) แพนทีน โปร-วี โกลบอล แอมบาสเดอร์ หนึ่งในแฮร์สไตล์ลิสต์สุดฮอตชื่อเสียงระดับโลกที่ผลงานยังสร้างคำจำกัดความและผลักดันแฟชั่นสไตล์ผมอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยซีซั่นนี้ แซม แสดงฝีมือของเขาบนรันเวย์ บลูมารีน (Blumarine) แจ็คเกอร์ (Jaeger) กับ วิเวียน เวสต์วูด (Vivienne Westwood)
เทรนด์ที่ 1 ลิควิด สคัลป์เจอร์ (Liquid Sculpture)
“ทรงผมแบบ เว็ทลุค ลุดผมหมาด จะมาแรงในซีซั่นนี้” แซมกล่าว “ซัมเมอร์นี้ อารมณ์ถูกปรับให้แกร่งขึ้น โดยส่วนทรงผมเปียกนั้นถูกใช้ในคอลเล็คชั่นฤดูร้อนอยู่แล้ว แต่ว่าครั้งนี้จะไม่ใช่ลุคจัดแต่งหยาบๆ แต่เป็นเว็ทลุคสุดเนี้ยบ ที่เน้นการรวบตึงให้แน่นขึ้น ดูเฉี่ยวกว่าเดิม” แซมเสริม ซึ่งลุคนี้สอดคล้องกับเทรนด์ แทงโก้ ที่เน้นแนวคิดมาดมั่นและเร้าใจ
เทรนด์ที่ 2 โพเอทิค อินโนเซนส์ (Poetic Innocence)
“ทรงผมจะให้ความรู้สึกเบา โปร่ง โรแมนติค และดูมีออร่าจากภายใน” แซมกล่าว “เหล่านางแบบดูราวกับภูติที่บริสุทธ์ ไร้เดียงสางดั่งเด็กน้อย” แซมอธิบายเพิ่มถึงหนึ่งในลุคที่น่าตื่นตาตื่นใจจากเทรนด์ วิซิเบิล ออร่า เช่นเดียวกับม่านผมบางที่คลุมหน้านางแบบในโชว์ของ วิเวียน เวสท์วูด โกลด์ เลเบล (Vivienne Westwood Gold Label) ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของลุคนี้
สำหรับคอลเล็คชั่นจาก แมรี่ คาทรันท์โซ (Marry Katrantzou) ที่รังสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด ธรรมชาติ ปะทะ ธรรมชาติ (Nature vs Nature) แซมคิดแบบผมที่ดูพลิ้วไหวดั่งผมของสาวแรกรุ่นเข้ากับโชว์ที่เต็มไปด้วยลายพิมพ์ดอกไม้กับใต้ทะเลสีสันสดใส ด้วยการผมรวบหางม้ามัดต่ำ กับปล่อยผมครอบใบหน้าตามแนวไรผม ที่สะบัดปลิวเมื่อนางแบบเดินให้ดูเหมือนรัศมีเปล่งประกาย
เทรนด์ที่ 3 ชิค โมเดิร์นนิสม์ (Chic Modernism)
“ความงามแบบร่วมสมัยคือหัวใจสำคัญของเทรนด์” แซมบอก “ทรงผมที่ดูดีมีราคาแต่ต้องไม่ตกแต่งจนเกินเลย นี่เป็นวิธีการใหม่ที่ง่ายและทันสมัย” อารมณ์ของลุคนี้เข้ากับเทรนด์ แซนด์ ดูนส์ ที่ผสานความหรูหราอย่างเป็นธรรมชาติ เอาไว้ในลุคเรียบๆ ทันสมัย
ที่โชว์ของ แจ็คเกอร์ (Jaeger) สามารถเห็นเทรนด์ได้ชัด จากผมมัดหางม้าที่ดูหรู และเงางาม โดยแบ่งผมต่ำแล้วปัดตามแนวยาวไปข้างหนึ่ง จัดแต่งให้ดูเป็นคลื่นมันวาวบนไหล่เดียว ทำให้ดูภูมิฐานแต่ทันสมัย ส่วนของบลูมารีน (Blumarine) แซมคิดแบบผมโดยเป็นทรงผมหางม้า มัดต่ำช่วงท้ายทอยแล้วปล่อยลงจากผมแสกกลางธรรมชาติ เพิ่มน้ำหนักให้ช่วงบน ทำให้ดูสบายและไม่เนี้ยบเกินไป
สำหรับแคทวอล์กของ มอสกิโน ชีป แอนด์ ชิค (Moschino Cheap and Chic) แซมนำผมที่เพิ่งสระและบำรุงมามัดหางม้าแล้วรวบเป็นห่วงหลวมๆ จากนั้นเพิ่มอารมณ์ขันด้วยการผูกด้วยริ้บบิ้นหรือฟาง
เทรนด์ที่ 4 โมเดิร์น นอสทัลเจีย (Modern Nostalgia)
สไตล์เรโทรในฤดูกาลนี้เน้นไปที่ช่วงกลางของศตวรรษที่ผ่านมา ทั้งยุค 50, 60 และ 70 แต่นำกลับมาใช้ในแบบร่วมสมัยและมีรายละเอียดสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้สีและผิวสัมผัสแบบยุ่งเหยิง ซึ่งสามารถเข้าได้กับเทรนด์ บิวตี้ กราฟฟิตี้ อย่างโชว์ของ ดีสแควร์2 (DSquared2) ที่ทำให้ดูร่วมสมัย โดยจะปล่อยผมแสกกลาง สร้างเท็กซ์เจอร์ตลอดความยาวของผมแล้วจุ่มสีชมพูกับฟ้าลงไปเป็นหย่อมๆ
เทรนด์จากเวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์
ยูจีน โซไลมาน(Eugene Souleiman) เวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ โกลบอล ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ แคร์ แอนด์ สไตลิ่ง คือช่างทำผมสุดล้ำยุคผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ในการจัดแต่งทรงผมอย่างแท้จริง ทรงผมของเขาได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะและวัฒนธรรมซึ่งเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงและความเพ้อฝัน เต็มไปด้วยไอเดียแปลกใหม่ ในกว่า 20โชว์ของเขาจากนิวยอร์กถึงมิลาน ตลอดซีซั่นนี้
เทรนด์เบลซ: อิสตรีแห่งเสน่ห์ที่เย้ายวน (Blaze- The Famme Fatale)
"ลุคนี้ให้ความสำคัญกับความแข็งแรงและการเล่นกับรูปทรงและพื้นผิวของผมเพื่อสร้างทรงที่ดูเหมือนปฏิมากรรม” ยูจีนกล่าวเมื่อบรรยายถึงบุคลิกอันชัดเจนของผมแห่งอิสตรีแห่งเสน่ห์ที่เย้ายวนจากเทรนด์ เบลซ ที่แตกหน่อออกมาจากเทรนด์ แทงโก้ "มันเป็นสไตล์ตรงกับข้ามกับลุคสบายๆ" ยูจีนอธิบาย
แรงบันดาลใจของลุคในโชว์ของ มิสโซนี (Mossoni) มาจากย่านสแปนิช ฮาร์เล็มในนครนิวยอร์ค โดยสะท้อนผ่านเด็กสาวบุคลิกร่าเริงมีชีวิตชีวาสไตล์นักเต้นฟลาเมงโก้ที่เกล้าผมเป็นมวยกลมไว้ด้านข้างอย่างหลวมๆ แลดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย
ส่วน อันโตนิโอ มาราส (Antonio Marras) ยูจีนได้รวบผมตึงและเพิ่มความเงางามเปล่งประกายให้แก่เส้นผม ก่อนสร้างสรรค์เกลียวผมให้กลายเป็นเทียร่าเก๋ๆ บนศีรษะ เข้ากับธีมของแฟชั่นโชว์ผ่านเรื่องราวของสาวใช้ที่กำลังแอบสวมชุดของนายหญิง แสดงถึงความซุกซนและสนุกสนานของเบลซได้เป็นอย่างดี
ทางด้านของ อิสเซ่ มิยาเกะ (Issey Miyake) แตกต่างด้วยการนำเสนอการเปลี่ยนแปลงรูปทรงของศีรษะเพื่อสร้างรูปลักษณ์ใหม่อย่างสุดขั้ว ซึ่งยูจีนได้ออกแบบทรงผมพร้อมคอลเลคชั่นเครื่องประดับศีรษะรูปกลีบดอกไม้สุดชิค “ธีมของโชว์นี้คือ ‘พฤกษชาติและประติมากร Brancusi’ เราจึงออกแบบทรงผมให้มีรูปทรงเหมือนดอกทิวลิปกำลังผลิบาน” ยูจีนยังเติมแต่งลุคนี้ในสวยตะลึงด้วยสเปรย์ไล่ระดับแถบสีเลียนแบบสีธรรมชาติของกลีบดอกทิวลิปอีกด้วย
ในลุคของ ไฮเดอร์ แอ็คเคอร์แมน (Haider Ackemann) ยูจีนได้สร้างสรรค์ลุคแบบผู้ชาย การทำให้ผมดูสั้นคือหัวใจหลักของลุคนี้ดังนั้นยูจีนจึงได้รีดผมจนแบนราบแล้วตลบมาเก็บไว้ด้านหลังศีรษะและทำให้เป็นมันเงางาม โดยเหลือผมยาวเพียงส่วนหนึ่งที่ด้านหน้าแล้วลงแป้งและน้ำมันเพื่อเพิ่มรายละเอียดของพื้นผิว
เทรนด์เกรซ (Grace): เทพธิดาแห่งโลกยุคใหม่ (The modern muse)
"ความสง่างามคือทิศทางใหม่สำหรับผมยาวซึ่งขึ้นอยู่กับสุขภาพของเส้นผมมากพอๆ กับสไตล์ ลุคนี้เป็นลุคที่หรูหรามากๆ ทว่าดูเหมือนไม่ต้องใช้ความพยายามเลย" ยูจีนอธิบายแนวคิดเบื้องหลังคอนเซ็ปต์เทพธิดาแห่งโลกยุคใหม่ (The modern muse) ในเทรนด์ เกรซ ที่แตกแขนงออกมาจากเทรนด์ แซนด์ ดูนส์ “ลุคนี้ไม่ใช่เพียงแค่สระผมและปล่อยให้แห้ง หากต้องอาศัยการดูแล การใช้ผลิตภัณฑ์ และการจัดแต่งทรงเป็นพื้นฐานสำคัญ”
ตัวอย่างของลุคนี้คือ ดีเคเอ็นวาย (DKNY) ซึ่งยูจีนเรียกสไตล์ผมยาวและลอนผมอันยุ่งเหยิงนี้ว่า “ทรงผมแห่งนครนิวยอร์ก” ที่ดูสดใหม่ มีเท็กเจอร์ที่เงางาม พร้อมหมวกปีกกว้างสุดเก๋ นอกจากนี้ยูจีนยังได้ใส่ลูกเล่นเพิ่มสีสันให้กับเส้นผมเพื่อสร้างเท็กซ์เจอร์และความน่าสนใจด้วยการเปลี่ยนสีผมด้านนอกให้สว่างขึ้น ตัดกับสีผมด้านในที่คมเข้ม เหมือนเพิ่งไปออกแดดกลางฤดูร้อน ดูหรูหรา สดใส เหมาะกับคอนเซปต์สาวแฮมป์ตันส์สุดชิค
โชว์ 'บาร์บี้โกคันทรี่' (Barbie Goes Country) ของดีไซเนอร์ เจเรมี่ สก็อตต์ (Jeremy Scott) สะท้อนความเป็นเกรซได้เป็นอย่างดี ด้วยการยีเส้นผมให้ดูมีวอลุ่มและเพิ่มเท็กซ์เจอร์ด้านบนศีรษะ ปลายผมที่เหลือดัดเป็นลอนแล้วรัดเป็นผมแกละสองข้าง “ลุคนี้จะดูสนุกสนาน อ่อนเยาว์” ยูจีนกล่าว
เทรนด์สีผมจากแคทวอล์ก โดยเวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์
จอช วูด (Josh Wood) เวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ โกลบอล ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ คัลเลอร์ ได้รังสรรค์สีสันบนเรือนผมประจำฤดูกาล ในเทรนด์ เบลซ ที่ช่วยเสริมพลังให้กับเทรนด์และแฟชั่นให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น “สีผมในเทรนด์เบลซเหมาะกับผู้หญิงแกร่งและยึดมั่น” ถ่ายทอดด้วยการสร้างสรรค์ผลงานแบบสากลและการลงสีให้ถูกจุด “แนวคิดของสีดำ เทา และชมพูฟูเซีย ช่วยทำให้ลุคนี้ดูแกร่งมาก” เขากล่าวเสริม
นอกจากนี้จอชยังได้ให้นิยามถึงเทรนด์ เกรซ ว่าเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของความหรูหราด้านแฟชั่นสีผม “การทำสีผมในอดีตนิยมทำเพียงหนึ่งสีเพื่อให้ดูโก้หรู อิ่มสวย รู้สึกถึงพลังอันยอดเยี่ยม แต่ในปัจจุบันคุณต้องเพิ่มสีสันที่หลากหลายยิ่งขึ้น” จอชอธิบายอารมณ์ของสีสันใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเบื้องหลังเวทีแฟชั่นโชว์ “ทีมครีเอทีฟพูดคุยถึง ความกระจ่างใสแบบออร่า เปล่งประกายจากภายใน ส่องสว่างดั่งเทพธิดา ซึ่งคำพรรณนาเหล่านี้กลายมาเป็นนิยามใหม่ของผู้หญิงในจินตนาการ” ควบคู่กับการนำเสนอสีผมในพาร์เล็ตสีที่อ่อนโยนและสว่างไสว “ถั่วพิสตาชิโอ พริมโรส พีช แพงพวย ไอศกรีมและเจลาโต้ อาจเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องลิ้มลองในซีซั่นนี้ แน่นอนว่าสีสันของสิ่งต่างๆ ที่กล่าวไปจะปรากฏบนเส้นผมเช่นเดียวกัน” จอชกล่าว
ในซีซั่นนี้ แซม แมคไนท์ (Sam McKnight) แพนทีน โปร-วี โกลบอล แอมบาสเดอร์ ยูจีน โซไลมาน (Eugene Souleiman) เวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ โกลบอล ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ แคร์ แอนด์ สไตลิ่ง และ จอช วูด (Josh Wood) เวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ โกลบอล ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ คัลเลอร์ สามสุดยอดแฮร์สไตลิสท์ที่สร้างกระแสความร้อนแรงให้กับโลกแห่งแฟชั่นจนต้องตะลึง
เทรนด์ฤดูร้อนที่เหล่าดีไซเนอร์ประโคมใส่รันเวย์เป็นจุดเริ่มต้นให้ พี แอนด์ จี บิวตี้ แอนด์ กรูมมิ่ง แอมบาสเดอร์ (P&G Beauty and Grooming ambassadors) นำมาปรับ ประยุกต์ และตีความเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบทรงผมที่รับได้กับทุกเทรนด์ กลายมาเป็น พี แอนด์ จี คัลเลอร์ แอนด์ แฟชั่น ฟอร์แคสท์ (P&G Color and Fashion Forecast ) เทรนด์ความงามที่ได้คาดการณ์ไว้ 24 เดือนก่อนหน้า
อาทิ ลุคที่บ่งบอกถึงความไร้เดียงสาและโรแมนติก ดั่งสาวน้อยสุดหวาน ของเทรนด์ วิซิเบิล ออร่า (Visible Aura) ลุคสาวมั่นมาดโก้แบบเทรนด์ แทงโก้ (Tango) ลุคที่เน้นความหรูหราแต่ดูเรียบและเบาขึ้น เหมือนกับเทรนด์ แซนด์ ดูนส์ (Sand Dunes) ต่างจากลุคแห่งสีสันสาวเมืองใหญ่ ของเทรนด์ บิวตี้ กราฟฟิตี้ (Beauty Graffiti) ซึ่งบรรดาดีไซเนอร์ชั้นนำต่างกล่าวถึงเทรนด์ของพี แอนด์ จี ที่ปรากฏไปทั่วทุกแฟชั่นโชว์
เทรนด์จากแพนทีน โปร-วี
แซม แมคไนท์ (Sam McKnight) แพนทีน โปร-วี โกลบอล แอมบาสเดอร์ หนึ่งในแฮร์สไตล์ลิสต์สุดฮอตชื่อเสียงระดับโลกที่ผลงานยังสร้างคำจำกัดความและผลักดันแฟชั่นสไตล์ผมอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยซีซั่นนี้ แซม แสดงฝีมือของเขาบนรันเวย์ บลูมารีน (Blumarine) แจ็คเกอร์ (Jaeger) กับ วิเวียน เวสต์วูด (Vivienne Westwood)
เทรนด์ที่ 1 ลิควิด สคัลป์เจอร์ (Liquid Sculpture)
“ทรงผมแบบ เว็ทลุค ลุดผมหมาด จะมาแรงในซีซั่นนี้” แซมกล่าว “ซัมเมอร์นี้ อารมณ์ถูกปรับให้แกร่งขึ้น โดยส่วนทรงผมเปียกนั้นถูกใช้ในคอลเล็คชั่นฤดูร้อนอยู่แล้ว แต่ว่าครั้งนี้จะไม่ใช่ลุคจัดแต่งหยาบๆ แต่เป็นเว็ทลุคสุดเนี้ยบ ที่เน้นการรวบตึงให้แน่นขึ้น ดูเฉี่ยวกว่าเดิม” แซมเสริม ซึ่งลุคนี้สอดคล้องกับเทรนด์ แทงโก้ ที่เน้นแนวคิดมาดมั่นและเร้าใจ
เทรนด์ที่ 2 โพเอทิค อินโนเซนส์ (Poetic Innocence)
“ทรงผมจะให้ความรู้สึกเบา โปร่ง โรแมนติค และดูมีออร่าจากภายใน” แซมกล่าว “เหล่านางแบบดูราวกับภูติที่บริสุทธ์ ไร้เดียงสางดั่งเด็กน้อย” แซมอธิบายเพิ่มถึงหนึ่งในลุคที่น่าตื่นตาตื่นใจจากเทรนด์ วิซิเบิล ออร่า เช่นเดียวกับม่านผมบางที่คลุมหน้านางแบบในโชว์ของ วิเวียน เวสท์วูด โกลด์ เลเบล (Vivienne Westwood Gold Label) ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของลุคนี้
สำหรับคอลเล็คชั่นจาก แมรี่ คาทรันท์โซ (Marry Katrantzou) ที่รังสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด ธรรมชาติ ปะทะ ธรรมชาติ (Nature vs Nature) แซมคิดแบบผมที่ดูพลิ้วไหวดั่งผมของสาวแรกรุ่นเข้ากับโชว์ที่เต็มไปด้วยลายพิมพ์ดอกไม้กับใต้ทะเลสีสันสดใส ด้วยการผมรวบหางม้ามัดต่ำ กับปล่อยผมครอบใบหน้าตามแนวไรผม ที่สะบัดปลิวเมื่อนางแบบเดินให้ดูเหมือนรัศมีเปล่งประกาย
เทรนด์ที่ 3 ชิค โมเดิร์นนิสม์ (Chic Modernism)
“ความงามแบบร่วมสมัยคือหัวใจสำคัญของเทรนด์” แซมบอก “ทรงผมที่ดูดีมีราคาแต่ต้องไม่ตกแต่งจนเกินเลย นี่เป็นวิธีการใหม่ที่ง่ายและทันสมัย” อารมณ์ของลุคนี้เข้ากับเทรนด์ แซนด์ ดูนส์ ที่ผสานความหรูหราอย่างเป็นธรรมชาติ เอาไว้ในลุคเรียบๆ ทันสมัย
ที่โชว์ของ แจ็คเกอร์ (Jaeger) สามารถเห็นเทรนด์ได้ชัด จากผมมัดหางม้าที่ดูหรู และเงางาม โดยแบ่งผมต่ำแล้วปัดตามแนวยาวไปข้างหนึ่ง จัดแต่งให้ดูเป็นคลื่นมันวาวบนไหล่เดียว ทำให้ดูภูมิฐานแต่ทันสมัย ส่วนของบลูมารีน (Blumarine) แซมคิดแบบผมโดยเป็นทรงผมหางม้า มัดต่ำช่วงท้ายทอยแล้วปล่อยลงจากผมแสกกลางธรรมชาติ เพิ่มน้ำหนักให้ช่วงบน ทำให้ดูสบายและไม่เนี้ยบเกินไป
สำหรับแคทวอล์กของ มอสกิโน ชีป แอนด์ ชิค (Moschino Cheap and Chic) แซมนำผมที่เพิ่งสระและบำรุงมามัดหางม้าแล้วรวบเป็นห่วงหลวมๆ จากนั้นเพิ่มอารมณ์ขันด้วยการผูกด้วยริ้บบิ้นหรือฟาง
เทรนด์ที่ 4 โมเดิร์น นอสทัลเจีย (Modern Nostalgia)
สไตล์เรโทรในฤดูกาลนี้เน้นไปที่ช่วงกลางของศตวรรษที่ผ่านมา ทั้งยุค 50, 60 และ 70 แต่นำกลับมาใช้ในแบบร่วมสมัยและมีรายละเอียดสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้สีและผิวสัมผัสแบบยุ่งเหยิง ซึ่งสามารถเข้าได้กับเทรนด์ บิวตี้ กราฟฟิตี้ อย่างโชว์ของ ดีสแควร์2 (DSquared2) ที่ทำให้ดูร่วมสมัย โดยจะปล่อยผมแสกกลาง สร้างเท็กซ์เจอร์ตลอดความยาวของผมแล้วจุ่มสีชมพูกับฟ้าลงไปเป็นหย่อมๆ
เทรนด์จากเวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์
ยูจีน โซไลมาน(Eugene Souleiman) เวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ โกลบอล ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ แคร์ แอนด์ สไตลิ่ง คือช่างทำผมสุดล้ำยุคผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ในการจัดแต่งทรงผมอย่างแท้จริง ทรงผมของเขาได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะและวัฒนธรรมซึ่งเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงและความเพ้อฝัน เต็มไปด้วยไอเดียแปลกใหม่ ในกว่า 20โชว์ของเขาจากนิวยอร์กถึงมิลาน ตลอดซีซั่นนี้
เทรนด์เบลซ: อิสตรีแห่งเสน่ห์ที่เย้ายวน (Blaze- The Famme Fatale)
"ลุคนี้ให้ความสำคัญกับความแข็งแรงและการเล่นกับรูปทรงและพื้นผิวของผมเพื่อสร้างทรงที่ดูเหมือนปฏิมากรรม” ยูจีนกล่าวเมื่อบรรยายถึงบุคลิกอันชัดเจนของผมแห่งอิสตรีแห่งเสน่ห์ที่เย้ายวนจากเทรนด์ เบลซ ที่แตกหน่อออกมาจากเทรนด์ แทงโก้ "มันเป็นสไตล์ตรงกับข้ามกับลุคสบายๆ" ยูจีนอธิบาย
แรงบันดาลใจของลุคในโชว์ของ มิสโซนี (Mossoni) มาจากย่านสแปนิช ฮาร์เล็มในนครนิวยอร์ค โดยสะท้อนผ่านเด็กสาวบุคลิกร่าเริงมีชีวิตชีวาสไตล์นักเต้นฟลาเมงโก้ที่เกล้าผมเป็นมวยกลมไว้ด้านข้างอย่างหลวมๆ แลดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย
ส่วน อันโตนิโอ มาราส (Antonio Marras) ยูจีนได้รวบผมตึงและเพิ่มความเงางามเปล่งประกายให้แก่เส้นผม ก่อนสร้างสรรค์เกลียวผมให้กลายเป็นเทียร่าเก๋ๆ บนศีรษะ เข้ากับธีมของแฟชั่นโชว์ผ่านเรื่องราวของสาวใช้ที่กำลังแอบสวมชุดของนายหญิง แสดงถึงความซุกซนและสนุกสนานของเบลซได้เป็นอย่างดี
ทางด้านของ อิสเซ่ มิยาเกะ (Issey Miyake) แตกต่างด้วยการนำเสนอการเปลี่ยนแปลงรูปทรงของศีรษะเพื่อสร้างรูปลักษณ์ใหม่อย่างสุดขั้ว ซึ่งยูจีนได้ออกแบบทรงผมพร้อมคอลเลคชั่นเครื่องประดับศีรษะรูปกลีบดอกไม้สุดชิค “ธีมของโชว์นี้คือ ‘พฤกษชาติและประติมากร Brancusi’ เราจึงออกแบบทรงผมให้มีรูปทรงเหมือนดอกทิวลิปกำลังผลิบาน” ยูจีนยังเติมแต่งลุคนี้ในสวยตะลึงด้วยสเปรย์ไล่ระดับแถบสีเลียนแบบสีธรรมชาติของกลีบดอกทิวลิปอีกด้วย
ในลุคของ ไฮเดอร์ แอ็คเคอร์แมน (Haider Ackemann) ยูจีนได้สร้างสรรค์ลุคแบบผู้ชาย การทำให้ผมดูสั้นคือหัวใจหลักของลุคนี้ดังนั้นยูจีนจึงได้รีดผมจนแบนราบแล้วตลบมาเก็บไว้ด้านหลังศีรษะและทำให้เป็นมันเงางาม โดยเหลือผมยาวเพียงส่วนหนึ่งที่ด้านหน้าแล้วลงแป้งและน้ำมันเพื่อเพิ่มรายละเอียดของพื้นผิว
เทรนด์เกรซ (Grace): เทพธิดาแห่งโลกยุคใหม่ (The modern muse)
"ความสง่างามคือทิศทางใหม่สำหรับผมยาวซึ่งขึ้นอยู่กับสุขภาพของเส้นผมมากพอๆ กับสไตล์ ลุคนี้เป็นลุคที่หรูหรามากๆ ทว่าดูเหมือนไม่ต้องใช้ความพยายามเลย" ยูจีนอธิบายแนวคิดเบื้องหลังคอนเซ็ปต์เทพธิดาแห่งโลกยุคใหม่ (The modern muse) ในเทรนด์ เกรซ ที่แตกแขนงออกมาจากเทรนด์ แซนด์ ดูนส์ “ลุคนี้ไม่ใช่เพียงแค่สระผมและปล่อยให้แห้ง หากต้องอาศัยการดูแล การใช้ผลิตภัณฑ์ และการจัดแต่งทรงเป็นพื้นฐานสำคัญ”
ตัวอย่างของลุคนี้คือ ดีเคเอ็นวาย (DKNY) ซึ่งยูจีนเรียกสไตล์ผมยาวและลอนผมอันยุ่งเหยิงนี้ว่า “ทรงผมแห่งนครนิวยอร์ก” ที่ดูสดใหม่ มีเท็กเจอร์ที่เงางาม พร้อมหมวกปีกกว้างสุดเก๋ นอกจากนี้ยูจีนยังได้ใส่ลูกเล่นเพิ่มสีสันให้กับเส้นผมเพื่อสร้างเท็กซ์เจอร์และความน่าสนใจด้วยการเปลี่ยนสีผมด้านนอกให้สว่างขึ้น ตัดกับสีผมด้านในที่คมเข้ม เหมือนเพิ่งไปออกแดดกลางฤดูร้อน ดูหรูหรา สดใส เหมาะกับคอนเซปต์สาวแฮมป์ตันส์สุดชิค
โชว์ 'บาร์บี้โกคันทรี่' (Barbie Goes Country) ของดีไซเนอร์ เจเรมี่ สก็อตต์ (Jeremy Scott) สะท้อนความเป็นเกรซได้เป็นอย่างดี ด้วยการยีเส้นผมให้ดูมีวอลุ่มและเพิ่มเท็กซ์เจอร์ด้านบนศีรษะ ปลายผมที่เหลือดัดเป็นลอนแล้วรัดเป็นผมแกละสองข้าง “ลุคนี้จะดูสนุกสนาน อ่อนเยาว์” ยูจีนกล่าว
เทรนด์สีผมจากแคทวอล์ก โดยเวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์
จอช วูด (Josh Wood) เวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ โกลบอล ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ คัลเลอร์ ได้รังสรรค์สีสันบนเรือนผมประจำฤดูกาล ในเทรนด์ เบลซ ที่ช่วยเสริมพลังให้กับเทรนด์และแฟชั่นให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น “สีผมในเทรนด์เบลซเหมาะกับผู้หญิงแกร่งและยึดมั่น” ถ่ายทอดด้วยการสร้างสรรค์ผลงานแบบสากลและการลงสีให้ถูกจุด “แนวคิดของสีดำ เทา และชมพูฟูเซีย ช่วยทำให้ลุคนี้ดูแกร่งมาก” เขากล่าวเสริม
นอกจากนี้จอชยังได้ให้นิยามถึงเทรนด์ เกรซ ว่าเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของความหรูหราด้านแฟชั่นสีผม “การทำสีผมในอดีตนิยมทำเพียงหนึ่งสีเพื่อให้ดูโก้หรู อิ่มสวย รู้สึกถึงพลังอันยอดเยี่ยม แต่ในปัจจุบันคุณต้องเพิ่มสีสันที่หลากหลายยิ่งขึ้น” จอชอธิบายอารมณ์ของสีสันใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเบื้องหลังเวทีแฟชั่นโชว์ “ทีมครีเอทีฟพูดคุยถึง ความกระจ่างใสแบบออร่า เปล่งประกายจากภายใน ส่องสว่างดั่งเทพธิดา ซึ่งคำพรรณนาเหล่านี้กลายมาเป็นนิยามใหม่ของผู้หญิงในจินตนาการ” ควบคู่กับการนำเสนอสีผมในพาร์เล็ตสีที่อ่อนโยนและสว่างไสว “ถั่วพิสตาชิโอ พริมโรส พีช แพงพวย ไอศกรีมและเจลาโต้ อาจเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องลิ้มลองในซีซั่นนี้ แน่นอนว่าสีสันของสิ่งต่างๆ ที่กล่าวไปจะปรากฏบนเส้นผมเช่นเดียวกัน” จอชกล่าว