By Lady Manager
..รู้สึกไหมคะ ลงทุนซื้อครีมกระปุกแพงๆ ขยันทาเช้าเย็น สองอาทิตย์ก็ไปยิงเลเซอร์ ทำทรีตเมนต์เป็นประจำ กระยังขึ้น ฝ้ายังมา ทั้งนี้เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ของเสียภายในร่างกายก็ถูกสะสมมากขึ้น ต้องบำบัดให้ถึงเซลล์ …ช่วยชะลอวัยคุณผู้หญิงได้
“เมื่อก่อนคนมารักษาสิวฝ้า เอ๊ะ ไม่หายสักที หมอก็ใช้เครื่อง EIS ตรวจสารพิษในร่างกาย และตรวจเลือด เข้าไปแก้ไขข้างใน พอเราแก้ไขข้างในดีแล้ว ทำทรีตเมนต์ (treatment) ต่างๆ ก็ได้ผลขึ้น” พญ.นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ ผู้ก่อตั้งเอเพ็กซ์ โปรฟาวด์ บิวตี้ (Apex Profound Beauty) อธิบายต่อว่า
“คนเราอายุ 20-25 ปี สนใจดูแลผิวก็การบำรุงก่อน แต่พอบำรุงไปสักระยะ จะรู้สึกเหมือนกับว่าการบำรุงไปไม่ถึงตามต้องการ ครั้นขึ้น 30 ปี 40 ปีปั๊บ การขับของเสียออกจากร่างกายลดลง คล้ายๆ ว่ามีการเก็บของเสียในร่างกายมากขึ้น บวกกับไลฟ์สไตล์ของคนเราส่วนใหญ่นอนดึก ระดับฮอร์โมนในคนอายุ 30-35 ปี ก็จะเริ่มนิ่งๆ และค่อยๆ ตกไปด้วย
เพราะฉะนั้นในวัยที่มากขึ้น ถ้าจะเล่นกับความใส ควบคุมความเสื่อมโทรม ต้องลงรายละเอียดมากขึ้น ไม่ใช่แค่ทาครีม หรือนวดผิวธรรมดา”
ด้วยเหตุผลเหล่านึ้จึงเป็นแรงผลักดันให้หมอนันทภัทร์ต้องขยายเปิด เอเพ็กซ์ เซลล์สปา (Apex Cell Spa) โดยมีนันทรา รีทรีต แอนด์ สปา (NANTRA Retreat & Spa) ซึ่งเป็นโรงแรมบูติค ดีไซน์น่านอน จำนวน 40 ห้อง ไว้รองรับหากคนไข้ต้องการที่พักเพื่อปรนนิบัติจิตใจและฟื้นฟูร่างกายอย่างเต็มที่ หรือลูกค้าโรงแรมที่ต้องการบริการเพิ่มเติม wellness พร้อมห้องอาหารเสิร์ฟเมนูสุขภาพ เอาใจสาวๆ ผู้รักสุขภาพและความงามสุดฤทธิ์
“เราดูแลเรื่องผิวเยอะมากแล้ว คิดว่าต้องเพิ่มตัวนี้ด้วย เพื่อพาไปสู่ทางออกที่มั่นคง” หมอนันทภัทร์ กล่าว
ทางออกที่ว่านี้หมายถึง ทำการสปาเซลล์ซะ เพื่อการบำบัดได้ลึกลงไปถึงระดับเซลล์
“ด้วยศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ เราสามารถหยุดยั้งการเสื่อมของเซลล์ และช่วยฟื้นฟูให้เซลล์กลับมามีชีวิตใหม่ หรือเพิ่มจำนวนเซลล์เกิดใหม่ในร่างกายให้มีมากขึ้น เราเรียกวิธีการนี้ว่า Cell Therapy เมื่อเซลล์ใหม่มีมากขึ้น เซลล์เสื่อมสภาพมีน้อยลง เซลล์ที่มีอยู่กลับมามีชีวิตที่แข็งแรงขึ้น สิ่งที่สะท้อนออกมาภายนอกจึงเป็นความสดใส เปล่งปลั่ง แข็งแรง” หมอนันทภัทร์ ชี้ให้เห็นว่า ทำไมสมัยอายุน้อยๆ แม้ไม่ทำอะไรเลยผิวก็ดูดี
“นั่นเพราะมีการเกิดใหม่ของเซลล์ ขึ้นมาทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพไปตลอดเวลา แต่เมื่ออายุมากขึ้นเลข 3 ปลายๆ เข้าเลข 4 การสร้างเซลล์ใหม่ไม่เหมือนเมื่ออายุยังน้อย มีการสร้างเซลล์ใหม่น้อยลง ขณะที่มีเซลล์เสื่อมสภาพมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลอีกว่า ทำไมเมื่ออายุมากขึ้น การทำแต่เลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ต่างๆ จึงไม่ได้ผลดีเหมือนเมื่อตอนอายุน้อยๆ เซลล์ใหม่เกิดขึ้นน้อยลงนั่นเอง"
"วิทยาการในปัจจุบันจึงไม่เพียงให้การดูแลรักษาเฉพาะภายนอก แต่จำเป็นต้องเข้าไปดูแลรักษากันถึงในระดับเซลล์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตทั้งหมด เพื่อให้ผลการรักษายั่งยืน และปรากฏผลออกมาจากภายในอย่างแท้จริง
ยกตัวอย่างเช่น ในการทำเลเซอร์ หรือการยกกระชับ ถ้าต้องการให้ผลการรักษาดียิ่งขึ้น การแพทย์แนวใหม่จึงต้องทำการรักษาด้วยเซลล์บำบัดควบคู่กันไปด้วย”
แนวทางการบำบัดฟื้นฟูเซลล์ ให้กลับมาแข็งแรง คุณภาพดีอีกครั้ง ประกอบด้วยการขับของเสีย หรือขับสารพิษออกจากเซลล์ การเติมสารอาหารที่เซลล์ต้องการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเซลล์ จนถึงการซ่อมเซลล์ เพิ่มเซลล์ใหม่ๆ
หมอนันทภัทร์เล่าให้ฟังว่ามี 4 อวัยวะหลักที่ควรได้รับการบำบัดหรือล้างพิษ
“หนึ่ง-เป็นเรื่องของไต สอง-เสริมการขับพิษของตับ สาม-ผิวหนัง skin detox ขับออกทางเหงื่อ และสี่-เป็น brain detox”
“เมื่อขับของเสียออกแล้ว ถ้าต้องการให้เซลล์ทำงานได้เต็มที่ ก็ต้องใส่สารอาหารเข้าไปให้กับเซลล์ ทั้งวิตามิน แร่ธาตุต่างๆ ที่เซลล์นั้นๆ ต้องการ เพื่อนำไปใช้ในการเสริมสร้างเซลล์ เช่น ถ้าเป็นด้านความงาม ก็ต้องใส่สารที่เสริมในเรื่องการสร้างคอลลาเจน เพื่อให้ได้ผิวที่เปล่งปลั่ง สดใส”
ทั้งนี้มีหมอผู้เชี่ยวชาญจัดโปรแกรมให้ คุณสามารถเลือกว่าสะดวกมาทำสปาเซลล์ ล้างพิษที่ผิวหนัง ต่อด้วยทำสกินทรีตเมนต์ แล้วค่อยมาใหม่สัปดาห์หน้า หรือจัดเป็นรีทรีตครึ่งวันพร้อมอาหารสุขภาพแนว raw food หรือโปรแกรม 1 วันขอออกกำลังกายด้วย หรือจัดไปเลย 2 คืน 3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ก็ได้
“หมออยากให้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องเคร่งเครียด เข้ามารู้สึกสบายๆ ได้พักผ่อน ไม่ใช่เข้ามาแล้วมีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์”
ค่ะ เพราะหากเราเครียด ภายในร่างกายของเราย่อมหนีไม่พ้นการเกิดเคมีที่กดดันเครียดขึ้ง กลายเป็นสะสมเพิ่มสารพิษเข้าไปอีก
สาวใดหงุดหงิดลงทุนซื้อสกินแคร์ราคาแพงก็แล้ว เปิดคอร์สทำสวยเป็นแสนก็แล้ว ยังชะลอวัยไม่โดนใจ ลองสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Apex Call Center 080 5000 123
*สะกิดถาม->CELL SPA/THERAPY มิใช่ DETOX ?!
ท่านผู้ท่านหลายท่านอาจเอะใจ การบำบัดทำสปาเซลล์ก็คือ การล้างพิษใช่ไหมล่ะ
“เราจะไม่พูดคำว่า ดีท้อกซ์ (detox) เพราะพอพูดปั๊บ คนจะนึกถึงการสวนทวาร ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่ใช่แค่นั้น” หมอนันทภัทร์ เล่าความเป็นมาให้ฟังว่า
“สมัยก่อนคนไม่เข้าใจว่าดีท้อกซ์คืออะไร เยอรมันเค้าทำมานานแล้วสำหรับคนที่ทานอาหารแล้วมีปัญหาทางเดินอาหาร ก็ใช้กาแฟสวนทวารเพื่อการล้างพิษรักษา พอกระแสนี้เกิดขึ้นปุ๊บ คนก็เข้าใจว่าการดีท้อกซ์คือ การสวนทวารนำอุจจาระออกมา อุจจาระคือ ตัวแทนของเสีย
แต่จริงๆ แล้ว นั่นคือ หนึ่งวิธีในการล้าง ซึ่งคนที่ไม่ได้มีปัญหาด้านทางเดินอาหาร ไปทำดีท้อกซ์สวนทวารก็เฉยๆ ทำไปก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะถ่ายปกติทุกวัน
หมอจึงเห็นว่าคำว่า “เซลล์บำบัด” “เซลล์สปา” หรือ “เซลล์ดีท้อกซ์” ตรงประเด็นกว่า เป็นการล้างพิษดูแลเซลล์ข้างใน อย่าง 4 อวัยวะหลักที่หมอบอก”
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
..รู้สึกไหมคะ ลงทุนซื้อครีมกระปุกแพงๆ ขยันทาเช้าเย็น สองอาทิตย์ก็ไปยิงเลเซอร์ ทำทรีตเมนต์เป็นประจำ กระยังขึ้น ฝ้ายังมา ทั้งนี้เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ของเสียภายในร่างกายก็ถูกสะสมมากขึ้น ต้องบำบัดให้ถึงเซลล์ …ช่วยชะลอวัยคุณผู้หญิงได้
“เมื่อก่อนคนมารักษาสิวฝ้า เอ๊ะ ไม่หายสักที หมอก็ใช้เครื่อง EIS ตรวจสารพิษในร่างกาย และตรวจเลือด เข้าไปแก้ไขข้างใน พอเราแก้ไขข้างในดีแล้ว ทำทรีตเมนต์ (treatment) ต่างๆ ก็ได้ผลขึ้น” พญ.นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ ผู้ก่อตั้งเอเพ็กซ์ โปรฟาวด์ บิวตี้ (Apex Profound Beauty) อธิบายต่อว่า
“คนเราอายุ 20-25 ปี สนใจดูแลผิวก็การบำรุงก่อน แต่พอบำรุงไปสักระยะ จะรู้สึกเหมือนกับว่าการบำรุงไปไม่ถึงตามต้องการ ครั้นขึ้น 30 ปี 40 ปีปั๊บ การขับของเสียออกจากร่างกายลดลง คล้ายๆ ว่ามีการเก็บของเสียในร่างกายมากขึ้น บวกกับไลฟ์สไตล์ของคนเราส่วนใหญ่นอนดึก ระดับฮอร์โมนในคนอายุ 30-35 ปี ก็จะเริ่มนิ่งๆ และค่อยๆ ตกไปด้วย
เพราะฉะนั้นในวัยที่มากขึ้น ถ้าจะเล่นกับความใส ควบคุมความเสื่อมโทรม ต้องลงรายละเอียดมากขึ้น ไม่ใช่แค่ทาครีม หรือนวดผิวธรรมดา”
ด้วยเหตุผลเหล่านึ้จึงเป็นแรงผลักดันให้หมอนันทภัทร์ต้องขยายเปิด เอเพ็กซ์ เซลล์สปา (Apex Cell Spa) โดยมีนันทรา รีทรีต แอนด์ สปา (NANTRA Retreat & Spa) ซึ่งเป็นโรงแรมบูติค ดีไซน์น่านอน จำนวน 40 ห้อง ไว้รองรับหากคนไข้ต้องการที่พักเพื่อปรนนิบัติจิตใจและฟื้นฟูร่างกายอย่างเต็มที่ หรือลูกค้าโรงแรมที่ต้องการบริการเพิ่มเติม wellness พร้อมห้องอาหารเสิร์ฟเมนูสุขภาพ เอาใจสาวๆ ผู้รักสุขภาพและความงามสุดฤทธิ์
“เราดูแลเรื่องผิวเยอะมากแล้ว คิดว่าต้องเพิ่มตัวนี้ด้วย เพื่อพาไปสู่ทางออกที่มั่นคง” หมอนันทภัทร์ กล่าว
ทางออกที่ว่านี้หมายถึง ทำการสปาเซลล์ซะ เพื่อการบำบัดได้ลึกลงไปถึงระดับเซลล์
“ด้วยศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ เราสามารถหยุดยั้งการเสื่อมของเซลล์ และช่วยฟื้นฟูให้เซลล์กลับมามีชีวิตใหม่ หรือเพิ่มจำนวนเซลล์เกิดใหม่ในร่างกายให้มีมากขึ้น เราเรียกวิธีการนี้ว่า Cell Therapy เมื่อเซลล์ใหม่มีมากขึ้น เซลล์เสื่อมสภาพมีน้อยลง เซลล์ที่มีอยู่กลับมามีชีวิตที่แข็งแรงขึ้น สิ่งที่สะท้อนออกมาภายนอกจึงเป็นความสดใส เปล่งปลั่ง แข็งแรง” หมอนันทภัทร์ ชี้ให้เห็นว่า ทำไมสมัยอายุน้อยๆ แม้ไม่ทำอะไรเลยผิวก็ดูดี
“นั่นเพราะมีการเกิดใหม่ของเซลล์ ขึ้นมาทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพไปตลอดเวลา แต่เมื่ออายุมากขึ้นเลข 3 ปลายๆ เข้าเลข 4 การสร้างเซลล์ใหม่ไม่เหมือนเมื่ออายุยังน้อย มีการสร้างเซลล์ใหม่น้อยลง ขณะที่มีเซลล์เสื่อมสภาพมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลอีกว่า ทำไมเมื่ออายุมากขึ้น การทำแต่เลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ต่างๆ จึงไม่ได้ผลดีเหมือนเมื่อตอนอายุน้อยๆ เซลล์ใหม่เกิดขึ้นน้อยลงนั่นเอง"
"วิทยาการในปัจจุบันจึงไม่เพียงให้การดูแลรักษาเฉพาะภายนอก แต่จำเป็นต้องเข้าไปดูแลรักษากันถึงในระดับเซลล์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตทั้งหมด เพื่อให้ผลการรักษายั่งยืน และปรากฏผลออกมาจากภายในอย่างแท้จริง
ยกตัวอย่างเช่น ในการทำเลเซอร์ หรือการยกกระชับ ถ้าต้องการให้ผลการรักษาดียิ่งขึ้น การแพทย์แนวใหม่จึงต้องทำการรักษาด้วยเซลล์บำบัดควบคู่กันไปด้วย”
แนวทางการบำบัดฟื้นฟูเซลล์ ให้กลับมาแข็งแรง คุณภาพดีอีกครั้ง ประกอบด้วยการขับของเสีย หรือขับสารพิษออกจากเซลล์ การเติมสารอาหารที่เซลล์ต้องการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเซลล์ จนถึงการซ่อมเซลล์ เพิ่มเซลล์ใหม่ๆ
หมอนันทภัทร์เล่าให้ฟังว่ามี 4 อวัยวะหลักที่ควรได้รับการบำบัดหรือล้างพิษ
“หนึ่ง-เป็นเรื่องของไต สอง-เสริมการขับพิษของตับ สาม-ผิวหนัง skin detox ขับออกทางเหงื่อ และสี่-เป็น brain detox”
“เมื่อขับของเสียออกแล้ว ถ้าต้องการให้เซลล์ทำงานได้เต็มที่ ก็ต้องใส่สารอาหารเข้าไปให้กับเซลล์ ทั้งวิตามิน แร่ธาตุต่างๆ ที่เซลล์นั้นๆ ต้องการ เพื่อนำไปใช้ในการเสริมสร้างเซลล์ เช่น ถ้าเป็นด้านความงาม ก็ต้องใส่สารที่เสริมในเรื่องการสร้างคอลลาเจน เพื่อให้ได้ผิวที่เปล่งปลั่ง สดใส”
ทั้งนี้มีหมอผู้เชี่ยวชาญจัดโปรแกรมให้ คุณสามารถเลือกว่าสะดวกมาทำสปาเซลล์ ล้างพิษที่ผิวหนัง ต่อด้วยทำสกินทรีตเมนต์ แล้วค่อยมาใหม่สัปดาห์หน้า หรือจัดเป็นรีทรีตครึ่งวันพร้อมอาหารสุขภาพแนว raw food หรือโปรแกรม 1 วันขอออกกำลังกายด้วย หรือจัดไปเลย 2 คืน 3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ก็ได้
“หมออยากให้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องเคร่งเครียด เข้ามารู้สึกสบายๆ ได้พักผ่อน ไม่ใช่เข้ามาแล้วมีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์”
ค่ะ เพราะหากเราเครียด ภายในร่างกายของเราย่อมหนีไม่พ้นการเกิดเคมีที่กดดันเครียดขึ้ง กลายเป็นสะสมเพิ่มสารพิษเข้าไปอีก
สาวใดหงุดหงิดลงทุนซื้อสกินแคร์ราคาแพงก็แล้ว เปิดคอร์สทำสวยเป็นแสนก็แล้ว ยังชะลอวัยไม่โดนใจ ลองสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Apex Call Center 080 5000 123
*สะกิดถาม->CELL SPA/THERAPY มิใช่ DETOX ?!
ท่านผู้ท่านหลายท่านอาจเอะใจ การบำบัดทำสปาเซลล์ก็คือ การล้างพิษใช่ไหมล่ะ
“เราจะไม่พูดคำว่า ดีท้อกซ์ (detox) เพราะพอพูดปั๊บ คนจะนึกถึงการสวนทวาร ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่ใช่แค่นั้น” หมอนันทภัทร์ เล่าความเป็นมาให้ฟังว่า
“สมัยก่อนคนไม่เข้าใจว่าดีท้อกซ์คืออะไร เยอรมันเค้าทำมานานแล้วสำหรับคนที่ทานอาหารแล้วมีปัญหาทางเดินอาหาร ก็ใช้กาแฟสวนทวารเพื่อการล้างพิษรักษา พอกระแสนี้เกิดขึ้นปุ๊บ คนก็เข้าใจว่าการดีท้อกซ์คือ การสวนทวารนำอุจจาระออกมา อุจจาระคือ ตัวแทนของเสีย
แต่จริงๆ แล้ว นั่นคือ หนึ่งวิธีในการล้าง ซึ่งคนที่ไม่ได้มีปัญหาด้านทางเดินอาหาร ไปทำดีท้อกซ์สวนทวารก็เฉยๆ ทำไปก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะถ่ายปกติทุกวัน
หมอจึงเห็นว่าคำว่า “เซลล์บำบัด” “เซลล์สปา” หรือ “เซลล์ดีท้อกซ์” ตรงประเด็นกว่า เป็นการล้างพิษดูแลเซลล์ข้างใน อย่าง 4 อวัยวะหลักที่หมอบอก”
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net