xs
xsm
sm
md
lg

วิวาทะแสบๆ ของ “กูรูอาหาร” กับ “เซเลบริตีเชฟ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไมเคิล วินเนอร์
กลายเป็นเรื่องร้อนของวงการอาหารไปแล้ว เมื่อนักวิจารณ์ปากกาทองระดับผู้กำกับหนังใหญ่ แถมดีกรีเป็นนักวิจารณ์อาหารให้กับ นสพ.ซันเดย์ ไทมส์ อย่าง ไมเคิล วินเนอร์ ที่บอกให้เซเลบริตีเชฟทั้งหลาย ให้ “หุบปากและอยู่แต่ในครัว” แถมออกปากด้วยอารมณ์หมั่นไส้ว่า “ไม่มีใครสักคนที่พูดอะไรที่มันฉลาดออกมาเลย” ทั้งนี้ เพราะนักวิจารณ์ฝีปากเอกวัย 76 ปีคนนี้ เป็นคนที่ใครๆก็ต้องรับฟัง เพราะเป็นทั้งนักชิมและนักวิจารณ์อาหารประเภทหรูระยับ เป็นผู้กำกับหนังใหญ่ของทั้งวงการหนังอังกฤษและอเมริกา และเป็นที่ยอมรับในวงการบันเทิงว่า เป็นผู้ที่มีรสนิยมเยี่ยมยอดในการกินอาหารคนหนึ่ง และการที่เขาออกมาวิจารณ์พวกเชฟในอังกฤษ ที่ผันตัวเองเป็น “เซเลบริตีเชฟ” ว่า “ตลก” เพราะแบบนี้อีกไม่ช้า ก็คงจะมี “เซเลบริตีเชฟ” อื่นๆ ตามมาอีกเป็นแถว ไม่ว่าจะเป็น “เซเลบริตีเด็กปั๊ม” หรือ”เซเลบริตีคนกวาดถนน” เป็นต้น ถีงแม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อชัดๆ ว่า “เซเลบริตีเชฟ” ที่เขาวิจารณ์นั้นหมายถึงใคร แต่ก็เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ไมเคิล วินเนอร์ ต้องการสื่อถึงใครบ้าง ซึ่งย่อมไม่พ้น 2 เชฟที่ดังที่สุดในอังกฤษขณะนี้ คือ เจมี่ โอลิเวอร์ และ กอร์ดอน แรมเซย์ เชฟเจ้าอารมณ์นั่นแน่นอน เพราะทุกวันนี้เชฟส่วนใหญ่ต่างพากันเสนอหน้าออกทีวี หรือไม่ก็ทำรายการอาหารกัน แทนที่จะเอาเวลามานั่งปรับปรุง หรือคิดสร้างสรรค์อาหารใหม่ๆ ออกมา
เจมี่ โอลิเวอร์
“เซเลบริตีเชฟ” วันนี้ จึงเปลี่ยนบทบาทมาเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า หรือไม่ก็เสนอหน้าตามรายการโทรทัศน์ต่างๆ กันทั้งนั้น แล้วจะเกิดพัฒนาการในเรื่องของอาหารได้อย่างไร ซ้ำร้ายเชฟทั้งหลาย ก็ยังกลายเป็นตัวแทนของบริษัทที่ส่งสินค้า ทั้งอาหารและวัตถุดิบ ไม่จำเป็นต้องไปเดินตลาดเพื่อเสาะหาวัตถุดิบสดๆ ไม่ซ้ำใคร อย่างที่เชฟผู้น่าชื่นชมในยุคหนึ่งเคยปฏิบัติกันมา ไมเคิล วินเนอร์ กลับกล่าวชื่นชมเชฟ อย่าง เฟอร์กัส แฮนเดอร์สัน ผู้ก่อตั้งภัตตาคาร เซ็นต์ จอห์น อดีตสถาปนิกผู้ผันตัวมาเป็นเชฟ โดยยึดหลักอาหารอังกฤษดั้งเดิม และจับคู่กับไวน์ฝรั่งเศส ผู้กำหนดคำนิยามในการใช้เนื้อในการปรุงอาหารว่า เขาใช้ทุกส่วนตั้งแต่จมูกถึงหาง ซึ่งการปรุงอาหารของเชฟรายนี้ ได้รับการยกย่องในหมู่ลูกค้า ซึ่งอยู่วงสังคมชั้นสูงของอังกฤษอย่างชัดเจน
กอร์ดอน แรมเซย์
เหตุผลที่ไมเคิลยกย่องเชฟรายนี้มากก็เพราะ เชฟเฟอร์กัส ไม่เคยโผล่หน้าไปออกรายการทีวี หรือทำตัวเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาสินค้าใดๆเลย เขาคงหมกตัวเองอยู่แต่ในครัว ซึ่ง ไมเคิล วินเนอร์ กล่าวชมเชยว่า นั่นคือการที่เขาซื่อสัตย์ในวิชาชีพ และให้ความสำคัญกับลูกค้าที่สุด
ก่อนหน้านี้ กอร์ดอน แรมเซย์ เองเคยวิจารณ์ ไมเคิล วินเนอร์ เช่นกันว่า เขาไม่มีความรู้ในเรื่องของอาหารเลย แต่ ไมเคิล ก็สวนกลับเช่นกันว่า ตัวของ กอร์ดอน เองนั้น ทั้งหยาบคายและเจ้าอารมณ์ (หมายเหตุผู้แปล : อันนี้ผู้ถอดความเห็นด้วย เพราะเชฟกอร์ดอน ด่าจนลูกทีมน้ำตาหกมาแล้วหลายต่อหลายคน ทั้งยังปากจัดใช้คำหยาบชนิดต้องดูดเสียงมาแล้วหลายครั้ง) ผิดกับ เชฟเฟอร์กัส ที่มีแต่ความเห็นใจและพยายามอธิบายให้ลูกมือในครัวเข้าใจในอาหารแต่ละจานอย่างใจเย็น
อย่างนี้ถ้า ไมเคิล วินเนอร์ ดูรายการอาหารของไทย คงแปลกใจไม่น้อย เพราะรายการของบ้านเรา นอกจากจะมีคนสำคัญตนผิดว่า เป็นกูรูทำรายการออกมาเป็นว่าเล่นแล้ว ยังมีประเภทเชฟจำอวด ที่มาจีบปากจีบคอออกรายการ ทำอาหารประเภทสุนัขไม่แลออกถมไป
กำลังโหลดความคิดเห็น