>> ถึงตอนนี้คุณจะมี Status “โสด” แต่ก็อย่าปฏิเสธว่าชีวิตคุณไม่มีความรัก เพราะความรักนั้นอยู่รอบตัวคุณอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความรักในงานที่ทำ รักวิชาชีพ รักพ่อแม่ รักเพื่อน รักแฟน ซึ่งถ้าโลกปราศจากความรักคงแห้งแล้งพิกล และวันนี้เรามีนัดพูดคุยเรื่องความรักกับ “จิรัฎฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล” ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ SANSHAII ที่นอกจากเขาจะใส่ความรักลงไปในเสื้อผ้าที่เขาทำร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เขายังมีความรักไว้หล่อเลี้ยงชีวิต ทำให้เขาสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้
...ทันทีที่เราเริ่มถามเขาในเรื่องของความรัก เรากลับถูกถามกลับด้วยคำถามว่า “เคยดูหนังแล้วร้องไห้มั๊ย” ...ฉันพยายามคิดถึงหนังเกาหลีเรื่องล่าสุดที่ทำให้เสียน้ำตา ก่อนที่พี่จิรัฎฐ์จะบิวท์อารมณ์ตัวเองด้วยการเล่าถึงภาพยนตร์ที่ทำให้เขาเสียน้ำตา
“หลายครั้งที่ดูหนังแล้วร้องไห้เพราะซึ้งในความรัก เช่นเรื่องรักแห่งสยาม แต่ไม่ใช่ฉากที่เด็กผู้ชายสองคนจูบกันนะ ที่พูดถึงคือฉากที่ภรรยา (สินจัย เปล่งพานิช) ดูแลสามีที่ป่วย โดยเธอยอมกินข้าวแข็งๆ โอ้โหฉากนั้นพี่ร้องไห้ซะ!!...เพราะนั่นคือความรักของภรรยาที่มีต่อสามี ยอมทำทุกอย่างเพื่อสามี
หรือหนังเรื่อง บิลลี่ เอลเลียต (Billy Elliot) ฉากที่พ่อซึ่งเกลียดการทำเหมืองมาก แต่ต้องไปสมัครทำงานที่เหมืองเพราะรักลูก อยากหาเงินให้ลูกไปเรียนบัลเลต์ เรามักจะอินกับความรักที่เสียสละ อินกับความรักที่ยอมทำทุกอย่างแม้จะเป็นสิ่งที่ไม่อยากทำ เพื่อให้อีกคนประสบความสำเร็จหรือมีความสุข”
แม้ในชีวิตจริงของเขาจะไม่ดราม่าเหมือนในหนังแต่ครั้งหนึ่งเขาก็เคยมีความรักฝังใจไม่เคยลืม และเขาเรียกความรักครั้งนั้นว่า “Love of my Life”
“เคยเจอแต่ความรักที่แตะต้องไม่ได้ เมื่อประมาณสัก 10 ปีแล้ว เพราะเขาเป็นคนที่ถูกต้องของสังคมและมีเจ้าของแล้ว แม้ว่าเราจะรักกันแต่ความถูกต้องก็ทำให้เขายั้งใจตัวเองไม่มีความสัมพันธ์เกินเลยกับเรา ฉะนั้น เราต้องยั้งใจด้วย ซึ่งทรมานมาก แต่ก็ยอมรับว่าเขาทำถูกแล้ว ในเมื่อเขาเป็นคนดีจะทำให้เขาเป็นคนเลวทำไม! แล้วก็แยกย้ายกันไป แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่ เป็นรักที่ทรมานแต่ประทับใจ เรียกว่าเป็น Love of my Life เลย”
จากความรักครั้งนั้นไม่นานเขาก็มีความรักครั้งใหม่ แม้จะเป็นรักทางไกลแต่เขาก็แฮปปี้กับความรัก 8 ปี ที่ไม่ต้องมีพันธะสัญญาอะไรมากมาย มีเพียงความรัก ความปรารถนาดี และความห่วงใยให้กันอย่างดีที่สุด แม้ท้ายที่สุดจะรู้อยู่แล้วว่าไม่ได้จบลงที่การแต่งงานแต่เขาก็ยังหวังที่อยากจะอยู่ด้วยกัน...
“ความรักแบบชายกับชาย ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องแต่งงาน แค่อยากอยู่ด้วยกันเป็นคู่ให้มีความสุข ดูแลกันให้มากที่สุดและเป็นเพื่อนกันไป กับความรักครั้งนี้แฮปปี้มาก คบกันมา 8 ปีแล้ว แม้เขาจะทำงานอยู่ต่างประเทศแต่ก็มีความสุข ปีหนึ่งเจอกันหลายครั้ง โทรศัพท์คุยกันทุกวัน เราชอบที่จะคบเป็นตัวเป็นตน มากกว่าที่จะเป็น One Night Stand คนเราพอเจอคนที่คลิ๊กกัน ชอบและทำอะไรเหมือนกัน เราก็จะเดินไปด้วยกันได้
มีความรักน่ะง่าย แต่การจะเก็บไว้ให้นานนั้นยาก...วิธีที่จะรักษาความรักนี้ไว้ให้ดีที่สุดคือ “ต้องเชื่อใจ!” คนส่วนใหญ่ที่เลิกกันเพราะไม่เชื่อใจกัน อย่างคู่ของเราอยู่คนละที่ยิ่งต้องเชื่อใจกัน โชคดีที่ตัวเองไม่ใช่คนขี้หึง เราอยู่คนเดียวมาตลอด จึงมีสเปซส่วนตัว เขาก็มีสเปซส่วนตัวของเขา แต่ก็มีส่วนที่แชร์กัน สำหรับเราความรักไม่ต้องมีกฎ ผ่อนผันกันได้และต้องรู้จักให้อภัยกัน”
หลายคนอาจมองว่าความสัมพันธ์แบบชายชายจะยั่งยืนแค่ไหนนั้น โดยส่วนตัวของจิรัฎฐ์เขาบอกว่าเป็นเรื่องของตัวบุคคลว่าคนคนนั้นพร้อมที่จะหยุดหรือยัง แต่โดยส่วนตัวของเขานั้นหยุดมานานแล้ว!!
“เคยรู้จักคนที่ชอบความสัมพันธ์แบบ One Night Stand พอวันหนึ่งที่เขาอยากเปลี่ยนตัวเองมีความสัมพันธ์แบบยืนยาวกับใครสักคนแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเวลาไปปาร์ตี้เขาก็ยังมองหาคนอื่น ความรู้สึกส่วนตัวคิดว่า One Night Stand เป็นลักษณะของเพศเสน่หามากกว่าความรัก
ต้องยอมรับว่าคนที่เป็นเกย์หลายคนสนุกกับเรื่องเซ็กส์มากซะจนเป็นประเด็นแรกของชีวิต แต่เราเป็นคนที่ไม่ขวยขวายเรื่องเพศ แม้บางครั้งจะมีคนเข้ามาหาเราพอให้รู้สึกสดชื่นบ้าง แต่เราก็เพียงแค่คุยแสดงความเป็นเพื่อน และสุดท้ายก็โทรศัพท์หาแฟนเราอยู่ดี โชคดีแล้วที่เจอแฟนเรา (ยิ้ม)”
และก่อนที่เขาจะเตรียมเก็บกระเป๋าไปหาแฟนหนุ่มที่ต่างประเทศ เขายังทิ้งท้ายให้เรารู้จักการสัมผัสกับความรักไว้ว่า “การสัมผัสกับความรักให้ดูจากใจเรา ถ้าเราคิดถึง อยากโทรศัพท์หา อยากเห็นหน้า หรือโหยหา นั่นแหละรัก!!” :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net หรือ App Store ได้แล้วที่ celeb online ipad edition