xs
xsm
sm
md
lg

เคานท์เตสแห่งเวสเส็กซ์กับของขวัญที่สร้างปัญหา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าหญิงโซฟี กับเครื่องเพชรซึ่งเป็นของขวัญเจ้าปัญหา
การเสด็จเยือนประเทศบาห์เรนของเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ของ เจ้าหญิงโซฟี เคานท์เตสแห่งเวสเส็กซ์ พระชายาใน เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระโอรสองค์สุดท้องของ สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธII ในฐานะผู้แทนพระองค์ขององค์พระประมุขแห่งเครือจักรภพ ได้ก่อให้เกิดปัญหาที่ส่งผลต่อพระราชวงศ์อังกฤษ ทางด้านมนุษยธรรมที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกของประชาชน ที่ยึดถือแนวทางประชาธิปไตย ทั้งในประเทศอังกฤษเองและประเทศบาห์เรน
เรื่องของเรื่องคือ เจ้าหญิงโซฟี ได้รับของขวัญเป็นเครื่องเพชรถึง 2 ชุด โดยชุดแรกเป็นของขวัญจากพระประมุขแห่งบาห์เรน คือ เชค ฮามัด บิน อิซา อัล ไคฟา เป็นเครื่องเพชรชุดใหญ่ที่มิได้เปิดเผยถึงรายละเอียดว่ามีอะไนบ้าง
ส่วนอีกชุดหนึ่งเป็นของนายกรัฐมนตรี เชค คาลิฟา บิน ซัลมาน อัล คาลิฟา ซึ่งเป็นพระปิตุลาของพระประมุขแห่งบาห์เรน ขณะที่ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ก็ทรงได้รับพระราชทานปากกาและนาฬิกาข้อมือ เป็นของขวัญจากองค์พระประมุขด้วยเช่นกัน และนอกจากนั้น องค์มกุฎราชกุมารแห่งบาห์เรน ก็ยังได้ถวายถ้วยเงินประดับไข่มุกแด่พระชายา และพรมไหมทอด้วยมือแด่เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดด้วยเช่นกัน ซึ่งของขวัญนี้ทรงได้รับในงานเลี้ยงรับเสด็จเมื่อคืนวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา
สื่อเมืองผู้ดีต่างกล่าวอย่างไม่พอใจต่อการรับของขวัญของเจ้านายทั้งสองพระองค์ บางฉบับถึงกับกล่าวว่า อันที่จริง เจ้าหญิงโซฟี น่าจะนำของขวัญที่ได้รับจากการเสด็จเยือนประเทศบาห์เรนในครั้งนี้ นำมาออกประมูลแล้วส่งเงินไปให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตชาวบาห์เรน ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อปีกลาย และถูกทางการบาห์เรนสั่ง “กระชับพื้นที่” จนทำให้มีผู้เสียชีวิตร่วมครึ่งร้อย และยังมีผู้บาดเจ็บร่วม 3,000คน จากปฏิบัติการทางทหารที่ออกมากวาดล้างผู้ต่อต้านการปกครองของบาห์เรน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเรียกร้องประชาธิปไตยของโลกมุสลิม นับตั้งแต่จากแอฟริกาเหนือและแพร่หลายมายังดินแดนตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นการประท้วงของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ในประเทศต่างๆ

โดยเฉพาะ ผู้ปกครองของประเทศบาห์เรน ที่ถูกสื่อเมืองผู้ดีโจมตีอย่างรุนแรง และแสดงความไม่เห็นด้วยที่พระราชวงศ์แห่งอังกฤษ จะรับรองหรือให้ความสนิทสนมกับประเทศที่ปราบปราม และกวาดล้างผู้เรียกร้องประชาธิปไตย เพราะต่างก็ตระหนักดีว่า อังกฤษเป็นประเทศแม่แบบของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งก็น่าจะเป็นต้นแบบให้กับประเทศที่ยังคงปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตยอยู่ ที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองเช่นเดียวกับอังกฤษอย่างละมุนละม่อม และหลีกเลี่ยงการสูญเสียจากการปะทะระหว่างกองทัพและประชาชน
สรุปว่า ราชวงศ์อังกฤษ ควรเป็นต้นแบบและตัวอย่างให้กับบรรดาผู้นำทั้งหลาย ที่จะปฏิบัติอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะ การรับของขวัญที่มีค่า อันจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อประชาชนของทุกประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น