xs
xsm
sm
md
lg

“ลูกกตัญญู” ปลุกพลัง “ทำดี” ตามรอยพระยุคลบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี) ร่วมกับ สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี จัดทำหนังสือทรงคุณค่า “ที่สุดแห่งความดี” เชิญชวนคนไทยร่วมเทิดพระเกียรติในปีมหามงคลนี้ด้วย ‘ความกตัญญู’ ซึ่งในพระพุทธศาสนามีหลักการวัดคนดีเอาไว้อย่างชัดเจนผ่านพุทธภาษิตว่า “ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี” โดยกล่าวถึง เรื่องราวของมหาบุรุษยอดกตัญญูในสมัยพุทธกาล คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสารีบุตร ผสานความรักระหว่างแม่กับลูก ของท่านพุทธทาสและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำมาซึ่งความงดงามของลูกกตัญญูและการเป็นต้นแบบของ ‘แรงบันดาลใจแห่งความดี’ เชื่อมร้อยปลุกพลังให้คนไทยลุกขึ้นมา “ทำดี” เพื่อประโยชน์สุขของตนและของสังคมไทย โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมทบทุนมูลนิธิภูมิพโลภิกขุ ในพระราชูปถัมภ์และมูลนิธิธรรมดี
มนุษย์ส่วนใหญ่ในยุคนี้ แม้ชีวิตสมบูรณ์ด้วยวัตถุ แต่ความสุขในหัวใจกลับเหือดหาย บางคนมุ่งดิ้นรนแสวงหาความสุขนั้น จนพลาดพลั้งตกหลุมความทุกข์ ชักนำชีวิตตนเจริญงอกงามในทางเสื่อม บ้างก็วิ่งไล่ล่าอนาคตที่แขวนอยู่บนความไม่แน่นอน จนหลงลืมรากเหง้าของตนเอง กลายเป็นต้นไม้พันธุ์ที่ปลูกในเรือนเพาะชำของนักวิทยาศาสตร์ รากลอยเหนือผืนดิน วันนี้เราจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า คนส่วนใหญ่ในศตวรรษนี้ รายได้สูง แต่กตัญญูต่ำ ความรู้สูง แต่คุณธรรมต่ำ นั่นเพราะเรายอมให้ความลุ่มหลงมัวเมาควบคุมบังเหียนชีวิต หัวใจตกเป็นทาสของ
ความโลภ พอกพูนจนโลกใบนี้รุ่มร้อนไปด้วยไฟแห่งกิเลส ตาลปัตรลุกลามเข้าสู่ยุค ‘เสื่อม’ สาเหตุสำคัญที่สุดซึ่งทำให้เป็นเช่นนี้ เพราะมนุษย์มองข้าม ‘ความกตัญญู’ ซึ่งเป็นรากฐานของคุณธรรมแห่งความดีทั้งปวง

พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) และสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี จึงมีดำริร่วมกันจัดทำหนังสือทรงคุณค่า “ที่สุดแห่งความดี” เพื่อเทิดพระเกียรติในปีมหามงคลพุทธศักราช ๒๕๕๔ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุครบ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา พร้อมถวายพระพรชัยมงคลอันสูงสุด ด้วยความดีภาคปฏิบัติ โดยมีเนื้อหากล่าวถึง ที่สุดการแทนคุณของมหาบุรุษยอดกตัญญูเมื่อครั้งสมัยพุทธกาล คือ พระพุทธเจ้าและพระสารีบุตร ผสานความงดงามของความรักระหว่างแม่กับลูก ท่านพุทธทาสกับโยมมารดา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จย่า พระมหาวุฒิชัยกับโยมบิดามารดา นำมาซึ่งเรื่องราวอันซาบซึ้ง กินใจ แฝงแง่คิด เติมเต็มความรู้สึกให้ระลึกถึงความรักที่เคยหลงลืม และความดีที่สมควรกระทำมากที่สุดในชีวิต นั่นคือ ความกตัญญูกตเวทิตา
หนังสือเล่มนี้ จึงเปรียบเสมือนตัวแทนแห่ง “พลังความดี” เพื่อเชิญชวนคนไทยหัวใจกตัญญูให้ลุกขึ้นมา
“ทำดี” ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ตอบแทนบุญคุณชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พ่อแม่ และทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ที่ทำให้เราดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข และร่วมกันจุดคบเพลิง “ที่สุดแห่งความดี” นี้ ให้ส่องสว่างลุกโชนในหัวใจตัวเอง เพื่อเป็นอนุสาวรีย์แห่งความดีที่จะสถิตในโลกนี้ตลอดกาล เพื่อไปสู่บทสรุปที่ว่า ร้อยความดี ความกตัญญูมาเป็นที่หนึ่ง และดอกไม้ที่หอมที่สุดสำหรับพ่อแม่ คือ ดอกไม้ที่ชื่อว่า ลูกกตัญญู

พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี กล่าวว่า “ต้นแบบที่ดีที่สุดของคนไทยคือ พระเจ้าอยู่หัว ซึ่งในฐานะนักปกครองทรงเป็นธรรมิกมหาราชา แต่ในฐานะปุถุชนคนหนึ่ง ทรงประสบความสำเร็จในการเป็นลูกกตัญญู เห็นได้จากการที่ทรงแบ่งเวลาจากพระราชกรณียกิจอันมากมายไปร่วมโต๊ะเสวยกับพระบรมราชชนนี อย่างน้อย 1 วัน ใน 1 สัปดาห์ ทุกวันนี้สังคมไทยโชคดีที่มีพระเจ้าอยู่หัว แต่โชคร้ายคือเรามองแต่ไม่เห็น ฟังแต่ไม่ได้ยิน ดังนั้น ถ้าเราอยากเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัวให้ชาวโลกชื่นชมยินดี วิธีหนึ่งซึ่งเป็นรูปธรรมคือ ขอให้เราทุกคนเป็นลูกกตัญญญู เพราะหากเรามีความกตัญญูญูแล้ว จะไม่ทำให้พ่อแม่น้ำตาตก ไม่ทำให้แผ่นดินนี้เต็มไปด้วยคอรัปชั่น ไม่ทำให้โลกนี้แย่ลง และแน่นอนว่าน้ำจะไม่ท่วมบ้านท่วมเมืองเพราะเราจะไม่ทำลายสมดุลในธรรมชาติ เรียกได้ว่าความกตัญญูเพียงอย่างเดียวสามารถกู้โลกทั้งใบก็ยังได้ หากเป็นเช่นนี้แล้วพ่อหลวงของเราจะทรงยินดีปรีดาเป็นที่สุด”

ดร. วรภัทร์ ภู่เจริญ อดีตวิศวกรนาซ่า ผู้ดำเนินชีวิตด้วยวิถีเศรษฐกิจพอเพียง กล่าวว่า “สิ่งที่พระเจ้าอยู่หัวสั่งสอน ผมได้นำมาใช้ในชีวิตทั้งหมด ตัวอย่างเช่น ในทางธรรม เมื่อครั้งงานเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา ผมได้บวชถวายพระองค์ท่าน เพราะตั้งใจว่าจะปฏิบัติธรรมตามพระองค์ ส่วนทางโลก ก็คิดว่าผมเรียนจบวิศวกรรมเหมือนพระองค์ แต่พระองค์ท่านปลูกต้นไม้ ทำเกษตรกรรมได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ ก็เลยไปซื้อที่ดิน ๔ ไร่ไว้ที่ปากช่อง ทำตามทุกอย่างที่พระองค์สอน ทั้งทำสวน เลี้ยงสัตว์ เวลาไปบรรยายก็จะเชิญชวนให้องค์กรดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งก็มีหลายบริษัทนำไปทำตาม ผมคิดเสมอว่าพ่อเหนื่อยขนาดนี้ มีภาพพระเสโทหยดที่ปลายพระนาสิก แล้วเราจะเหนื่อยน้อยกว่าท่านได้อย่างไร อย่างน้อยสิ่งหนึ่งที่เราทุกคนทำได้คือ มีความกตัญญูต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และบุพการี ดังเช่นที่ท่าน ว. วชิรเมธีได้กล่าวไว้อย่างลึกซึ้งในหนังสือ “ที่สุดแห่งความดี” แล้วนั่นเอง”
หนังสือ “ที่สุดแห่งความดี” จำนวนหน้า 276 หน้า ราคา 219 บาท รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมทบทุนมูลนิธิภูมิพโลภิกขุ ในพระราชูปถัมภ์และมูลนิธิธรรมดี วางจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ และร้านดีบุ๊คส์ ชั้น 22 อาคารอัมรินทร์พลาซ่า ถนนเพลินจิต (บีทีเอสชิดลม) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี โทร 02-6852255 หรือ www.dmgbooks.com

 
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net
กำลังโหลดความคิดเห็น