กลายเป็นธรรมเนียมที่ต้องยึดปฏิบัติไปซะแล้ว สำหรับแคมเปญดีๆเพื่อโลกสีเขียว อย่าง โครงการ La Mer Save the Sea ซึ่งเป็นโครงการที่ ลาแมร์ประเทศไทย ได้สานต่อมาจากโครงการอนุรักษ์ทะเลระดับสากลของ World Oceans Day ที่ริเริ่มขึ้นด้วยเพราะตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญในการร่วมอนุรักษ์มหาสมุทรอันเป็นต้นกำเนิดของผลิตภัณฑ์ลาแมร์
อัมพรพิมพ์ วัชราภัย บอสใหญ่แห่งเอลก้า และ เยาวอนงค์ ชนะวงศ์ ผู้จัดการทั่วไปลาแมร์ ประเทศไทย จึงชักชวนคนคุ้นเคยอย่าง ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี,บุปผา กิ่งชัชวาลย์,นันทมาลี ภิรมย์ภักดี,ชนัดดา จิราธิวัฒน์,เพลินจันทร์ รุ่นประพันธ์,ยุพาพักตร์ วัชราภัย,จารุจิต ใบหยก,พราวพรรณ เลาหพงษ์ชนะ,วี มาร์, สุริยน ศรีอรทัยกุล,สนิทพิมพ์ เอกชัย ฯลฯ มาร่วมงานการกุศล “La Mer Save the Sea 2011”
บรรยากาศยามบ่ายของห้องทีเลาจน์ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ ได้ถูกจัดแต่งให้อยู่ในบรรยากาศแสนอบอุ่นในแบบ Exclusive High Tea เพื่อต้อนรับเซเลบริตีแถวหน้า ผู้เล็งเห็นถึงความสำคัญต่อการอนุรักษ์ท้องทะเลไทย ให้คงความงดงามยั่งยืน มาร่วมเป็นสักขีพยานในการมอบเงินจำนวน 800,000 บาท อันเป็นรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์พรีเมียมลิมิเต็ด อิดิชั่น “Jim Thompson for La Mer Save the Sea” จำนวน 3 ชิ้น ประกอบด้วย ผ้าพันคอผืนยาว, ผ้าพันตัวแบบ Beach Wrap และกระเป๋าชายหาดให้กับมูลนิธิโลกสีเขียวเพื่อสบทบทุนโครงการ “นักสืบชายหาด”
พร้อมกันนี้ เพื่อให้สมกับเป็นงานเพื่อท้องทะเลสีเขียว ภายในงานยังมีการมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณ “La Mer Save the Sea Awards” แก่บุคคลที่ทำคุณประโยชน์ด้านการอนุรักษ์ทะเลประจำปี 2 ท่านคือ ดร.สรณรัชฏ์ กาญจนะวณิชย์ เลขาธิการมูลนิธิโลกสีเขียว ผู้นำความคิดการอยู่ร่วมกับธรรมชาติและผู้ผลักดันให้เกิดโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติมากมายในไทย รวมทั้งโครงการนักสืบชายหาด และ ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี ผอ.ส่วนอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง คนรุ่นใหม่ผู้นำความรู้ทางวิชาการมาประยุกต์ใช้ด้านการจัดการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างชาญฉลาด
ไม่เพียงแต่แต่งตัวหล่อสวยมารับรางวัลเท่านั้น แต่ทั้งคู่ยังร่วมพูดคุยถึงแนวทางการอนุรักษ์และแก้ปัญหาชายฝั่งทะเล ที่ได้รับผลกระทบอันเกิดจากวิกฤติน้ำท่วม ซึ่งเป็นเหตุให้น้ำเสียปริมาณมหาศาลไหลลงสู่อ่าวไทย และก่อให้เกิดผลเสียอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศน์ท้องทะเลไทย
ดร.สรณรัชฏ์ แนะวิธีดูแลท้องทะเลด้วยสองมือเราเองอย่างง่ายๆ ให้ฟังว่า ปัญหาวิกฤติใต้ท้องทะเลส่วนใหญ่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของมนุษย์ทั้งนั้น การอนุรักษ์ทรัพยากรใต้ท้องทะเลที่เราสามารถทำได้ง่ายๆ ก็คือ ไม่ทิ้งเศษขยะหรือของมีพิษลงไปในทะเล และไม่ควรไปดำน้ำดูปะการังในฤดูที่ปลากำลังวางไข่ เพราะจะเป็นการรบกวนธรรมชาติมากเกินไป ซึ่งวิธีง่ายๆ เหล่านี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการช่วยท้องทะเลให้สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการทำให้โลกนี้สดใสขึ้นอีกด้วย
ถ้าทุกคนทำได้อย่างนี้ เห็นทีว่าโลกนี้คงน่าอยู่อีกเยอะเลย
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
