ตอนที่ “คุณดาว” ณัฐธยาน์ ปางพุฒิพงศ์ สาวสวยเจ้าของร้านชื่อดัง Coffee beans by Dao ลาออกจากอาชีพแอร์โฮสเตสการบินไทยนั้น เพียงหวังว่าจะแต่งงานแล้วมาเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกเท่านั้น แต่เพราะความที่เป็นคนขยันขันแข็งอยู่นิ่งไม่เป็น จึงขอใช้พื้นที่ชั้นล่างของอพาร์ตเม้นต์ในซอยเอกมัย 12 ของครอบครัวลองเปิด coffee corner เล็ก ๆ ดู โดยเรียนรู้การทำขนมเค้กจากหนังสือ cookbook ที่หาซื้อมาเป็นต้นแบบก่อนที่จะมาปรับสูตรตามใจปากของตัวเอง
เคล็ด(ไม่)ลับของเค้กอร่อยจากฝีมือของคุณดาวไม่มีอะไรมาก เพียงแต่ต้องใจถึงใช้วัตถุดิบที่เป็นของดีล้วน ๆ และต้องมือหนักกระหน่ำเครื่องลงไป ที่สำคัญของอร่อยทั้งหลายนี้เริ่มต้นมาจากครัวของที่บ้านซึ่งก็คือเพนท์เฮ้าส์ชั้นที่ 27 ของอพาร์ตเม้นต์หรูในซอยเอกมัย 12 นั่นเอง แม้กระทั่ง “ ข้าวผัดเนื้อเค็ม” อันเลื่องชื่อนั้น ก็ยังตากเนื้อเค็มแดดเดียวบนเพ้นท์เฮ้าส์แห่งนี้เลย ดูสิว่าเมนูไฮโซขนาดไหน
ความอร่อยทั้งเค้กและเมนูอาหารของร้านนี้ไม่ต้องลงทุนไปจ้างใครมาทำประชาสัมพันธ์ เพราะบรรดาลูกค้าประเภท cake lover ต่างบอกต่อแบบปากต่อปาก จนคอนเนอร์เล็ก ๆ ต้องขยายตู้เค้กออกไปเรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่พอกับกระแสของลูกค้าที่แวะเวียนมาไม่ขาดสาย
หลายครั้งที่คุณดาวถูกลูกค้าต่อว่าว่ามาที่ร้านยากจังเลย เพราะทำเลไม่ติดถนนใหญ่ คุณดาวจึงตัดสินใจขยายสาขาแรกไปอยู่ซอยร่วมฤดี ปรากฏว่าสาวกของ Coffee Beans by Dao ดีอกดีใจแห่กันไปอุดหนุนกันจนแน่นร้าน พอขายไปได้สักพักลูกค้าเริ่มบ่นมาให้ได้ยินอีกแล้วว่าถนนสุขุมวิทรถติดกว่าจะไปถึงที่ร้านเล่นเอาหายอยาก(กิน)ไปเลย คุณดาวจึงตัดสินใจขยายสาขาเป็นการใหญ่ มีห้างใหญ่เปิดที่ไหน Coffee Beans by Dao ตามไปเปิดร้านถึงที่นั่น
คิดว่าจะได้นั่งเป็นคุณนายดาวอย่างสบายอกสบายใจแล้วเชียวนา แต่ก็เริ่มมีเสียงบ่นของขาประจำว่า ตอนไปชอปปิ้งที่สิงคโปร์แล้วไปกินเค้กและอาหารไทยก็ไม่มีร้านอร่อยจนคิดถึงร้านของคุณดาวขึ้นมา แถมคนสิงคโปร์ที่เคยแวะเวียนมาเที่ยวเมืองไทยและเป็นขาประจำก็อยากให้คุณดาวไปเปิดร้านที่บ้าง
ตอนนี้ใครที่เป็นสาวก Coffee Beans by Dao รับทราบไว้นะว่า คุณดาวเธอใจอ่อน(อีกครั้ง) ไปเปิดร้านที่ชั้นกราวด์ อาคารวิสมา(Wisma) Orchard Road ในชื่อ Coffee Stars by Dao เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใครที่ไปชอปปิ้งที่ถนนแห่งนี้ก็อย่าลืมแวะเวียนไปชิมได้
งานนี้คุณดาวจริงจังมาก เพราะใครต่อใครบอกว่าทำร้านอาหารที่สิงคโปร์นั้นยากนะ การแข่งขันก็สูงด้วย ดังนั้นคุณดาวจึงต้องต้องบินไปมาระหว่างกรุงเทพฯ-สิงคโปร์ทุกเดือนเพื่อไปเซ็ตระบบต่าง ๆ ให้ได้มาตรฐานความอร่อยเหมือนกรุงเทพฯ ผ่านไป 9 เดือนทุกอย่างเริ่มลงตัวแล้ว มีคำชมจากลูกค้าไม่ขาดปาก ทำเอาคุณดาวเริ่มใจกล้าอยากจะขาย "แฟรนไชส์" ไปต่างประเทศเหมือนกับที่คนไทยหลายคนเห่อไปซื้อแฟรนไชส์จากนอกมาทำที่เมืองไทย
กลายมาเป็น “ แม่ค้าอินเตอร์” ไปแล้ว แต่หนนี้คุณดาวบอกว่าเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินขนาดต้องทำสีผม 2 เดือนครั้งแล้ว เพราะผมขาวเริ่มแพลมออกมาก่อนวัยอันควร
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
เคล็ด(ไม่)ลับของเค้กอร่อยจากฝีมือของคุณดาวไม่มีอะไรมาก เพียงแต่ต้องใจถึงใช้วัตถุดิบที่เป็นของดีล้วน ๆ และต้องมือหนักกระหน่ำเครื่องลงไป ที่สำคัญของอร่อยทั้งหลายนี้เริ่มต้นมาจากครัวของที่บ้านซึ่งก็คือเพนท์เฮ้าส์ชั้นที่ 27 ของอพาร์ตเม้นต์หรูในซอยเอกมัย 12 นั่นเอง แม้กระทั่ง “ ข้าวผัดเนื้อเค็ม” อันเลื่องชื่อนั้น ก็ยังตากเนื้อเค็มแดดเดียวบนเพ้นท์เฮ้าส์แห่งนี้เลย ดูสิว่าเมนูไฮโซขนาดไหน
ความอร่อยทั้งเค้กและเมนูอาหารของร้านนี้ไม่ต้องลงทุนไปจ้างใครมาทำประชาสัมพันธ์ เพราะบรรดาลูกค้าประเภท cake lover ต่างบอกต่อแบบปากต่อปาก จนคอนเนอร์เล็ก ๆ ต้องขยายตู้เค้กออกไปเรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่พอกับกระแสของลูกค้าที่แวะเวียนมาไม่ขาดสาย
หลายครั้งที่คุณดาวถูกลูกค้าต่อว่าว่ามาที่ร้านยากจังเลย เพราะทำเลไม่ติดถนนใหญ่ คุณดาวจึงตัดสินใจขยายสาขาแรกไปอยู่ซอยร่วมฤดี ปรากฏว่าสาวกของ Coffee Beans by Dao ดีอกดีใจแห่กันไปอุดหนุนกันจนแน่นร้าน พอขายไปได้สักพักลูกค้าเริ่มบ่นมาให้ได้ยินอีกแล้วว่าถนนสุขุมวิทรถติดกว่าจะไปถึงที่ร้านเล่นเอาหายอยาก(กิน)ไปเลย คุณดาวจึงตัดสินใจขยายสาขาเป็นการใหญ่ มีห้างใหญ่เปิดที่ไหน Coffee Beans by Dao ตามไปเปิดร้านถึงที่นั่น
คิดว่าจะได้นั่งเป็นคุณนายดาวอย่างสบายอกสบายใจแล้วเชียวนา แต่ก็เริ่มมีเสียงบ่นของขาประจำว่า ตอนไปชอปปิ้งที่สิงคโปร์แล้วไปกินเค้กและอาหารไทยก็ไม่มีร้านอร่อยจนคิดถึงร้านของคุณดาวขึ้นมา แถมคนสิงคโปร์ที่เคยแวะเวียนมาเที่ยวเมืองไทยและเป็นขาประจำก็อยากให้คุณดาวไปเปิดร้านที่บ้าง
ตอนนี้ใครที่เป็นสาวก Coffee Beans by Dao รับทราบไว้นะว่า คุณดาวเธอใจอ่อน(อีกครั้ง) ไปเปิดร้านที่ชั้นกราวด์ อาคารวิสมา(Wisma) Orchard Road ในชื่อ Coffee Stars by Dao เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใครที่ไปชอปปิ้งที่ถนนแห่งนี้ก็อย่าลืมแวะเวียนไปชิมได้
งานนี้คุณดาวจริงจังมาก เพราะใครต่อใครบอกว่าทำร้านอาหารที่สิงคโปร์นั้นยากนะ การแข่งขันก็สูงด้วย ดังนั้นคุณดาวจึงต้องต้องบินไปมาระหว่างกรุงเทพฯ-สิงคโปร์ทุกเดือนเพื่อไปเซ็ตระบบต่าง ๆ ให้ได้มาตรฐานความอร่อยเหมือนกรุงเทพฯ ผ่านไป 9 เดือนทุกอย่างเริ่มลงตัวแล้ว มีคำชมจากลูกค้าไม่ขาดปาก ทำเอาคุณดาวเริ่มใจกล้าอยากจะขาย "แฟรนไชส์" ไปต่างประเทศเหมือนกับที่คนไทยหลายคนเห่อไปซื้อแฟรนไชส์จากนอกมาทำที่เมืองไทย
กลายมาเป็น “ แม่ค้าอินเตอร์” ไปแล้ว แต่หนนี้คุณดาวบอกว่าเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินขนาดต้องทำสีผม 2 เดือนครั้งแล้ว เพราะผมขาวเริ่มแพลมออกมาก่อนวัยอันควร
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net