xs
xsm
sm
md
lg

"ณัฐภัทร-อรรถวดี จิรมณีกุล" ผนึกกำลังสองเจนสู่ผู้นำธุรกิจนาฬิกา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>> ก่อนหน้านี้ใครๆ ก็ดูจะคุ้นชินกับบทบาทของครอบครัวจิรมณีกุลในแวดวงธุรกิจนาฬิกา ในนามชื่อ แฟรงก์ วอตช์ บูติก ซึ่งได้ทำร่วมกับญาตินำเข้าแบรนด์นาฬิกาดังๆ อาทิ เพียเจต์, บริเกต์, โอเมก้า, บลองแปง ฯลฯ แต่มาในปัจจุบันนี้เรากลับจะได้เห็นชื่อบริษัท S.T. Dimension ภายใต้การกุมบังเหียนของ “คุณสุทิน จิรมณีกุล” และทายาท เริ่มเข้ามามีบทบาทแทนที่ ทำเอาหลายๆ คนขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ วันนี้เราจึงนัดพูดคุยกับ “สาวมิ้นท์-อรรถวดี” และ “หนุ่มเคน-ณัฐภัทร” บุตรสาวและบุตรชายของ “คุณสุทิน” กับ “คุณสุชัญญา ธนาลงกรณ์” ที่เข้ามาช่วยเสริมทัพลุยธุรกิจ ถึงการก้าวเดินในบทบาทใหม่นี้ของครอบครัวจิรมณีกุล

:: จุดกำเนิด S.T. Dimension

“แต่ก่อนคุณพ่อจะทำธุรกิจร่วมกับคุณลุง (ชัยยศ เอี่ยมอมรพันธ์) ในนามบริษัท แฟรงก์ ซึ่งให้เกียรติใช้ชื่อ “แฟรงก์” ของคุณลุงซึ่งอาวุโสกว่าเป็นชื่อบริษัท โดยคุณพ่อจะทำงานอยู่แต่เบื้องหลัง จนเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาเกิดการเปลี่ยนแปลง คุณพ่อก้าวมาทำเองแบบเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์

ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ผมเริ่มเข้ามาช่วยงาน เราก็เลยได้ช่วยออกไอเดียในการทำแบรนดิ้งใหม่ โดยผมเสนอคำว่า S.T. Dimension เพราะผมมองหาอะไรที่มันสื่อถึงคุณพ่อ ก็เอา S.T ที่ย่อมาจากสุทินมาใช้ ส่วน Dimension หรือมิติ มาจากตัวผลิตภัณฑ์ที่เราขาย มันคือเรือนเวลา บอกเวลา ซึ่งเป็นมิติที่ 4 ที่มันก็ยังสามารถสื่อถึงมิติใหม่ของร้านที่เราจะนำเสนอด้วย” ณัฐภัทร กล่าว

ปัจจุบัน S.T. Dimension ก็เพิ่งเปิดบูติกใหม่ที่สยามพารากอน ในคอนเซ็ปต์ Luxury at Home ที่ให้ความรู้สึกแบบหรูหราและเป็นกันเอง เป็นร้านขายสินค้าลักชูรีที่คนเดินเข้ามาซื้อแบบไม่ต้องเดินตัวเกร็ง ไม่กล้าเข้าร้าน มีจำหน่ายนาฬิกาหลายแบรนด์ อาทิ เพียเจต์, บลองแปง, แมตเตรอส์ ดู ตอมป์ส, หลุยส์ เออราร์ด, ทิฟฟานี, โบร์ม แอนด์ เมอร์ซิเออร์, ราล์ฟ ลอเรน ฯลฯ

โดยนอกจากธุรกิจนาฬิกาแล้ว ครอบครัวนี้ยังมีธุรกิจอื่นๆ ในเครือ โดยสาวมิ้นท์- เล่าให้ฟังว่า “นอกจาก S.T. Dimension แล้ว เรายังมี S.T. Diamond ธุรกิจจิวเวลรี่ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีโครงการบ้านเดี่ยว คอนโดและอพาร์ตเมนต์ให้เช่า ซึ่งตอนนี้มิ้นท์และเคนเข้ามาช่วยดูแลในส่วนของนาฬิกา ส่วนน้องคิด (คงภัทร จิรมณีกุล) น้องชายคนเล็กที่เพิ่งจบปริญญาโทด้านธุรกิจกลับมาเมืองไทย เขาจะมุ่งไปทางอสังหาริมทรัพย์มากกว่า โดยตอนนี้เพิ่งเริ่มทำงานที่แสนสิริ”

:: ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น

เรียกได้ว่าทายาทบ้านนี้ได้สายเลือดนักธุรกิจสืบทอดกันมาอย่างเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงดูในครอบครัว เสริมด้วยการศึกษาใน Businees School ทั้ง 3 พี่น้อง แต่ถึงแม้จะคลุกคลีกับธุรกิจมาแต่เล็กแต่น้อยแบบนี้ หนุ่มเคนกลับแอบสารภาพให้เราฟังว่าเพิ่งจะมารักและผูกพันกับกิจการก็ตอนก้าวเข้ามารับตำแหน่งเต็มตัว

“ตอนเด็ก การต้องมาช่วยงานครอบครัวนี้ ผมถือว่าเป็นการโดนลงโทษนะ เพราะจะโดนบังคับไปช่วยตอนบูทงานแฟร์ เป็นเหมือนสตาฟฟ์คนหนึ่ง ได้ค่าแรงวันละ 200 บาท งานหนักมากๆ เราเลยไม่รู้สึกเอนจอยกับมัน”

จนกระทั่งเรียนจบและกลับมาช่วยงาน ได้เรียนรู้ ศึกษาเรื่องของนาฬิกาอย่างละเอียดแล้ว หนุ่มน้อยคนนี้จึงตกหลุมรักในงานที่ทำ เรียกได้ว่าทุ่มเทชีวิตและเวลาให้กับการทำงานเต็มที่

“ผมก้าวเข้ามาทำงานตอนอายุ 23 ปี คือหลังจากเรียนจบและไปทำงานกับเอเยนซีโฆษณาอยู่เกือบปี ซึ่งที่จริงคุณพ่อวางไว้ว่าอยากให้เราเข้ามาช่วยตอนอายุ 30 ปี ให้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ข้างนอกก่อน แต่ผมเห็นต่าง เพราะผมคิดว่ายังไงปลายทางเราก็ต้องมาอยู่ตรงนี้ ถ้าเราเริ่มเร็ว เราก็ได้เรียนรู้ก่อน ได้เปรียบกว่า ถ้าถึงอายุ 30 แล้วค่อยมาเริ่ม ตอนนี้เท่ากับผมกำไรไปล่วงหน้า 7 ปีแล้วนะ”

โดยช่วงแรกที่เข้ามาทำ หนุ่มเคนเริ่มจากการเรียนรู้ทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องภายในองค์กร ตลาด ลูกค้า ศึกษาแบรนด์ต่างๆ และระบบกลไกของนาฬิกาทั้งหมดอยู่กว่าปี ก่อนจะต้องรับบทหนักในการช่วยปรับเปลี่ยน รีแบรนดิ้งองค์กร แบบที่เรียกได้ว่าเหมือนกับตั้งบริษัทใหม่ก็ว่าได้

“ต้องดูตั้งแต่การวางทิศทางของบริษัท คอนเซ็ปต์ การปรับร้านใหม่ รายละเอียดทุกอย่าง รวมไปถึงการฟอร์มทีมพนักงาน จากแต่ก่อนตอนเป็น แฟรงก์ จะดูแบบเป็น One Man Show เจ้าของร้านขายเองปิดดีลเอง ตอนนี้ผมพยายามทำทีม คัดสรรเอง เทรนด์พนักงานเอง ตอนนี้ถึงผมไม่อยู่ พนักงานก็สามารถขายได้”

:: ครอบครัวนักธุรกิจเต็มขั้น

ด้านสาวมิ้นท์ที่เข้ามาช่วยผนึก ช่วยงานกับน้องชายกล่าวว่า “ปัจจุบันก็ช่วยปรึกษา ดูแลงานในทุกส่วน แต่มิ้นท์จะเน้นทางด้านประชาสัมพันธ์มากหน่อย กับอะไรๆ ที่มันเป็นศิลปะ พวกสีสัน รายละเอียด แต่ก็ไม่ได้แยกเด่นชัดว่าใครดูอะไรด้านไหน เราก็ช่วยกันทำงานมากกว่า ซึ่งคุณพ่อเองก็ยังลุยงานด้วย คอยดูภาพรวม ตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ และให้คำปรึกษาพวกเรา ท่านเป็นคนชอบทำงาน คงไม่มีทางเกษียณตัวเองไปได้ คงจะค่อยๆ ทำงานน้อยลง ปล่อยให้เราได้ลงมือมากขึ้น แต่ไม่มีทางที่จะตัดทิ้งไปได้แน่ๆ

ทำงานเป็นธุรกิจครอบครัวแบบนี้ มิ้นท์บอกว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย คือ “มีคนช่วยคิด ช่วยตัดสินใจ ให้คำปรึกษา แต่ข้อเสียคือ มันเหมือนทำงานตลอดเวลา เพราะแทนที่เรากลับบ้านไปจะได้ผ่อนคลาย ทิ้งปัญหาไว้ที่ทำงาน แต่อยู่บ้านเราก็ยังคุยกันเรื่องงาน กินข้าวยังคุยเลย ก็เลยต้องตกลงกันเลยว่า อยู่บ้านไม่ให้คุยเรื่องงานแล้วนะ ขอพักบ้าง(หัวเราะ)”

การมีคุณพ่อคอยช่วยดูแลให้คำปรึกษาแม้จะเป็นสิ่งที่ดี แต่หนุ่มเคนก็แอบบ่นนิดหน่อย ด้วยความเป็นเด็กมั่นใจ ที่อยากทำอะไรในแบบของตัวเอง ซึ่งอาจจะขัดกับคำชี้แนะของคุณพ่อ

“ผมเข้าใจนะว่าท่านมีประสบการณ์มาก่อน ผ่านเรื่องพวกนี้มาแล้ว เขาก็คงอยากให้เราเดินได้อย่างราบลื่นบนเส้นทางที่เขาปูไว้แล้ว แต่ผมก็อยากแอบดื้อบ้าง เพราะเราอยากเรียนรู้มันด้วยตนเอง ถ้าเราไม่ได้ล้ม ไม่ได้ลองลุกเอง เราก็คงไม่ได้เรียนรู้ ไม่มีประสบการณ์มาเป็นบทเรียนต่อไปในอนาคต” หนุ่มเคน

:: ทายาทหนุ่มผู้เข้ามาสานงานต่อ

ณัฐภัทรแบ่งปันประสบการณ์ในฐานะ ผู้บริหารรุ่นลูกที่เข้ามารับช่วงต่อช่วบริหารธุรกิจครอบครัวให้เราฟังว่า

“การมาทำงานตรงนี้มันต่างจากเวลาเราทำงานบริษัททั่วไป ที่คุณไม่พอใจก็ลาออกได้ เพราะเราคือผู้บริหาร เป็นเจ้าของ ดังนั้นเราจะคิดถึงแต่ตัวเองไม่ได้ คนทำงานปรกติอาจจะมองแค่ว่า เราจะอะไร ทำงานไปคุ้มไหม เห็นแต่ตัวเองเป็นสำคัญ แต่พอมาอยู่จุดนี้ คุณจะทำอะไรต้องสวมหมวกหลายใบ ต้องคิดว่าคนอื่นจะเป็นยังไง ลูกน้องจะโอเค แฮปปี้หรือเปล่า เพราะทุกอย่างต้องดูเป็นภาพรวม ที่มันส่งผลถึงองค์กรทั้งหมด เราต้องทำให้มันสมดุลให้ได้”

นอกจากนี้ หนุ่มเคนยังบอกด้วยว่า ตำแหน่งที่คุณได้รับมัน ไม่ใช่สิ่งสำคัญเลย เพราะในฐานะทายาท คุณอาจจะเข้ามาแล้วก้าวมาเป็นรองประธานหรือกรรมการบริษัทในเวลาแค่ชั่วข้ามคืน แต่สิ่งนั้นมันจะเป็นแค่ตัวอักษรที่เขียนอยู่ในนามบัตร และไม่มีค่าอะไร ถ้าคุณไม่ได้ลงมือทำงานจริงๆ

“แม้ปัจจุบันนี้ผมกับพี่มิ้นท์จะมีตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมการ แต่ผมไม่เคยให้ความสำคัญกับตรงนั้น เพราะผมถือว่าตำแหน่งไม่ได้บอกถึงการทำงานของเรา แต่การทำงานของเราต่างหากที่จะบอกว่าเรามีตำแหน่งอะไรกันแน่ คนในบริษัทเขาจะเคารพหรือเชื่อฟัง เชื่อมั่นในตัวเราก็เพราะสิ่งที่เราทำให้เขาเห็นมากกว่า”

:: อีกมิติหนึ่งของนักร้องสาวเสียงทอง

ใครๆ ก็ดูจะคุ้นชินกับ มิ้นท์-อรรถวดี ในภาพลักษณ์นักร้องสาวไฮโซเสียงดี แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเธอคือ สาวนักธุรกิจเต็มตัว ที่คว้าปริญญาด้านธุรกิจระหว่างประเทศจาก European Business School ประเทศอังกฤษ ที่ตอนนี้นอกจากเธอจะมาช่วยงานกิจการที่บ้านอย่างเต็มตัวแล้ว เธอยังเป็นสาวใฝ่รู้ที่สรรหาคอร์สเรียนเพิ่มพูนประสบการณ์ชีวิต และพัฒนาความสามารถของตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง

“ตอนนี้มิ้นท์กำลังเรียนคอร์ส ผู้นำยุคใหม่ในระบอบประชาธิปไตย ของสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้เธอ

“ในคอร์สจะมีคนจากหลากหลายวงการ ตั้งแต่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พนักงานเอกชน ไปจนถึงนักศึกษา นักธุรกิจรุ่นใหม่ ทำให้เราได้มีเพื่อนที่แบ่งปันประสบการณ์กับเราได้ในหลายๆ แบบ เหมือนได้เรียนรู้สังคม และวิทยากรทุกท่านที่เขาเชิญมาให้ความรู้ ก็ต่างเป็นบุคคลที่น่าสนใจ ที่มีสิ่งต่างๆ ให้เราได้ศึกษาเรียนรู้มากมาย

ขนาดตอนยังไม่เปิดคอร์ส มิ้นท์ก็ประทับใจแล้ว เพราะเขามีการเข้าค่ายให้ทุกคนในคอร์สไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในค่ายลูกเสือ 5 วัน 4 คืน เป็นการเข้าค่ายลูกเสือครั้งแรกในชีวิตของมิ้นท์ เพราะไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็ก เราก็จะตื่นตาตื่นใจมาก มีกิจกรรมมากมาย ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันหลายวัน ทำให้เราสนิทกับเพื่อนๆ มากขึ้น

ที่สำคัญพอกลับมาแล้วมิ้นท์รู้สึกมองโลกเปลี่ยนไปเลย เพราะไปอยู่ตรงนั้นมันไม่ได้สบาย ต้องทำทุกอย่างเอง จุดเตาไฟทำกับข้าวเอง พอกลับมาบ้าน สิ่งธรรมดาอย่างแค่เครื่องปรับอากาศ เราก็รู้สึกถึงค่าของมันมากขึ้น ว่าที่จริงชีวิตเราสบายนะ หรือการมีคนทำนู่นนี่ให้ เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีอย่างเรา มันทำให้เราฉุกคิดและเห็นคุณค่าอะไรหลายๆ อย่างในชีวิตของเรามากขึ้น”

ได้เห็นหนุ่มสาวคลื่นลูกใหม่ในแวดวงธุรกิจอย่าง 2 คนนี้แล้ว ทำให้เรานึกถึงคำพูดที่ว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เชื่อได้ว่าในอนาคตเราจะเห็นธุรกิจครอบครัวจิรมณีกุลที่ผลัดมือจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูกเติบโตพัฒนาไปอย่างมั่นคงเป็นแน่ :: Text by FLASH

Credit
นางแบบ :: อรรถวดี จิรมณีกุล
นายแบบ :: ณัฐภัทร จิรมณีกุล
เครื่องประดับ :: อรรถวดี สวมนาฬิกา Ralph Lauren Stirrup Pinkgold Medium Size มีจำหน่ายที่ S.T. Dimension Watch Boutique ชั้น M สยามพารากอน ชอปปิ้ง เซ็นเตอร์ โทรศัพท์ 0-2610-9678, ณัฐภัทร สวมนาฬิกา Piaget Polo 45 Skeleton Limited Editon มีจำหน่ายที่ Piaget Boutique ชั้น M สยามพารากอน ชอปปิ้ง เซ็นเตอร์ โทรศัพท์ 0-2610-9678
แต่งหน้า :: จีรวัฒน์ วรรธนะวิริยะกุล จากเครื่องสำอางลังโคม (LANCOME) โทรศัพท์ 0-2684-3000
สถานที่ :: S.T. Dimension Watch Boutique ชั้น M สยามพารากอน ชอปปิ้ง เซ็นเตอร์ โทรศัพท์ 0-2610-9678
ช่างภาพวิดีโอ :: ภาสกร โตวณะบุตร
ช่างภาพ :: กมลภัทร พงศ์สุวรรณ



 
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net
กำลังโหลดความคิดเห็น