เดี๋ยวนี้ “ขนมไหว้พระจันทร์” ไม่เพียงแต่ จะขายดิบขายดีในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 12 กันยายนเท่านั้น แต่กลับขายดีตลอดเดือนกว่าๆ ก่อนจะถึงวันไหว้เสียอีก เพราะด้วยความอร่อยและรูปแบบที่หลากหลาย รวมถึงมีการพัฒนาไส้เพิ่มขึ้น จึงทำให้ขนมลูกกลมๆ ใบนี้ กลายมาเป็นของฝากที่ซื้อไปกำนัลผู้ใหญ่ ญาติสนิทมิตรสหายกันอย่างแพร่หลาย
เส้นทางของขนมไหว้พระจันทร์ เดินทางมายาวนานถึง 600 ปีที่ประเทศจีน แล้วข้ามน้ำข้ามทะเลมาสู่เมืองไทยเมื่อประมาณ 70 กว่าปีนี้เอง แต่เดิมนั้น ขนมไหว้พระจันทร์มีเพียงไม่กี่ไส้เท่านั้นคือ ไส้ลูกบัว ไส้ทุเรียน ไส้โหงวยิ้ง ไส้ถั่วดำ เป้นต้น
เมื่อก่อนเวลาจะซื้อขนมไหว้พระจันทร์ ก็ต้องรอให้ถึงช่วงเทศกาลเสียก่อน และจะต้องไปหาซื้อกันย่านเยาวราช ที่มีภัตตาคารเก่าแก่อย่าง กกจี่เหลา,ไล้กี่,ห้อยเทียนเหลา ที่ทำขนมประเภทนี้โดยฝีมือเชฟที่มาจากเมืองจีนเท่านั้น เพราะความยากของขนมไหว้พระจันทร์นั้น อยู่ที่ “น้ำเชื่อม” ที่นำมาใช้เป็นหัวเชื้อในการทำเปลือกห่อขนม ถ้าน้ำเชื่อมดี เมื่อผสมกับแป้งแล้วจะสามารถปั้นเปลือกที่มาห่อไส้ขนมได้บาง และเมื่ออบแล้วให้สีสันสวยงามอีกด้วย
ปัจจุบันขนมไหว้พระจันทร์กลายเป็นขนมเศรษฐกิจไปแล้ว เพราะแต่ละปีมีมูลค่าการตลาดหลายร้อยล้านบาท จึงทำให้มีร้านอาหาร โรงแรมและภัตตาคารหลายแห่ง ที่ลุกขึ้นมาทำขนมประเภทนี้แข่งกัน ช่วยให้ขนมก้อนเล็กๆ นี้มีสีสันที่สนุกสนานน่าลิ้มลองมากยิ่งขึ้น มีการพัฒนาสูตรไส้แปลกใหม่เพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่ รวมถึงการปรับปรุงกล่องบรรจุขนมให้เกิดความสวยงาม
ปีนี้สีสันของขนมไหว้พระจันทร์ ก็เริ่มออกตัวมาตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมแล้ว ไอเดียที่รังสรรค์ไส้ขนมไหม่ๆ ของปีนี้ก็มีหลายเจ้า แต่จะไม่ฉีกแนวหลุดไปเหมือนเมื่อหลายปีก่อน เพราะพิสูจน์แล้วว่า ถ้าแปลกแหวกแนวเกินไป แม้แต่กลุ่มคนรุ่นใหม่ก็ยังไม่กินเลย แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่าเทรนด์รักสุขภาพเริ่มมาแรงดังนั้นบางหลาย ๆ ยี่ห้อจึงขอเกาะกระแสนำชาเขียวบ้าง งาดำบ้าง หรือสาหร่ายมาใช้เป็นส่วนผสมสำหรับมาเอาใจคนรักสุขภาพแต่อดไม่ได้ที่ยังอยากจะลิ้มลองขนมหวานอยู่
และปีนี้แต่ละรายจะมีทีเด็ดอะไรมาโชว์กันบ้าง ลองติดตามดู
กอกใจ เป็นผู้ผลิตขนมไหว้พระจันทร์เก่าแก่ ที่มาจากภัตตาคารกกจี่เหลา ขึ้นชื่อในเรื่องไส้ลูกบัวที่ใช้ลูกบัวสดๆ มานึ่งและบดเอง จะได้ไส้ลูกบัวเนื้อเนียนกลิ่มหอมละมุน ปีนี้ภูมิใจนำเสนอ “ไส้นพเก้า” ซึ่งฉีกแนวจากไส้โหงวยิ้ง สำหรับคนที่ไม่ชอบกินหวานแล้วน่าจะถูกใจ ไส้ใหม่นี้มีรสหวานอมเปรี้ยว เหมาะกับคนรักสุขภาพ เพราะประกอบด้วย อัลมอนด์สไลด์ กวยจี้ มะม่วงหิมพานต์ แอปเปิ้ล และลูกพรุน นอกจากนี้ ก็ยังมี ชาเขียวงาดำ และลูกบัวแมคคาเดเมีย ที่ใส่ลงไปทั้งเม็ด ตอนกัดลงไปจะได้เคี้ยวเนื้อแมคคาเดเมียได้อร่อยอีกด้วย
โคคา ปีนี้ได้กุ๊กฝีมือดีจากฮ่องกง ที่เก่งทางด้านทำขนมมากว่า 40 ปี มาช่วยปรับปรุงทั้งแป้งและไส้ จึงได้เปลือกขนมที่บางนุ่ม โดยเฉพาะ ไส้ลูกบัว ที่ใช้เครื่องบดที่ละเอียดมาก จะทำให้เนื้อเนียนเหนียวอร่อย และไส้คัสตาดที่ใช้สูตรเดียวกับที่มาเก๊า ส่วนที่แปลกคือ การทำขนมไหว้พระจันทร์ตำรับแต้จิ๋ว ที่หน้าตาแปลกกว่าตำรับกวางตุ้งที่ขายในท้องตลาด โดยใช้แป้งขนมเปี๊ยะที่พับเป็นชั้นๆ แล้วใส่ไส้ที่มีให้เลือก 4 แบบคือ เกาลัด เผือก มันเทศเกาหลี และลูกบัว กรรมวิธีในการทำนั้น จะต้องใช้มือล้วนๆ ไม่ใช้เครื่องจักรใดๆ เลย
ถ้าพูดถึง ขนมไหว้พระจันทร์แบบบัวหิมะ ต้องยกให้ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ เป็นต้นตำรับ เชฟฮ่องกง เหล่า ชิ หว่อง บอกว่า ปีนี้เอาใจคนรักสุขภาพ ด้วย “ขนมไหว้พระจันทร์” เทรนด์ใหม่...อร่อยมีประโยชน์ต่อสุขภาพ อาทิ บัวหิมะฟักทอง-เมล็ดแตงโม, บัวหิมะชาเขียว-ถั่วแดง, บัวหิมะครีมใบเตย-แปะก๊วย ซึ่งแต่ละอย่างนอกจากอร่อยแล้ว ยังให้คุณประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น “ฟักทอง” อุดมด้วยวิตามินเอ รวมทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามิน รวมทั้ง “เบต้าแคโรทีน” ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการเกิดมะเร็ง และโรคหัวใจ “เมล็ดแตงโม” อุดมด้วยวิตามินเอ วิตามินบี 1 บี 2 แร่ธาตุสังกะสี แคลเซียม ช่วยลดคอเลสเตอรอล
ส่วนใครอยากลิ้มลองสไตล์ฝรั่ง ก็ลองแวะไป โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ เชฟอูสร์ โรห์บาช หัวหน้าพ่อครัวเบเกอรี่ชาวสวิสของโรงแรม ขอแข่งกับเชฟจีน ด้วยไส้ชีสชาเขียว และเมล็ดบัว ไส้ครีมชีสและช็อกโกแลตชิฟ ไส้มอคค่าชีส หรือจะลองเป็นไส้สตรอเบอรี่ชีส ราคา 120 บาท/ชิ้น หรือ กล่องละ 4 ชิ้น ราคา 480 บาท ส่วนใครที่ชื่นชอบช็อกโกแลตเป็นชีวิตจิตใจ เชฟอูสร์เตรียมสูตรใหม่ทำจากช็อกโกแลต ไม่ว่าจะเป็นดาร์กช็อกโกแลตสอดไส้ถั่วพิสตาชิโอ อมารีน่าช็อกโกแลต คารา-เมลซีซอลท์ช็อกโกแลต และซาเคอร์ ทาร์ตช็อกโกแลต ราคา120 บาท/ชิ้น หรือ กล่องละ 4 ชิ้น ราคา 480 บาท
เชฟแจ็คกี้ โฮ จากโรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ ปีนี้เตรียมขนมไหว้พระจันทร์อันสูตรเด็ดของที่ร้านคือไส้คัสตาร์ดไข่แดงและไส้เม็ดบัวไว้กว่า 128,000 ชิ้น (เฉลี่ยวันละ 3,000 ชิ้น) โดยใช้ส่วนผสมรวมทั้งสิ้นกว่า 25 ตันโดยจะผลิตแบบสดใหม่ทุกวันต้อนรับเทศกาลนี้ สำหรับใครที่ชื่นชอบไส้คัสตาร์ดไข่รสชาติหวานมันสุด ๆ แล้วต้องเลือกของที่นี่จะอร่อยโดนใจมาก
โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ทีมพ่อครัวผลิตขนมไหว้พระจันทร์ตำรับกวางตุ้งใหม่สดจากเตาอบทุกวัน นำเสนอ 4 ไส้ยอดนิยม คือ ไส้ครีมคัสตาร์ด ไส้ทุเรียน ไส้เม็ดบัว และ ไส้โหงวยิ้ง กล่องบรรจุสำหรับ 4 และ 8 ชิ้น ในราคาตั้งแต่กล่องละ 348-688 บาท และสำหรับกล่องนั้นดีไซน์สุดหรูรุ่นลิมิเต็ดฉลองครบรอบ 8 ปี สำหรับ 8 ชิ้น ราคากล่องละ 1,888 บาท
โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯเป็นขนมไหว้พระจันทร์อีกรายหนึ่งที่อร่อยจนคิวจองยาว ปีนี้มีไส้แปลกสุดๆ คือ เปลือกหิมะไส้สาหร่าย ที่มีรสกลมกล่อมและให้คุณค่าของสารอาหารจากทะเล บรรจุในกล่องสวยหรู 6 ชิ้น จำหน่ายให้แขก พร้อมขนมไหว้พระจันทร์ที่เลื่องชื่อรสชาติอื่นๆ ได้แก่ ไส้โหงวยิ้ง ไส้ทุเรียน ไส้ลูกบัว ไส้ถั่วแดง ไส้ครีม และรสชาติยอดนิยมที่แขกชื่นชอบ ขนมไหว้พระจันทร์เปลือกหิมะไส้ครีมรังนก
โรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ มีทั้ง ไส้เม็ดบัว, เม็ดบัว-ไข่เดี่ยว, พุทราแดง, พุทราแดง-ไข่เดี่ยว, ทุเรียน, ทุเรียน-ไข่เดี่ยว, ช็อกโกแลต และเกาลัด บรรจุในกล่องแพกเกจจิงสุดหรู ในแบบ 1 ชิ้น และ 4ชิ้น ให้เลือกซื้อเป็นของฝากในเทศกาลไหว้พระจันทร์ปีนี้ ที่ กูร์มองดิส คาเฟ่ & เบเกอรี่
แอมเวย์ แนะนำขนมไหว้พระจันทร์ระดับพรีเมียมจาก ยูเอฟเอ็ม ที่ปีนี้มีไส้แปลกใหม่นำเสนอ 2 ไส้คือ ไส้เผือกทรงเครื่อง และ ไส้งาดำ บรรจุในกล่องสวยสีทองและกล่องมีชมพูให้เลือกสั่งซื้อได้ที่ 0-2725-8000
โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต ทำขนมไหว้พระจันทร์ตำรับกวางตุ้ง 4 ไส้ยอดนิยม คือ ไส้ทุเรียน ไส้เม็ดบัว ไส้เผือก และไส้ครีมคัสตาร์ด ทุกไส้มีไข่แดง ผลิตใหม่สดทุกวันโดยทีมเชฟจากห้องอาหารจีนโกลเด่น วิลเลจ มีให้เลือกทั้งแบบอบตามต้นตำรับและแบบบัวหิมะ ราคา9 ชิ้นเล็ก 699 บาท และ 4 ชิ้นใหญ่ 599 บาท สั่งจองได้ที่ 02-131-1111
ส่วนค่ายเอสซีจี เปเปอร์ งานนี้ขอเกาะเกี่ยวกระแสด้วยการจัดชุด Thanking The Moon เป็นชุดขนมไหว้พระจันทร์ในกล่องรูปโคมไฟมงคลของจีน ตัวกล่องทำจากกระดาษบรรจุภัณฑ์เกรด KA สีเหลืองทอง ใช้เทคนิคการพิมพ์ปั๊มฟอยล์ ทำให้บรรจุภัณฑ์มีความเงางามและแวววาวเหมือนโคมไฟจริง ๆ ภายในประกอบด้วยขนมไหว้พระจันทร์ 8 ชิ้น 4 รสชาติ คือคัสตาร์ด ทุเรียนหมอนทอง ลูกบัวไข่แดง และรส 9 มหามงคล เหมาะแก่การมอบเป็นของขวัญ ในราคาชุดละ 370 บาท สั่งจองได้ที่คุณอัชฌา บริษัท สยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด โทร .2-586-3456
ปิดท้ายด้วยขนมไหว้พระจันทร์เจ้ายักษ์ใหญ่อย่าง S&P ที่นำเสนอไส้ใหม่สำหรับปีนี้คือ ไส้บัวทองสูตรน้ำตาลน้อย ไส้แครนเบอรี่สูตรน้ำตาลน้อย ลูกพรุน งาดำ และเพอร์เพิลเบอร์รี่บัว ส่วน “มังกรทอง” ซึ่งเป็นอีกยี่ห้อหนึ่งภายใต้การบริหารของ S&P ปีนี้มีของแปลกใหม่คือไส้กุนเชียงฮ่องเต้ ที่คัดสรรกุนเชียงคุณภาพดีที่ไม่มีมันหมู มาปรุงรสให้กลมกล่อม ด้วยเครื่องเทศ 6 ชนิด คือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดแตงโม เมล็ดงา พริกไทย หอมแดงและเกลือ แล้วนำมาอบด้วยแป้งต้นตำรับแบบหวานน้อย กินคู่กับน้ำชาร้อน ๆ แสนจะอร่อย
ใครที่ชอบไส้ไหนแบบไหนก็ไปซื้อหามากินกันได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป
ชิมโดย : ปราณ ชีวิน
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
