xs
xsm
sm
md
lg

2 กูรูเผยเคล็ดลับการสร้างสรรค์กลิ่นหอมของชาให้เหมาะกับบุคลิก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>> "นรีรัตน์ เตลาน" ผู้จัดการทั่วไปผลิตภัณฑ์ "โจ มาโลน" จัดเอกซ์คลูซีฟทีปาร์ตี้แนะนำผลิตภัณฑ์เครื่องหอมโจ มาโลนคอลเลกชั่นใหม่ “Tea Fragrance Blends” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมการดื่มชาของชาวอังกฤษ ที่เซนต์ รีจีส บาร์ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจีส

กลิ่นหอมจากโคโลญจน์คอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด Tea Fragrance Blends ได้รับไอเดียมาจากประเพณีดั้งเดิมในการดื่มชาของชาวอังกฤษและมาตีความถ่ายทอดอย่างสร้างสรรค์ จนกลายมาเป็นความหอมร่วมสมัยตามแบบฉบับเฉพาะตัวของ โจ มาโลน ที่ทำให้ได้รู้สึกถึงกลิ่นอายของวัฒนธรรมการดื่มชายามบ่ายกับ 5 กลิ่นหอมอันน่าประทับใจของ โจ มาโลน โคโลญจน์ กลิ่น Assam & Grapefruit, Earl Grey & Cucumber, Fresh Mint Leaf, Sweet Lemon และ Sweet Milk ที่สามารถนำไปผสมผสานปรุงกลิ่นได้ตามรสนิยมและความชอบเพื่อสร้างกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ภายในงานสาวผู้หลงใหลศาสตร์แห่งการชงชา พิมชนก พลางกูร และกูรูเรื่องไลฟ์สไตล์ พลอย จริยะเวช ได้มาร่วมพูดคุยในเรื่องของการดื่มชา และการผสมผสานกลิ่นหอมที่ได้แรงบันดาลใจจากการดื่มชาให้เข้ากับบุคลิกของแต่ละคน

พิมชนก พลางกูร เจ้าของแบรนด์ชา No.57 ผู้หลงใหลในกลิ่นหอมและการดื่มชามาเผยความรู้ด้านการดื่มชาซึ่งเป็นวัฒนธรรมสุดคลาสสิคที่สืบทอดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ว่า “การดื่มชาในช่วงเวลาต่างๆ นั้นไม่มีความตายตัวแต่อยู่ที่ความชอบและรสนิยมของผู้ดื่ม แต่ที่อยากแนะนำคือการดื่มชาในช่วงเช้า ควรเป็นชาที่ให้ความรู้สึกที่เข้มข้นอย่างชาดำ อาจนำมาผสมผสานกับเกรปฟรุตที่ให้ความรู้สึกที่สดชื่น เหมาะเป็นสัญญาณการเริ่มต้นของวันใหม่ได้เป็นอย่างดี

สำหรับในช่วงบ่ายซึ่งเป็นช่วงเวลาเราเริ่มเหนื่อยล้ากับการทำงาน การดื่มเอิร์ลเกรย์กับของว่างยามบ่ายอย่างคิวคัมเบอร์ แซนวิชซึ่งเป็นแซนวิชเย็นก็จะเพิ่มความกระปรี่กระเปร่าให้กับยามบ่ายนั้นได้ ในยามเย็นชาที่เหมาะสมควรเป็นชาที่มีปริมาณคาเฟอีนน้อยลงเช่นดื่มกลิ่นมิ้นต์หลังมื้ออาหารที่ช่วยการทำงานของระบบย่อยอาหาร อีกทั้งยังเหมาะกับการดื่มก่อนเข้านอนจะช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น”


ด้านคอลัมนิสต์และไลฟ์สไตล์กูรูชื่อดัง พลอย จริยะเวช ได้นำไลฟ์สไตล์ของการดื่มชามาผสมผสานกับความพิเศษของผลิตภัณฑ์เครื่องหอมของ โจ มาโลน ที่สามารถปรุงแต่งกลิ่นเองได้ตามความชอบและบุคลิกของแต่ละคน

“ชาเป็นเครื่องดื่มที่มีความพิเศษคือสามารถผสมผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้หลากหลายรูปแบบตามกลิ่นหอมของชา อีกทั้งยังสามารถเลือกให้เหมาะกับช่วงเวลาต่างๆ ของวัน เช่นเดียวกับกลิ่นหอมใหม่ของโจ มาโลน ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้เข้ากับบุคลิก อารมณ์ของผู้ใช้ และช่วงเวลาต่างๆ ได้อย่างลงตัว

อย่างกลิ่นที่บ่งบอกถึงช่วงเวลาเช้า คือ กลิ่นอัสสัมทีและเกรปฟรุต (Assam and Grapefruit Cologne) ที่ได้จากการระเหยของชาอัสสัมในน้ำร้อนผสมผสานกับความสดชื่นจากเกรปฟรุตก็จะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้เราพร้อมสู่การทำงานในตอนเช้า ส่วนในช่วงบ่ายโจ มาโลนก็ได้ตีความวัฒนธรรมการดื่มชายามบ่ายออกมาในรูปแบบกลิ่นหอมเย็นแบบแตงกวาผสมกับเอิร์ลเกรย์ ได้เป็นกลิ่นเอิร์ลเกรย์ และคิวคัมเบอร์ (Earl Grey and Cucumber Cologne) ที่มอบความสดชื่นในยามบ่ายให้ความรู้สึกพร้อมกับการทำงานต่อไปได้ตลอดทั้งวัน

สำหรับช่วงเย็นจะเป็นกลิ่นเฟรช มินต์ลีฟส์ (Fresh Mint Leaf Cologne) ที่ให้กลิ่นกรุ่นหอม โดยส่วนตัวพลอยชอบกลิ่นนี้เป็นพิเศษอย่างเวลาเราไปงานเลี้ยงตอนกลางคืน หรือไปที่มีควันบุหรี่กลิ่นนี้ก็จะช่วยลดกลิ่นต่างๆ ได้ดี ยิ่งในโจ มาโลนจะมีส่วนผสมของสนที่ได้จากการขยี้ใบสนสดๆ ทำให้ได้กลิ่นที่สดชื่นมากเป็นพิเศษอีกด้วย”


การดื่มชาก็เปรียบเสมือนแฟชั่นที่เราสามารถเลือกดื่มได้ตามความชอบส่วนตัว น้ำหอมก็เช่นกัน สามารถบ่งบอกถึงตัวตน ความรู้สึก และความชอบส่วนบุคคลได้...

 
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net












กำลังโหลดความคิดเห็น