xs
xsm
sm
md
lg

RYU Shabu Shabu บุฟเฟ่ต์สุดคุ้ม 299 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แม้จะมีกระแสอาหารทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใหม่ๆ เกิดขึ้นมา แต่ชาบู-ชาบู หรือHot Pot ก็ยังคงครองใจนักชิมคนไทยไม่เสื่อมคลาย ยิ่งเดี๋ยวนี้ ชาบู ชาบู ดัดแปลงมาเป็นบุฟเฟ่ต์ในราคาเหมาจ่าย ยิ่งถูกใจคนไทยยิ่งนัก
บุฟเฟ่ต์ชาบูมี 2 ระดับแบ่งตามราคา ถ้าราคาประมาณหัวละ 500 บาทนั้น วัตถุดิบจะเป็นเนื้อนอกสมราคา ส่วนราคาประมาณ 300 กว่าบาท จะใช้เนื้อในประเทศ แต่คัดเกรดขึ้นมาดีกว่าหมูกระทะที่ราคาร้อยกว่าบาท ที่ใช้เนื้อตามเขียง
ชาบู มาเมืองไทยเมื่อสมัย อากร ฮุนตระกูล ทำ โรงแรมอิมพีเรียล ยุคแรกๆ ที่ถนนวิทยุ ตอนนั้นทำเป็นบุฟเฟ่ต์ ถ้าจำไม่ผิดราคาคนละ 500 บาท++ ราคาสูงขนาดนี้ยังขายดีมากๆ ผู้เขียนจำได้ว่าตื่นเต้นกับเนื้อวัวชิ้นใหญ่ๆ ที่ฟรีซจนแข็งแล้วนำมาสไลด์ด้วยเครื่องเป็นแผ่นบางๆ เห็นลายหินอ่อนของเนื้อสีชมพูสลับกับมันสีขาว จากนั้นก็นำมาจุ่มน้ำซุปที่กำลังเดือดจัด ก่อนจะส่งเข้าปากเคี้ยว จะได้รสชาติความหวานหอมของเนื้อวัวอร่อยจริงๆ
ความจริง ชาบู ก็ฮิตมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ตอนนี้เริ่มมีคนนำชาบูตำรับโอซากามาเผยแพร่มากขึ้น ทั้งนี้ เพราะชาบูของญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน และถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อศตวรรษที่ 20 ที่ร้าน Suehiro ที่เมืองโอซากา และได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง จนกลายเป็นวัฒนธรรมชาบูเผยแพร่ไปทั่วโลก

ล่าสุด ที่เพิ่งเปิดตัวคือ RYU Shabu Shabu ของค่ายเซ็นทรัล ที่ลงทุนไปศึกษาจากต้นตำรับถึงเมืองโอซากาทีเดียว ที่น่าสนใจคือ เมื่อเทียบราคา 299 บาทต่อคน (ให้เวลากิน 1.30 ชม.) กับวัตถุดิบแล้ว คุ้มค่าน่ากินทีเดียว ราคานี้รวมถึงเครื่องดื่มซอฟต์ดริ้งก์ที่เติมได้ไม่อั้นอีกด้วย
จุดเด่นของร้านนี้คือ “น้ำซุป” ที่มี 2 อย่างให้เลือกคือ สูตรดั้งเดิม Katsuo Bushi Dashi Soup สูตรเฉพาะต้นตำรับ เป็นน้ำซุปปลาแห้งน้ำใสที่ให้กลิ่นหอมกลมกล่อม และ Kombu Dashi Soup หรือซุปสาหร่ายคอมบุ ใช้น้ำที่เคี่ยวจากสาหร่ายทะเลกับกระดูกหมูและผัก ใช้เวลาเคี่ยวกว่า 3 ชั่วโมง จนได้น้ำซุปใสที่มีกลิ่นหอมของสาหร่ายที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ
ที่พิเศษของร้านนี้คือ “หม้อน้ำซุปส่วนตัว” ที่เตรียมเฉพาะสำหรับลูกค้าทุกคน เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ทั้งนี้ ถ้ามากันเป็นหมู่คณะ ใครอยากจะกินน้ำซุปแบบไหนก็สามารถเลือกได้ตามใจอยากตัดปัญหาคนกินเนื้อ-คนไม่กินเนื้อ

วัตถุดิบที่กินกับชาบูมีกว่า 60 ไอเท็ม บรรจุอยู่ในจานบ็อกซ์ขนาดเล็ก เหมือนที่กินในร้านสุกี้ บ็อกซ์นี้สามารถเรียงกันสูงๆ ได้เพื่อไม่ให้กินเนื้อที่บนโต๊ะอาหาร
แวะไปดูตู้แช่สำหรับใส่อาหารสดนั้นมีหลากหลายละลานตา ทั้งเนื้อวัวที่มีให้เลือกกินแบบริบอายและเนื้อสันนอก ส่วนใครที่ไม่กินเนื้อก็มีหมูให้เลือก 2 แบบคือ ส่วนสันนอกเนื้อล้วนและสันคอที่มีมันติดนิดหน่อย นอกจากนี้ ยังมีเนื้อไก่ ลูกชิ้น ปูอัด เนื้อปลา แฮม ปลาเส้น เต้าหู้ไข่ ไข่ไก่ วุ้นเส้น หัวบุก ส่วนผักก็มีสารพัดเห็ด ผักกาดขาว ผักบุ้ง ฯลฯ
ส่วนน้ำจิ้มมีให้เลือก 3 รสคือ Gomadare หรือน้ำจิ้มงาขาวรสชาติเค็มๆ มันๆ, น้ำจิ้มพอนซึ และน้ำจิ้มสุกี้ที่มีทั้งพริกขี้หนู กระเทียมสดและมะนาว ให้เติมเพิ่มรสชาติตามความแซ่บของลูกค้าอีกด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีบุฟเฟ่ต์ไลน์ ทั้งมุมสลัดอีกกว่า 10 อย่าง และเมนูที่ขึ้นชื่อของโอซากากว่า 30 อย่าง วนเวียนมาเสิร์ฟ ทั้ง ซูชิโอซากา ทาโกยากิ พิซซ่าญี่ปุ่น โอชิ ซูชิ หรือซูชิสไตล์โอซากาคือทำเป็นข้าวอัด ฯลฯ และอาหารร้อนอย่าง หมูชุปเกล็ดขนมปังทอด ไข่ตุ๋น โอเด้ง เทมปุระ ฯลฯ
ถ้าใครยังไม่อิ่มมีขนมหวานญี่ปุ่น สลับสับเปลี่ยนมาให้ลิ้มลองทุกวัน รวมทั้งไอศกรีมหลากรสวันละ 2 รส ที่ผู้เขียนชอบคือ ไอศกรีมชาเขียว ซึ่งความจริงไอศกรีมสำหรับบุฟเฟ่ต์ ในราคานี้ต้องทำใจว่าพอกินได้เท่านั้นแหละ แต่ที่ร้าน RYU ต้องยกนิ้วในความอร่อยที่มีกลิ่นหอมของชาเขียว ที่โดดเด่นรวมถึงรสชาติครีมมี่ที่เข้มข้นไม่หวานเจี๊ยบ

ตอนนั่งกินเห็นนักศึกษารวมถึงหนุ่มสาวมานั่งกันหลายโต๊ะ แต่ละคนอยู่ในวัยกำลังกินทั้งนั้น บ็อกซ์ที่ใส่อาหารเรียงจนสูงท่วมหัวกันเลย เรียกว่ากินกันคุ้มจริงๆ ส่วนมากจะมากินกันเป็นหมู่คณะแล้วก็นั่างคุยกันเพลิน ๆ แต่ถ้ากินครบชั่วโมงครึ่งแล้วยังไม่อยากจะลุกก็สามารถต่อเวลาได้อีก
 
ใครอยากไปลิ้มลองดูว่าคุ้มค่าแค่ไหน แวะไปได้ที่ สยามสแควร์ ซอย 3 อยู่ต้นถนนทางฝั่งขวามือ เปิดตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. โทร. 0-2252-4731-2 

ชิมโดย : ปราณ  ชีวิน

 
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net

กำลังโหลดความคิดเห็น