xs
xsm
sm
md
lg

ล้วงลับเทคนิคอัพดั้งโด่ง ตาโตปิ๊ง กรามหายวับ! กับกูรูมือฉมัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

By Lady Manager

ปัญหาสุดกลุ้มของบรรดาสาวหน้าบานกรามใหญ่เป็นกระด้ง ถ่ายรูปยังไง้ยังไงก็ไม่ขึ้น เพราะหน้าอืดเต็มเฟรม!


แน่ล่ะ! เฉดดิ้ง (Shading) ช่วยคุณได้ห่างหายไปจากวงจร(หน้า)ดาวเทียมได้จริง!


“เพราะการลงสีเข้ม เช่นสี น้ำตาลช่วยอำพรางใบหน้าบริเวณส่วนกว้างให้ดูแคบลงได้ การเฉดดิ้งก็คือ การเล่นแสงและเงานั่นเอง”


คุณมด แห่งชินนามอนกอล (Cinnamongal) ชื่อจริง ดวงกมล ถิระวัฒน์ บล็อกเกอร์ (Blogger) แต่งหน้าชื่อดัง ผู้ผ่านการรีวิว (Review) เครื่องสำอาง แต่งหน้ามานับพันฮาวทู (How To) จะมาบอกเทคนิคเมกอัพพรางหน้าเรียวโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรมให้เจ็บตัว และเจ็บใจ เพราะพิษซิลิโคน!

วันนี้คุณมด เธอจัดเต็ม! มาพร้อมกับอาวุธลับ ตัวทำเฉดดิ้ง และอายแชโดว์ (Eye shadow) เพื่อคัดเบ้าให้ตาลึกมีมิติ

โดยเราได้รับการเอื้อเฟื้อใบหน้าจาก หมวย น้องนางแบบ ผู้มีใบหน้ากว้าง ค่อนข้างกลม โดยเธอมักไม่สบายใจนักเมื่อต้องทำผมแบบเปิดหน้า และหน้าผาก แถมอยากทราบเทคนิคการแต่งหน้าอย่างไรให้ดูมีดั้ง และตาไม่ตี่ โตเเบ๊วอีกด้วย

คุณมดดูสภาพโครงหน้านางแบบว่า ต้องปรับแต่ง-พรางส่วนไหน-อะไร-อย่างไรบ้าง

“ลักษณะปัญหาของน้องนางแบบมีปัญหาที่ว่า หน้ากลม กรามใหญ่ เลยทำให้หน้าดูกว้างกลม เดี๋ยวมดจะเฉดดิ้งเพื่อเก็บปัญหาเหล่านี้ให้เพื่อให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น โดยมดจะแต่งให้ดูเป็นธรรมชาติค่ะ

ก่อนอื่นเลย เราจะทำความสะอาดหน้ากันก่อน เช็ดหน้าให้เรียบร้อย แล้วทาโลชั่น จากนั้นลงเมกอัพเบส (Makeup Base) ปรับสภาพผิวหน้า ตัวนี้เป็นเบสที่มีกันแดด มดแนะนำให้ผู้หญิงทุกคนต้องทากันแดด เพราะปัญหาผิวส่วนใหญ่เกิดจากแดดเนี่ยแหล่ะ


แต่บางคนไม่ชอบที่จะทากันแดด แล้วทาเบส เราก็เลือกเบสที่ผสมกันแดดมาเลยก็ได้ ส่วนมดชอบเลือกที่ผสมมาแล้ว บางคนไม่ชอบทากันแดดก่อนเพราะจะรู้สึกหน้ามันมาก มดเลยแนะนำให้เอาเบสที่แบบรวมกันแดดไว้ด้วยเลย

หลังจากเราปรับสภาพผิวหน้าด้วยเบสแล้ว ผิวหน้าจะเปลี่ยนไป เนียนเรียบพร้อมในขั้นตอนแต่งหน้าถัดไป จากนั้นรองพื้น สำหรับมดจะใช้นิ้วทา และนวดรองพื้นไปเรื่อยๆ ให้กลืนไปกับผิว บางคนใช้ฟองน้ำ หรือ แปรงเกลี่ยรองพื้น แต่มดจะใช้วิธีนวดเหมือนทาครีมบำรุง

มดว่าใช้มือนวดแล้วเวิร์กสุดมันเหมือนให้ความอุ่นของนิ้วช่วยให้รองพื้นซึมไปกับผิว เราควรจะเริ่มทาตั้งแต่แก้มมาก่อน เพราะแก้มเป็นส่วนที่แห้งเร็วที่สุด จากนั้นค่อยๆไล่ไปเรื่อยๆ บางคนบอกว่าแตะรองพื้น 5 จุด แต่บางทีมัน แห้งไม่ทันกัน

จากนั้นลงคอนซีลเลอร์(Concealer)บริเวณขอบตาล่าง เหมือนเป็นการไฮไลท์ (Hilight)บางคนขอบตาไม่ดำเลย แต่ใช้ตัวนี้เพื่อว่าให้ช่วงกลางหน้ามันสว่างขึ้นมา ให้ดูเป็นธรรมชาติ จากนั้นลงแป้งฝุ่นซับความมันของใบหน้าทั้งหมด”

Step 1 -> เฉดดิ้งอัพดั้ง

เข้าสู่ขั้นตอนเฉดดิ้ง แนะให้จับตา!

“วันนี้มดจะไม่ใช้เฉดดิ้งแบบครีม เพราะบางคนใช้ครีมเฉดยากกับชีวิตมาก เพราะถ้าใช้ครีมเฉดถ้าพลาดก็แย่เลย เพราะการที่เป็นครีมเราต้องมือเที่ยงนิดนึง เพราะถ้าลงเยอะเกินหน้าจะเข้มเป็นปื้น เข้มเกิน ลบอย่างไรก็ยาก

เฉดดิ้งตัวนี้มดชอบมาก เพิ่งค้นพบว่า มันเริ่ดมากของ Smashbox ใช้ดีจริงๆ เพราะปกติบางทีไฮไลท์ เฉดดิ้งมันจะมีวิ้ง แต่ตัวนี้มีนิดนึง แต่ที่เหลือจะด้าน เฉดดิ้งสีเข้มควรจะด้าน แต่ไฮไลท์ควรจะวิ้ง แต่วิ้งแบบเบาๆ

ใช้แปรงเบอร์เล็กแต้มสีน้ำตาลเข้มเพื่อทำเฉดดิ้งให้จมูกดูมีมิติขึ้น โดยไล่ไปตั้งแต่ปลายหัวคิ้วเบาๆ ลงมายันบริเวณปลายจมูก ทั้ง 2 ข้าง เพื่อเพิ่มมิติในการมอง พรางให้ดั้งโด่งขึ้นมานั่นเอง

เอางี้จำง่ายๆ ส่วนไหนที่อยากให้กระเด้งออกมาใช้ "ไฮไลท์" อยากให้เลือนหายต้อง "เฉดดิ้ง" เช่นคนจมูกบานก็เฉดดิ้งสุดฤทธิ์ให้ปีกจมูกหาย บางทีการเฉดดิ้งเยอะเพื่อถ่ายภาพช่วยให้หน้าเล็กเรียวขึ้นได้จริง แต่เดินในชีวิตจริงคนอาจจะมองได้ว่า ผู้หญิงคนนี้โดนคุณไสย์ เพราะหน้าจะหมองหม่นหากเฉดดิ้งเยอะไป จากนั้นไฮไลท์สันจมูกเพื่อให้ดูดั้งเด้งขึ้นมา”

Step 2 -> เฉดดิ้งลดเหลี่ยมกราม

“จากนั้นเฉดดิ้งเป็นตัววีเพื่อเก็บช่วงแก้ม และกรามให้เข้ามา ใช้แปรงแต้มเฉดดิ้งสีเข้มบริเวณโหนกแก้ม มดเฉดจะให้เฉียงขึ้นเพราะต้องการดึงหน้าให้สูงขึ้น มดจะดึงขึ้นมาถึงบริเวณหูส่วนบนเลย เพื่อ จากนั้นเก็บช่วงกรามโดยระบายให้หมดเลย

มดขอย้ำว่า ถ้าชีวิตจริงเราไม่ควรเฉดดิ้งมาก เพราะหน้าจะหมอง แต่ถ้าในการถ่ายรูปให้ขึ้นกล้อง เราต้องสู้กับแฟลช เพราะจะแสงแรง สว่างมาก ถ้าเราไม่เฉดให้เห็นชัด หน้าจะป้าน บานทันที

แปรงเป็นส่วนสำคัญในการเฉดดิ้งด้วย เราต้องเลือกแปรง ไม่ใช่ว่าแปรงเดียวอยู่ทั้งงาน เราจะเอามาเฉดทุกส่วนในใบหน้าไม่ได้ เราต้องแบ่ง พื้นที่เล็ก พื้นที่ใหญ่ เช่น จมูกใช้แปรงเล็ก เฉดบริเวณกรามก็ใช้เบอร์ใหญ่เป็นต้น

การเฉดดิ้งเหมือนการระบายสี มดจะชอบการเฉดดิ้ง ไฮไลท์มากเลย เพราะมดจะใช้แก้ปัญหาหน้ามดเองด้วย แล้วเราก็รู้สึกว่าคนที่มีปัญหาหน้าไม่สมบูรณ์แบบน่าจะมีเยอะ จะเฉดดิ้งจึงช่วยได้จมูก

สังเกตได้ว่า มดจะจัดเก็บโครงหน้าก่อน เหมือนให้ได้โครงทั้งหมดก่อนค่อยเติมสีสัน เพราะการแต่งหน้ามันไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ บางคนอาจจะเขียนคิ้วก่อน เขียนตาก่อนแล้วค่อยเฉดดิ้งก็มี”

Step 3 -> เฉดดิ้งเพิ่มมิติดวงตา

จากนั้นเป็นการไฮไลท์ และเฉดดิ้งตา หรือเรียกว่า “การคัดเบ้า” เพื่อให้ตาดูลึก มีมิติ เปลี่ยนสาวหมวยตาตี่ให้ดูตาโตขึ้นในบัดดล!

“ปัญหาของตาน้องนางแบบ คือเปลือกตาบนตกลงมาข้างล่าง เดี๋ยวมดจะแก้ให้ตาดูเชิดขึ้น โดยมดสร้างเบ้าตาใหม่ด้วยสีเข้ม เราจะเน้นสีที่มีประกายช่วงหัวตาถึงกลางตาเพื่อให้ดึงความสนใจออกมา แล้วใช้สีที่เป็นสีเข้ม สีแมท์ (Matt-เนื้อด้าน)

การแต่งตา มดจะเลือกอายแชโดว์แบบวิ้งกับแมทท์ผสมกัน บางทีแบบวิ้งหมดเลยทั้งตาเหมาะกับงานกลางคืน แต่ชีวิตประจำวันมีวิ้งนิดหนึ่งให้ดูน่าสนใจก็พอ และที่เหลือให้เป็นแมทท์ดีกว่า

โดยเอาสีเเมทท์มาคัดเบ้าให้ตาดูลึก มีมิติ จากนั้นมดจะเขียนขอบตาให้เชิดขึ้นเพื่อหลอกว่าตาไม่ได้ตกลงมา มดใช้ดินสอเขียนขอบตาเพราะอยากให้ดูเป็นธรรมชาติ บางทีใช้พวกอายไลเนอร์แบบเจล หรือแบบน้ำ บางทีมันจะดูเฉี่ยวเกินไป อยากให้ลุกดูนุ่มๆ เบาๆ

ใช้ดินสอกับอายแชโดว์ในการเขียนขอบตา เพื่อให้ดูฟุ้งๆ เส้นไม่แข็ง มดจะให้การเขียนไลเนอร์หนาตรงกลาง คือเขียนให้ป่องตรงกลางแล้วเรียวลงไป มดจะเขียนหลอกให้ดูว่าตาเค้าดูโตขึ้น แถมดูตากลมด้วย ดังนั้นต้องป่องตรงกลาง ทุกอย่างเป็นการพรางหมดเลย นี่คือศาสตร์ของการแต่งหน้า ตรงกลางป่องเยอะที่สุด ที่เหลือมาเก็บสเต็บว่าหางไปชนตรงไหน มดจะเล่นสี 3 เสต็บ คือ หางตาเข้ม ไล่ลงมาตรงกลางเบลอๆ หัวตาสว่างสุด

แต่ถ้ากรณีนางแบบตาตี่มากมดจะวาดใหญ่เลย คนตาเล็กอยากตาใหญ่ต้องสโมกกี้ยักษ์ไปเลย

จากนั้นทำไฮไลท์ตา ไม่งั้นเหมือนแต่งหน้าไม่จบ ไฮไลท์บริเวณโหนกคิ้วให้ดูมีมิติด้วย ไม่ควรเฉดดิ้งอย่างเดียว”

Step 4 -> เก็บให้สวยกริบ

จากนั้นเขียนคิ้ว ปัดแก้ม และทาปาก เก็บทุกอย่างให้สวยกริบ

อ้อ! คุณมดบอกด้วยว่า เทรนด์คิ้วหนาใหญ่แบบ “เรยา” กำลังฮอตมากในช่วงนี้ และล่าสุด การแต่งหน้าแบบเจ้าหญิงเคทในวันพิธีเสกสมรสคือ หัวคิ้วเข้ม หางคิ้วอ่อน

คุณมดบอกปิดท้ายด้วยว่า กรณีคนหน้าผากกว้าง หรือมี "เหม่ง " แล้วอยากทำผมทรงโชว์โหงวเฮ้ง เปิดหน้าผาก รับกระบังลม รบกวนปิดท้ายให้สวยสนิทไร้ที่ติด้วยการเฉดดิ้งบริเวณไรผมเพื่อให้หน้าผากแคบ เล็กลงกว่าเดิมด้วยนะจ๊ะ!
อื้อหือ! หน้านางแบบแลดูมีติ จมูกดูเป็นสัน ไม่ใช่น้องหมวยหน้าจืดอีกต่อไปแล้วจ้า….
อะไรจะสวยบาดขนาดน้านน!! งามกริบ หน้าเด้ง! กินกันไม่ลงทั้งนางแบบ และกูรูเมกอัพ ^^
*ทิปส์เด็ด: สูตรหน้าเรียว

หน้ารูปไข่ เป็นรูปหน้าที่เพอร์เฟคที่สุด แต่ควรจะเก็บรายละเอียดเพื่อความโดดเด่นอีกนิด ด้วยการลงเฉดดิ้งข้างแก้ม ตั้งแต่กลางแก้มไล่มาถึงขากรรไกร โดยปัดเฉียงจากบนลงล่างด้วยสีน้ำตาลหรือสีทองแดง ปัดอย่างเบามือก่อน แล้วค่อยเพิ่มน้ำหนักให้มากขึ้นตามความเหมาะสม


หน้ารูปหัวใจ หน้ารูปนี้ต้องเฉดดิ้งบริเวณขมับมากขึ้น เพื่อให้บริเวณหน้าผากดูแคบลง และใช้บลัชออนปัดแก้มตามแนวขวางให้รูปหน้าดูกว้างขึ้น แล้งเฉดดิ้งอีกครั้งบริเวณคาง ไม่ให้ดูแหลมจนเกินไป


หน้าเหลี่ยม จะทำให้ใบหน้าดูกลมขึ้นได้ด้วยการเฉดดิ้งใต้โหนกแก้มให้ดูชัดขึ้น แล้วลบเหลี่ยมบริเวณช่วงกราม จากนั้นปัดแก้มเบาๆ ระหว่างใต้โหนกแก้มและกราม


หน้าสั้น ใช้ไฮไลท์ปัดเน้นบริเวณปลายคางให้ดูยาวขึ้น และปัดบริเวณหน้าผาก เป็นการกระจายแสงทำให้หน้าดูยาวขึ้น


หน้าตอบ รูปหน้านี้มีวิธีแก้คล้ายกับรูปหน้าหัวใจ แค่ปัดแก้มด้วยบลัชออนสีพีชตามแนวขวางเพื่อให้ใบหน้าดูกว้างขึ้น แก้มที่ตอบจะดูเต็มขึ้น


หน้าไม่สมดุล หลายคนประสบปัญหานี้คือ มีช่วงจมูกยาวมาก ทำให้คางดูสั้น วิธีแก้คือให้แต่งหน้าตามปกติขั้นแรก แล้วใช้อายแชโดว์สีเบจหรือสีที่ใช้สำหรับปัดคิ้วมาปัดตรงปลายจมูกและแต้มไฮไลท์บริเวณปลายคางให้หน้าดูเรียวยาวสมดุลขึ้น


หน้าสวย แต่ไร้ดั้ง ให้เลือกอายแชโดว์สีเบจเบาๆ (อย่าใช้โทนเข้มหรือมันวาวมาก เพราะจะทำให้หน้าหมอง) จากบริเวณปีกขึ้นไปบนปลายจมูก และจากปีกจมูกขึ้นไปยังสันจมูกเบาๆ เป็นเส้นบางๆ จากนั้นใช้อายแชโดว์ออกแวววาวไฮไลท์ตรงสันจมูกนิดหน่อย แค่นี้จมูกก็มีสันสวยขึ้นทันตา


ส่วนสาวๆ คนไหนที่ยังไล้จมูกด้วยการลากเส้นจากโหนกคิ้วลงมา แนะนำว่าไม่ควรค่ะ เพราะวิธีนี้ดูไม่เนียนและไม่ธรรมชาติ ดูแข็งทื่อ


หน้าผากแคบเพราะมีไรผม ผู้หญิงบางคนมีลูกผมบริเวณหน้าผากเยอะมาก แนะนำว่าควรจะกันออกไปบ้าง ถ้าไม่อยากให้หน้าผากดูแคบและหมอง ขนบนใบหน้าก็เช่นเดียวกัน เมื่อกันออกไปแล้วจะทำให้หน้าดูสว่างขึ้นมากทีเดียว


หน้าผากเถิก หรือลึกขึ้นไปก็สามารถใช้อายแชโดว์สีน้ำตาล ดำ หรือสีเดียวกับผมปัดเบาๆ บริเวณโคนผมให้ผมดูดกหนา และช่วยเสริมกรอบหน้าให้ดูชัดเจนขึ้นได้


ภาพโดย ณัฐพันธ์ ครุธทิน

>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net
กำลังโหลดความคิดเห็น