xs
xsm
sm
md
lg

"มนตร์ลดา พงษ์พานิช" เชิดใส่ทุกคำสบประมาท!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>> “จะทำได้นานเหรอ!..” เสียงสบประมาทที่บางคนนึกอยู่ในใจเมื่อได้ยินว่า ทายาทอดีตนักการเมืองผู้ล่วงลับและสาวสังคมผู้รักการไปปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจนามว่า “ดวง-มนตร์ลดา พงษ์พานิช” กำลังทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองโดยใช้ชื่อว่า “Monlada” ซึ่งเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้วที่เธอยอมละไลฟ์สไตล์ส่วนตัวหลายอย่างในชีวิตเพื่อสร้างแบรนด์ “Monlada” ขึ้นมา...

:: เปิด “มนตร์ลดาสตูดิโอ”

เรามีนัดกับเธอที่ “มนตร์ลดาสตูดิโอ” ย้ำว่าต้องเรียกว่า “สตูดิโอ” มิฉะนั้นอาจโดนปรับ 100 บาท! เธอล้อเล่นกับเราเมื่อมาถึงและทีมงานของเราเผลอพูดผิดว่า “ออฟฟิศมนตร์ลดา”...สตูดิโอที่โล่งโปร่งตาแห่งนี้ ครั้งหนึ่งเธอเคยมองข้ามและปฏิเสธมาก่อน แต่วันนี้กลับกลายเป็นที่ที่เธอใช้เวลาอยู่ด้วยนานที่สุด เพราะที่นี่เป็นที่ที่ทุกสิ่งทุกอย่างของแบรนด์ “Monlada” ถูกผลิตขึ้น ตั้งแต่กระบวนการการออกแบบ ทำกราฟิก แพตเทิร์น ตัดเย็บ ไปจนถึงตรวจสอบคุณภาพ...

ในระหว่างที่ผู้เขียนนั่งรอการถ่ายภาพสังเกตได้ว่าในขณะที่โพสต์เธอสามารถโพสต์ได้ในแบบรู้มุมสวยของตัวเอง ไม่ว่าจะเอียงซ้าย เอียงขวา กดหน้า เผยอปากทุกท่วงท่าแสดงถึงความมั่นใจที่ออกมาจากตัวเธอ รวมถึงความมั่นใจในขณะที่เธอให้สัมภาษณ์ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ออกมาจากความเป็น “ดวง-มนตร์ลดา” ผู้หญิงที่เคยมองว่าตัวเองไม่ได้เรื่อง แต่วันนี้เธอเป็นที่รู้จักในวงการแฟชั่นในฐานะเซเลบริตี้ดีไซเนอร์คนใหม่...

“ที่จริงดวงรู้ตัวตั้งแต่เด็กว่าเราชอบศิลปะ ชอบแฟชั่น ดวงชอบแต่งตัวมาตั้งแต่อายุ 15 พอจบจากเมืองไทยก็ไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ต่างประเทศด้านธุรกิจ แต่ตั้งแต่ปีแรกที่ไปเรียนก็โทรศัพท์หาแม่ว่าอยากเปลี่ยนวิชาเรียน เพราะอยากเรียนกราฟิกดีไซน์ แต่แม่บอกว่าอย่าเพิ่งเลย แต่ควรจะเรียนบริหารธุรกิจให้จบให้มีปริญญาก่อน กลับมาแล้วอยากทำอะไรก็บอก ดวงจึงเรียนจนจบทั้งปริญญาตรีและโท ที่จริงดวงเรียนไม่เก่งหรอกแต่ว่ารู้จักเอาตัวรอด (หัวเราะ) ซึ่งระหว่างนั้นก็ไม่ได้เรียนอาร์ตเพิ่มเติม เหมือนกับเราพับโครงการในฝันของเราไปเลย...”

ไม่ใช่ธรรมดาเลยที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยมองว่าตัวเองเป็น “คนไม่ได้เรื่อง” อุตส่าห์ไปร่ำเรียนหาความรู้ด้านออกแบบที่ โรงเรียนศิลปะและการออกแบบเซ็นทรัล เซนต์ มาร์ติน (Central St. Martins College of Art and Design) ในลอนดอน และไปต่อที่โรงเรียนการออกแบบพาร์สัน (Parsons School for Design) นิวยอร์ก โรงเรียนอันดับหนึ่งด้านการออกแบบในสหรัฐอเมริกาที่ผลิตดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ดอนน่า คาเรน, แอนนา ซุย หรือ มาร์ก จาคอบส์ ซึ่งเธอตัดสินใจทุ่มเทเวลาให้แก่การเรียนแฟชั่นทั้งในอังกฤษและสหรัฐอเมริกานานถึง 6 ปี

:: ความฝันที่ถูกรื้อฟื้นอีกครั้ง!

หลังจากเรียนจบปริญญาตรีด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยจอห์นแอนด์เวลส์ ที่สหรัฐอเมริกา เธอกลับเมืองไทยมาเปิดร้านเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นชื่อ “พรีมิโอ” และได้คลุกคลีอยู่กับกลุ่มเพื่อนในวงการถ่ายภาพและการออกแบบ รวมทั้งการได้มีโอกาสถ่ายแฟชั่นโดยเป็นนางแบบรับเชิญอยู่หลายครั้ง เหมือนเป็นการจุดประกายให้รื้อฟื้นความฝันด้านศิลปะและออกแบบของเธออีกครั้ง

“รู้จักกับดีไซเนอร์หลายคน ได้คลุกคลีกับ พี่อ้อม-อิสริยา (ดีไซเนอร์ Inspire by Inner) ก็รู้สึกอยากทำร้านเสื้อบ้าง หรือเวลาเราไปถ่ายแบบก็ชอบดูการทำงานของสไตลิสต์และเมกอัพอาร์ทิสต์ รู้สึกว่าการแต่งหน้าและการแมตช์เสื้อผ้าคือเวทย์มนต์ที่ทำให้ผู้หญิงสวยขึ้น ประกอบกับชีวิตตอนนั้นผกผัน เราจึงต้องลองค้นหาตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการ อะไรคือสิ่งที่ทำให้มีลมหายใจอยู่ทุกวันเมื่อปราศจาก “ความรัก” ...สมมุติว่าคนที่เรารักไม่อยู่ เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเอง โลกนี้ไม่มีอะไรที่ยั่งยืน วันนี้เรามี พรุ่งนี้อาจไม่มีก็ได้ ยอมรับว่าผ่านการสูญเสียที่ค่อนข้างรุนแรงกับความรัก

ตอนที่ค้นหาตัวเองอยากทำหลายอย่าง ตอนแรกอยากเป็นพิธีกร แต่คิดว่าพูดไม่เก่ง สมองก็ช้า ความจำก็ไม่ดี สงสัยจะไม่เวิร์ก เลยเปลี่ยนว่าอยากเป็นนักร้อง แต่ตอนนั้นอายุ 26 ก็คิดว่าคงจะแก่เกินไป (หัวเราะ) สมัยนี้เด็ก 18-19 เป็นนักร้องกันเยอะแยะ สุดท้ายก็ดูจากสิ่งที่เราชอบคือเรื่องของเสื้อผ้าและการแต่งตัว เลยตัดสินใจว่าดีไซเนอร์นี่แหละคือหนทางที่เราเลือกให้กับตัวเองและตัดสินใจที่จะทำสิ่งนี้ไปตลอดชีวิต!”

:: สู้แบบไม่มีอะไรจะเสีย

จากคนที่มีแค่ใจรักแต่ไม่ได้มีพื้นฐานหรือความสามารถในการวาดรูปมาก่อน แต่เมื่อตัดสินใจที่จะเดินบนเส้นทางนี้แล้วไม่ว่าจะอย่างไรมนตร์ลดาก็ยอมทุกอย่าง ต้องยอมรับทั้งการเริ่มต้นใหม่กับนักเรียนรุ่นน้อง ยอมรับคำติ คำบ่นจากอาจารย์ แต่เธอก็ไม่สนใจเพราะถ้าไม่ได้ผ่านอุปสรรคก็คงไม่สามารถทำให้เธอมีวันนี้ได้

“ตอนแรกไม่รู้ว่าวาดรูปอย่างไรด้วยซ้ำ จำได้ว่ารูปที่ฝึกวาดรูปแรกคือรูปตุ๊กตาหมี อาจารย์เห็นยังส่ายหน้า จึงไปฝึกวาดรูปและทำผลงานที่เซ็นต์มาร์ตินประเทศอังกฤษอยู่ประมาณ 2 ปี แล้วสมัครเรียนคอร์สออกแบบลายพิมพ์ (Print) แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะได้หรือไม่? ก็เลยสมัครที่พาร์สัน ในนิวยอร์ก ไปด้วย ทางเขาก็ตอบรับกลับมา จึงย้ายไปเรียนที่พาร์สัน แต่หลังจากนั้นไม่นานที่เซนต์มาร์ตินก็รับเราเข้าเรียนแล้วเหมือนกัน ตอนที่รู้ว่าได้ทั้งสองที่...ร้องไห้เลย เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ รู้สึกเหมือนชีวิตประสบความสำเร็จ แต่จริงๆ แล้วทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง!

ลุยสร้างแบรนด์ “Monlada” ทันที โดยมีกำลังใจเต็มเปี่ยมทั้งจากคุณแม่ พี่ชาย และเพื่อนๆ ซึ่งตัวเธอเองก็ตื่นเต้นกับงานใหม่นี้มาก โดยเธอประกาศให้คนในบ้านรู้เลยว่า “ถ้าดวงเริ่มแล้วมันจะหยุดไม่ได้!”

“กลับมาบอกแม่เลยว่า “แม่คะดวงจะเปิดร้าน” แม่ก็บอก “ได้”...แล้วแม่ก็แนะนำว่าแม่มีบ้านอยู่ตรงประชาชื่น จะเอาไว้ทำออฟฟิศก็ได้นะ แต่ตอนแรกเราดื้อก็บอกว่า “ไม่เอา!” เพราะเราอยากอยู่แถวสุขุมวิท แม่ก็เลยย้อนมาคำหนึ่งว่า “หาเงินได้แล้วหรือ?” เราก็อึ้งไปเลย!

พอคิดไปคิดมา ก็ดีเหมือนกันเพราะเพิ่งเริ่มต้น คุณแม่พูดก็ถูก อะไรที่ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด เลยไปขอโทษแม่ที่เราโง่เอง ทั้งที่จริงแล้วตรงนี้ดีที่สุด ไม่ต้องเสียเงินเพราะเป็นบ้านที่เรามีอยู่แล้ว ก็เริ่มปรับปรุงทำเป็น มนตร์ลดาสตูดิโอ

เรามีเวลาเตรียมตัวอยู่ประมาณ 3-4 เดือน ในระหว่างที่กำลังปรับปรุงสตูดิโอ เตรียมงาน หาช่างเย็บผ้า เราก็เที่ยวไปด้วย เพราะเราเป็นคนชอบเที่ยว ชอบเต้นรำ แต่เมื่อทุกอย่างพร้อมดวงหยุดเที่ยว ลุยงานอย่างเดียว

คนที่สนับสนุนและทำให้ดวงมีวันนี้ก็คือคุณแม่ พี่ชาย เพื่อนสนิท แฟน และทุกคนที่รักดวง คนอื่นอาจไม่เชื่อว่าดวงจะทำจริง เพราะด้วยความที่ดวงมันเละเทะ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แล้วก็ไม่หยุดเที่ยว พอเขาเห็นดวงทำงานจริงรับผิดชอบกับงานได้ เขาก็ดีใจ” นอกจากคุณแม่และพี่ชายจะทำหน้าที่ผู้ให้กำลังใจแล้ว คุณแม่ก็ยังเป็นนายทุนหลักในการทำธุรกิจครั้งนี้โดยมีพี่ชายเป็นหุ้นส่วนดูแลและให้คำแนะนำ

“เริ่มแรกเรายังลงทุนไม่เยอะมาก อย่างสตูดิโอก็ได้จากคุณแม่ ส่วนพี่ชายก็เป็นหุ้นส่วน เราสนิทกันมาก ทั้งเรื่องงานเรื่องส่วนตัว เรามีกันอยู่แค่นี้ถ้าเขาไม่ดูแลดวงเขาจะดูแลใคร (หัวเราะ) ส่วนเรื่องการบริหารงานก็มีเพื่อนๆ มาช่วยกัน ดวงจะดูเรื่องดีไซน์และภาพรวม”

:: Monlada Collection

ว่ากันด้วยเรื่องของเสื้อผ้าของ Monlada กันบ้าง “Love Death” คือ พรี-คอลเลกชั่นสำหรับการเปิดตัวครั้งแรกของ Monlada เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้เกิดขึ้นจากความรักและกำลังใจของการมีชีวิตอยู่ เป็นการเล่าเรื่องราวของสิ่งที่อยู่ตรงกันข้าม แต่เป็นความจริงของธรรมชาติที่ทุกอย่างย่อมมีสองด้าน

“คอลเลกชั่นนี้ใช้ผ้าไหม ผ้าซาตินและลูกไม้ ส่วนโทนสีเป็นโทนกลางๆ ที่สามารถใส่ง่าย ตั้งแต่ ดำ พาสเทลอ่อน เบจ เทาและแชมเปญ แต่ละคอลเลกชั่นก็เปลี่ยนไป ส่วนใหญ่ดวงเอาประวัติศาสตร์มาผสมกับความเป็นโมเดิร์น มาสร้างสรรค์ใหม่เพื่อให้ได้ลุคผู้หญิงที่คลาสซี่ โมเดิร์น ชิก” สามคำนี้ทำให้ผู้หญิงสวยอย่างมั่นใจ ดวงพยายามจะช่วยให้ผู้หญิงดูสวยขึ้นเมื่อใส่ Monlada“

ไอดอลคนแรกในดวงใจที่ทำให้ดวงเปลี่ยนอาชีพก็คือ วิเวียน เวสต์วู้ด เธอเป็นผู้หญิงที่มีสไตล์ เป็นผู้หญิงที่ทำงานเป็นดีไซเนอร์และอยู่จนแก่เฒ่า โดยที่ไม่สนใจใคร แล้วก็ชอบจอห์น กัลลิเอโน่ และอเล็กซานเดอร์ แมกควีน ด้วยการออกแบบส่วนใหญ่ดวงหยิบสิ่งรอบตัวมาผสานกับสิ่งที่ได้จากเสื้อผ้าสมัยก่อน อันเป็นพื้นฐานที่ดี ประวัติศาสตร์หรือสิ่งที่เขาสร้างกันมาเราต้องให้เกียรติ ฉะนั้นทุกอย่างก็ต้องมีการเก็บสะสมสิ่งที่เราไปพบเจอด้วย”

:: เชิดใส่ทุกคำสบประมาท

อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า หลายคนคงนึกอยู่ในใจว่าเธอจะทำได้นานแค่ไหน เพราะไม่ว่าจะด้วยลุคและประวัติของสาวสังคมจัดที่รักการเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจคนนี้ ใครก็คงไม่เชื่อว่าเธอจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้ แม้กระทั่งคนใกล้ชิดเองก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเธอสักเท่าไหร่

“ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ค่ะ ใครอยากคิดก็คิดไป ไม่แคร์คำสบประมาท แต่กลับชอบ (หัวเราะ) เอาคำสบประมาทมาแปลเป็นพลัง แม่ยังไม่เชื่อเลยว่าดวงจะทำได้ แต่พอท่านเห็นว่าเราทำได้ท่านก็แอบเอาไปอวดกับเพื่อนๆ บ้าง ดวงว่าคำสบประมาทก็มีประโยชน์เหมือนกันนะ ทุกอย่างมีประโยชน์กับตัวเรา ทุกอย่างอยู่ที่เรามอง คนเรามีความคิดแตกต่างกันได้ ถ้าความคิดไม่ตรงกันก็ไม่ได้แปลว่าเราไม่ถูกกัน สามารถปรับความเข้าใจกันได้

ตอนนี้เปิดตัว “Monlada” แล้ว แต่ชีวิตก็ไม่ได้เปลี่ยนไป เพียงแต่ตารางเวลาแน่นขึ้น แล้วก็อาจต้องปรับตัวบางอย่าง เช่น ต้องรู้จักระงับอารมณ์ เพราะเราเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่จำเป็นต้องสื่อสารกับผู้คน ก็ต้องพูดจาสุภาพ ไม่ใช้อารมณ์ เปลี่ยนเป็นมาใช้สติปัญญาแทน แต่ถ้าหากใจร้อนขึ้นมาดวงใช้วิธีการออกกำลังกายเพื่อดับอารมณ์ ดีมากเลย ระบายด้วยการออกกำลังกาย หรือไม่ก็วาดรูปสร้างสมาธิให้ใจเย็น

ชีวิตตอนนี้สบายๆ สิ่งที่ดวงต้องการก็คือความอบอุ่น และดวงก็มีคุณแม่ พี่ชาย เพื่อน ที่พร้อมจะให้อภัยดวงเสมอ คนเรามีผิดมีพลาดในชีวิต ทุกคนทำผิดได้ ดวงเองก็ทำผิดเหมือนกัน แต่การให้อภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการอยู่ร่วมกัน ทุกคนมีโอกาสตลอดเวลาที่จะเริ่มต้นใหม่”

ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร หากแต่เราตั้งใจซะอย่าง ก็ขอให้มุ่งมั่นต่อไป เหมือนสาวสังคมผู้ผันตัวเองมาเป็นดีไซเนอร์คนนี้ ซึ่งเราก็ต้องต้องปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความตั้งใจนี้ของเธอต่อไป ::Text by FLASH mag.

Fact File ::::::::::::::::::::
นางแบบ :: มนตร์ลดา พงษ์พานิช
เสื้อผ้า :: Monlada มีจำหน่ายที่ร้าน Monlada ซอยทองหล่อ
แต่งหน้า :: อิทธิกร ลักษมีจันทร์พร
ทำผม :: ตฤณภัท เมธาบูรณกิจ
ประสานงาน :: พรรณพิมล แดงรัศมีโสภณ
ช่างภาพ :: กมลภัทร พงศ์สุวรรณ

 
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net

กำลังโหลดความคิดเห็น