xs
xsm
sm
md
lg

มาดามบิ๋ง-นันทมาลี ภิรมย์ภักดี สะใภ้ดีเด่นของเจ้าสัววุฒา!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
 
     ยอดขาย '30' คัน ภายในปีแรก อาจทำให้ใครต่อใครชื่นชม มาดามบิ๋ง-นันทมาลี ภิรมย์ภักดี ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้หลักผู้ใหญ่ให้นั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการ เป็นบอสหญิงคนเก่งแห่ง บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด ที่นำเข้ารถหรูอย่างเฟอร์รารี่

 
 
     แต่สำหรับเจ้าสัววุฒา ภิรมย์ภักดี ที่ครองตำแหน่งสูงสุด คือประธานกรรมการของบริษัทและเป็นทั้ง ‘พ่อสามี’ ของคุณบิ๋ง ยอดขายที่ทำได้น่ะ ถือว่ายังน้อยเกินไป ทั้งที่ในความเป็นจริง เจ้า ‘ม้าผยอง’ ก็ไม่ใช่คันละแสน 2 แสนบาทเสียเมื่อไหร่ ขายได้มากถึง 30 คัน ก็คู่ควรกับการ ‘ปรบมือ’ ให้แบบข้ามวันข้ามคืน
 
     เพราะจะว่าไป นอกจากความเป็นตำนานของเฟอร์รารี่ที่มีสาวกอยู่ทั่วโลก อีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้กระแสตอบรับในไทยประสบความสำเร็จถึงเพียงนั้น ก็เพราะเครดิต ชื่อ ชั้น และความสามารถในการบริหารของมาดามบิ๋งนั่นเอง ที่ทำให้รถหรูราคาคันละไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท กลายเป็นเรื่อง ‘สิวๆ’ เป็นที่ต้องการของบรรดาเศรษฐีกระเป๋าหนักของเมืองไทยที่แย่งกันจองแย่งกันจ่ายราวกับแจกฟรีก็ไม่ปาน
 
     แต่ขึ้นชื่อว่า เจ้าสัววุฒา แล้ว ยอดขายรถหรู ไม่กี่สิบคัน ยังถือว่าน้อยไป เพราะสิ่งที่เจ้าสัวและคนในตระกูลภิรมย์ภักดีให้ความสำคัญ...มันต้องน่าสนใจ ยิ่งกว่านั้น
 
     และแล้ว คำตอบปรากฏในบ่ายแก่ๆ วันหนึ่ง ณ โชว์รูมเฟอร์รารี บน ถ. เพชรบุรี ขณะที่คุณบิ๋งกำลังอธิบายถึงหลักการทำงานของเธอให้คู่สนทนาฟังอย่างออกรส เป็นต้นว่าวิสัยทัศน์ มุมมองในการบริหารธุรกิจ ที่ ‘เป๊ะ’ ทุกอณู ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับการบอกเล่า ทันใดนั้น ชายคนหนึ่ง ก็ย่างกรายเข้ามาด้วยท่วงท่าที่เงียบสงบ หนักแน่น สมมาด...เจ้าสัว

 
     “สวัสดีค่ะคุณพ่อ” มาดามบิ๋ง ไม่รอช้า รีบลุกขึ้นแนะนำคู่สนทนาให้รู้จักกับคุณพ่อสามี ที่เดินเข้ามาสำรวจตรวจตรากิจการของลูกสะใภ้คนโปรดถึงโชว์รูมเฟอร์รารี่
 
     และแล้ว...หลังจากนั้นอีกยาวนานไม่ต่ำกว่า 20 นาที ทั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ หรืออีกนัยหนึ่ง พ่อสามีกับลูกสะใภ้ ก็สนทนากันอย่างเคร่งเครียด ซีเรียส จริงจัง ชี้มือชี้ไม้ วิพากษ์วิจารณ์ กันอย่างคร่ำเคร่ง
 
     เปล่าหรอก สิ่งที่ทั้งคู่ต่างจดจ่อ เฝ้าสังเกตอยู่เป็นนานสองนาน ไม่ใช่การถามไถ่เรื่องยอดขาย ผลกำไร ขาดทุน หรือเรื่องการบริหารงานใดๆ ของบริษัททั้งสิ้น
 
     แต่สิ่งที่เจ้าสัวให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด และเฝ้าบอกกล่าวลูกสะใภ้อย่างจริงจังอยู่เป็นนานสองนานก็คือ
 
     “ไม่ได้ ไม่ได้ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ ต้นไม้บังป้ายโชว์รูมของเราหมดแล้ว ป้ายบริษัทข้างๆ ก็สูงกว่าของเราอีก”
 
     “ไม่ได้ ไม่ได้ ปล่อยไว้ไม่ได้... ทำไมต้นไม้บังเยอะอย่างนี้ แล้วนั่น นั่นป้ายอะไรเล็กนิดเดียว ต้องทำให้สูงกว่านี้ ต้องให้ป้ายเราเห็นชัดกว่านี้ ขับรถมานี่มองไม่เห็นป้ายเลย บังหมด โอ้ย! ไม่ไหว ไม่ไหว”
 
     ยอดขาย 30 คันน่ะ สิวๆ ค่ะ คุณบิ๋ง แต่ที่น่าหนักใจกว่าก็คือ จะทำยังไง้ ยังไง ให้ป้ายโชว์รูมมันยืดสูงขึ้นมา และจะทำยังไง ให้ต้นไม้ที่คุณบิ๋งตั้งอกตั้งใจนำมาปลูกไว้ ต้องเคลื่อนย้ายเพื่อการณ์นี้
 
     แล้วจะหาคำอธิบายยังไง ให้ทีมสถาปนิกของเฟอร์รารี่อิตาลีเขาเข้าใจได้ว่า โชว์รูมของไอ ต้องเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมนิดหน่อย เพราะเอ่อ...’ฮวงจุ้ย’ ยังไม่ได้ดั่งใจป๊ะป๋า
 
     แต่ก็เชื่อมือคุณบิ๋งค่ะ เพราะยอดขาย 30 คันน่ะ ก็ได้มาเพราะฮวงจุ้ยในออฟฟิศที่คุณบิ๋งต่อรองจนสถาปนิกต้นสังกัดเขาใจอ่อนมาแล้วรอบหนึ่ง

 
     เอาเป็นว่า...ขอแก้ฮวงจุ้ยอีกสักรอบเพื่อคุณพ่อสามี...แค่นี้ จิ๊บๆ ค่ะ
     ฮวงจุ้ยดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ยอดขายอาจทะลุเป้า เป็น 2 เท่าของปีแรกก็ได้ ใครจะรู้!
 
                                    .........
                             โดย : นางสาวยิปซี
กำลังโหลดความคิดเห็น