>> “เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า” เป็นคำพูดที่เราได้ยินอยู่บ่อยๆ การที่เด็กจะเติบโตมาเป็นคนอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและปลูกฝังของพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็กๆ แล้วครอบครัวของเหล่าเซเลบ มี "แนวทางการเลี้ยงดูลูก" อย่างไรกันบ้าง?
:: ช้างพลาย กุญชร ณ อยุธยา
“คิดว่าการเลี้ยงลูกแบบเพื่อน สามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง คุยเรื่องนิทาน คุยเรื่องเพื่อน ไม่มีความลับต่อกัน จะไม่จู้จี้ จุกจิกลูก ปล่อยให้ลูกได้คิด ได้ตัดสินใจเอง ที่สำคัญที่สุดคือให้ลูกมีความไว้วางใจในตัวเรา มีอะไรจะได้คุยกันได้ อย่างวันนี้วันเด็ก ก็พยายามหากิจกรรมที่แตกต่างจากที่เคยทำ มาทำด้วยกัน”
:: ช้างต้น กุญชร ณ อยุธยา
“เลี้ยงลูกด้วยสัญชาตญาณ ตั้งใจเลี้ยงให้มีภูมิต้านทานแข็งแรง เนื่องจากโลกเรา เปลี่ยนไปมาก ไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสดูแลเค้าได้นานแค่ไหน เพราะฉะนั้น ลูกเรียนเก่งหรือไม่เก่ง ไม่สำคัญ เพราะไม่คิดว่าการเรียนเก่งจะทำให้ลูกมีความสุขกับการใช้ชีวิตในสังคม แต่พยายามเลี้ยงให้เป็นคนดี จะได้มีเพื่อนพ้องในสังคม”
:: รัฐพร โชควัฒนา
“พ่อแม่ต้องสื่อสารกับลูกได้ ไม่เชิงควบคุม แต่ลูกต้องเชื่อฟัง มีความเกรงใจ พยายามปลูกฝังให้รักธรรมชาติ รักกีฬา ไม่ปลูกฝังค่านิยมในเรื่องวัตถุ เช่น ไม่ค่อยพาไปตามห้างสรรพสินค้า แต่จะใช้เวลาส่วนใหญ่ พาไปเที่ยวทะเล ชมธรรมชาติ พยายามสอนให้รู้จักการแบ่งปัน ตอนนี้วางแผนว่าจะพาไปที่สถานเลี้ยงเด็กต่างๆ ให้ดูเด็กที่ด้อยโอกาส จะเป็นการอธิบายเรื่องการแบ่งปันได้เป็นอย่างดี”
:: ศรัยฉัตร จีระแพทย์
“คิดว่าพ่อแม่เลี้ยงลูกเอง เป็นวิธีที่ดีที่สุด คิดว่าถ้าลูกมีความสุข ความอบอุ่นกับพ่อแม่ ก็จะมีพัฒนาการด้านอื่นๆ ที่ดีไปด้วย น้องเบลล่ารู้จักเรื่องการทำงาน การมีวินัย เพราะจะพาไปเวลาทำงานด้วยตลอด โรงเรียนก็เลือกที่อยู่ใกล้บ้าน ลูกจะได้สุขภาพจิตดี ไม่ต้องมีปัญหากับเรื่องรถติด คิดว่าความสุขของเด็ก จะทำให้เด็กเป็นคนดีของสังคมได้”
:: สยาม-คริสติน่า เศรษฐบุตร
“เลี้ยงลูกแบบให้เป็นธรรมชาติ แบบไม่มาก ไม่น้อยเกินไป ไม่ได้กำหนดว่าโตขึ้นจะต้องเป็นอะไร ให้เค้าเป็นตัวเองมากที่สุด คอยดูว่าลูกเป็นอย่างไร แล้วค่อยช่วยเสริมแต่ง ชอบพาลูกๆ ไปทุกๆ ที่ที่เราไป เพราะคิดว่าแต่ละที่ก็เป็นโอกาสของลูกที่จะได้เรียนรู้ คุยกันตลอด อย่างวันนี้ต้องเดินแฟชั่นก็จะคุยกับลูกก่อน คุยกันด้วยเหตุด้วยผล ถามว่าอยากทำมั้ย น้องบอกไม่ทำ ก็จบ แต่ถ้ารับปากแล้ว ก็จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่รับปากไว้”
:: วินรัตน์ สกาวรัตนานนท์
“ใช้ประสบการณ์ของตัวเองในการเลี้ยงลูก พูดกันแบบมีเหตุ มีผล ตัวอย่างเช่น บ้านเราเปิดทีวีดูกันตลอด ซึ่งอาจจะต่างจากบ้านอื่นที่ไม่อนุญาตให้ลูกดู พูดกับลูกเสมอว่า แม่เปิดโอกาสให้ดูแล้ว เวลาบอกให้ปิด ก็ต้องปิด อย่างวันเด็ก ก็อธิบายให้ลูกฟังว่า ผู้ใหญ่เตรียมของไว้ให้เด็ก ให้เด็กมีความสุข จะได้ ตั้งอกตั้งใจเรียน เมื่อเช้าลูกตอบว่า จะเป็นคนดีเพื่อในหลวง ได้ยินแค่นี้ แม่ก็พอใจที่สุดแล้วคะ”
:: เพ็ญสุภา คชเสนี
“แนวทางในการสร้างสรรค์ลูกให้เป็นคนดีนั้น มีหลักอยู่ 3 อย่าง คือ ความใกล้ชิด แม้จะมีพี่เลี้ยงแต่พ่อแม่ก็ต้องคอยอยู่ใกล้ๆ ความเข้าใจ เข้าใจในยุคสมัยของเด็กที่แตกต่างในช่วงสมัยพ่อแม่เป็นเด็ก และความมีระเบียบวินัย การปลูกฝังเรื่องระเบียบวินัยให้ลูก เราต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูก เพราะพ่อแม่ประพฤติปฏิบัติอย่างไร ลูกก็จะถูกปลูกฝังและซึมซับแบบนั้น คิดว่าแนวทางทั้งสามนี้ จะช่วยปลูกฝังให้เด็กโตขึ้นเป็นคนดีได้” ::Report by FLASH mag.
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
:: ช้างพลาย กุญชร ณ อยุธยา
“คิดว่าการเลี้ยงลูกแบบเพื่อน สามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง คุยเรื่องนิทาน คุยเรื่องเพื่อน ไม่มีความลับต่อกัน จะไม่จู้จี้ จุกจิกลูก ปล่อยให้ลูกได้คิด ได้ตัดสินใจเอง ที่สำคัญที่สุดคือให้ลูกมีความไว้วางใจในตัวเรา มีอะไรจะได้คุยกันได้ อย่างวันนี้วันเด็ก ก็พยายามหากิจกรรมที่แตกต่างจากที่เคยทำ มาทำด้วยกัน”
:: ช้างต้น กุญชร ณ อยุธยา
“เลี้ยงลูกด้วยสัญชาตญาณ ตั้งใจเลี้ยงให้มีภูมิต้านทานแข็งแรง เนื่องจากโลกเรา เปลี่ยนไปมาก ไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสดูแลเค้าได้นานแค่ไหน เพราะฉะนั้น ลูกเรียนเก่งหรือไม่เก่ง ไม่สำคัญ เพราะไม่คิดว่าการเรียนเก่งจะทำให้ลูกมีความสุขกับการใช้ชีวิตในสังคม แต่พยายามเลี้ยงให้เป็นคนดี จะได้มีเพื่อนพ้องในสังคม”
:: รัฐพร โชควัฒนา
“พ่อแม่ต้องสื่อสารกับลูกได้ ไม่เชิงควบคุม แต่ลูกต้องเชื่อฟัง มีความเกรงใจ พยายามปลูกฝังให้รักธรรมชาติ รักกีฬา ไม่ปลูกฝังค่านิยมในเรื่องวัตถุ เช่น ไม่ค่อยพาไปตามห้างสรรพสินค้า แต่จะใช้เวลาส่วนใหญ่ พาไปเที่ยวทะเล ชมธรรมชาติ พยายามสอนให้รู้จักการแบ่งปัน ตอนนี้วางแผนว่าจะพาไปที่สถานเลี้ยงเด็กต่างๆ ให้ดูเด็กที่ด้อยโอกาส จะเป็นการอธิบายเรื่องการแบ่งปันได้เป็นอย่างดี”
:: ศรัยฉัตร จีระแพทย์
“คิดว่าพ่อแม่เลี้ยงลูกเอง เป็นวิธีที่ดีที่สุด คิดว่าถ้าลูกมีความสุข ความอบอุ่นกับพ่อแม่ ก็จะมีพัฒนาการด้านอื่นๆ ที่ดีไปด้วย น้องเบลล่ารู้จักเรื่องการทำงาน การมีวินัย เพราะจะพาไปเวลาทำงานด้วยตลอด โรงเรียนก็เลือกที่อยู่ใกล้บ้าน ลูกจะได้สุขภาพจิตดี ไม่ต้องมีปัญหากับเรื่องรถติด คิดว่าความสุขของเด็ก จะทำให้เด็กเป็นคนดีของสังคมได้”
:: สยาม-คริสติน่า เศรษฐบุตร
“เลี้ยงลูกแบบให้เป็นธรรมชาติ แบบไม่มาก ไม่น้อยเกินไป ไม่ได้กำหนดว่าโตขึ้นจะต้องเป็นอะไร ให้เค้าเป็นตัวเองมากที่สุด คอยดูว่าลูกเป็นอย่างไร แล้วค่อยช่วยเสริมแต่ง ชอบพาลูกๆ ไปทุกๆ ที่ที่เราไป เพราะคิดว่าแต่ละที่ก็เป็นโอกาสของลูกที่จะได้เรียนรู้ คุยกันตลอด อย่างวันนี้ต้องเดินแฟชั่นก็จะคุยกับลูกก่อน คุยกันด้วยเหตุด้วยผล ถามว่าอยากทำมั้ย น้องบอกไม่ทำ ก็จบ แต่ถ้ารับปากแล้ว ก็จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่รับปากไว้”
:: วินรัตน์ สกาวรัตนานนท์
“ใช้ประสบการณ์ของตัวเองในการเลี้ยงลูก พูดกันแบบมีเหตุ มีผล ตัวอย่างเช่น บ้านเราเปิดทีวีดูกันตลอด ซึ่งอาจจะต่างจากบ้านอื่นที่ไม่อนุญาตให้ลูกดู พูดกับลูกเสมอว่า แม่เปิดโอกาสให้ดูแล้ว เวลาบอกให้ปิด ก็ต้องปิด อย่างวันเด็ก ก็อธิบายให้ลูกฟังว่า ผู้ใหญ่เตรียมของไว้ให้เด็ก ให้เด็กมีความสุข จะได้ ตั้งอกตั้งใจเรียน เมื่อเช้าลูกตอบว่า จะเป็นคนดีเพื่อในหลวง ได้ยินแค่นี้ แม่ก็พอใจที่สุดแล้วคะ”
:: เพ็ญสุภา คชเสนี
“แนวทางในการสร้างสรรค์ลูกให้เป็นคนดีนั้น มีหลักอยู่ 3 อย่าง คือ ความใกล้ชิด แม้จะมีพี่เลี้ยงแต่พ่อแม่ก็ต้องคอยอยู่ใกล้ๆ ความเข้าใจ เข้าใจในยุคสมัยของเด็กที่แตกต่างในช่วงสมัยพ่อแม่เป็นเด็ก และความมีระเบียบวินัย การปลูกฝังเรื่องระเบียบวินัยให้ลูก เราต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูก เพราะพ่อแม่ประพฤติปฏิบัติอย่างไร ลูกก็จะถูกปลูกฝังและซึมซับแบบนั้น คิดว่าแนวทางทั้งสามนี้ จะช่วยปลูกฝังให้เด็กโตขึ้นเป็นคนดีได้” ::Report by FLASH mag.
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net