อายไลเนอร์ที่ถูกวาดเส้นไว้คมกริบเหนือดวงตาคู่โตของหญิงสาวร่างสูงโปร่งอย่าง
จันทมน แย้มพันธุ์ ขับเน้นให้เธอดูเก๋ไก๋ไม่แพ้สาวนำสมัยคนไหนๆ ชุดแส็กสีดำที่ผ่านการตัดเย็บอย่างประณีตยิ่งส่งให้สไตล์ฉายชัด จนอาจชวนให้ใครต่อใครสะดุดตากับภาพลักษณ์ภายนอกที่แสนดึงดูด มากกว่าจะสนใจว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอเป็นอย่างไร
ทว่า สิ่งที่เธอเป็น สิ่งที่เธอเชื่อ และสิ่งที่เธอทำต่างหาก ทำให้หลานสาวคนเดียวของ พลเอกยุทธนา แย้มพันธุ์ ทั้งเป็นบุตรีของ พลตรี คันฉัตร แย้มพันธุ์ กับคุณพรพิศ วิชิตชลชัย ผู้นี้ น่าสนใจและแตกต่างไปจากแฟชั่นนิสต้าคนอื่นๆ
เธอทำให้การดั้นด้นฝ่ารถติดเพื่อไปพบกันตามนัดหมาย กลายเป็นการเดินทางที่คุ้มค่า โดยเฉพาะเมื่อได้พบว่า หญิงสาวมาดเก๋คนนี้กำลังขะมักเขม้น ตระเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์สำหรับทำขนมไทยโบราณรสชาติหวานหอมชื่นใจอย่าง ‘บัวลอยมะพร้าวอ่อน’ ที่เจ้าตัวบรรจงปั้นและคั้นน้ำจากดอกอัญชันสีครามสวยเพื่อแต่งแต้มสีสันขนมหวานถ้วยนี้อย่างตั้งอกตั้งใจ
“บัวลอยวันนี้ มนใช้สีที่ได้จากน้ำของดอกอัญชัน เพราะมนอยากได้สีฟ้า แต่มนไม่ใช้เยอะค่ะ เพราะมนอยากได้สีฟ้าอ่อนๆ แบบ ‘เบบี้บลูส์’ และนอกจากสีฟ้าอ่อนแล้ว มนก็ทำบัวลอยสีเขียวอ่อนด้วย เป็นสีที่ได้จากน้ำใบเตยที่มนคั้นเองจากใบเตยที่ปลูกเอาไว้หลังบ้าน ส่วนบัวลอยที่เป็นสีชมพู มนใช้น้ำหวานผสมค่ะ จริงๆ แล้ว ยังมีอีกหลายสีที่เยอะกว่านี้ ที่มนเคยทำก็มีทั้งบัวลอยสีเทาที่ทำจากเผือก หรือบัวลอยสีเหลืองที่ได้จากการคั้นน้ำฟักทองแล้วก็เอาน้ำที่ได้มาผสมกับแป้งข้าวเหนียว"
“มนชอบทานบัวลอยสีหวานๆ อยากทานสีอะไรก็ทำขึ้นมาเอง มนชอบสีที่ได้จากธรรมชาติที่สุด หรือไม่ก็อาจจะเป็นสีจากน้ำหวาน แต่มนจะไม่ใช้สีผสมอาหารเลย”
ดอกอัญชันสีครามเข้มในถ้วยใบใสถูกเธอเตรียมไว้สำหรับคั้นน้ำเพื่อผสมกับแป้งข้าวเหนียวที่ถูกนวดให้นุ่มได้ที่ ระหว่างรินน้ำสีครามลงสู่เนื้อแป้งอย่างเบามือ มนก็บอกเล่าถึงการทำขนมบัวลอยในสไตล์ของเธออย่างเพลิดเพลิน
“วิธีเลือกดอกอัญชันก็เลือกดอกปรกบานแล้ว ใส่ลงไปแช่ในน้ำ แล้วสีของดอกอัญชันก็จะออกมาเอง ไม่เกิน 5 นาทีค่ะ”
“ระหว่างที่ใส่น้ำอัญชันผสมกับแป้ง เราต้องค่อยๆ ใส่น้ำลงไปทีละนิด กะให้แป้งเหนียวกำลังดี ถ้าใส่น้ำมากเกินไป แป้งก็จะเละ ปั้นไม่ได้ สำหรับใครที่ชอบบัวลอยสีเข้มๆ ก็ใส่ดอกอัญชันเยอะๆ แต่มนจะใช้ดอกอัญชันแค่นิดหน่อย ไม่ถึง 10 ดอก เพราะมนชอบสีฟ้าอ่อนๆ มนว่าสวยดี มนชอบสีแบบนี้ สีอ่อนๆ ฟ้าอ่อน ชมพูอ่อน เขียวอ่อน ดูหวานเหมือน ‘อลิซอินวันเดอร์แลนด์’ ”
เธอหัวเราะให้กับความคิดตัวเอง ที่เปรียบความหวานสดใสของขนมแป้งถ้วยนี้ว่าเป็นสีสันอันแสนมหัศจรรย์ในจินตนาการ
แต่นอกจากสีฟ้าอ่อนที่ได้จากดอกอัญชัน สีเขียวสาวยที่ได้จากน้ำใบเตย รวมถึงสีชมพูหวานแหววจากน้ำหวานแล้ว มนก็ยังบอกเล่าเพิ่มเติมถึงบัวลอยสีอื่นๆ ที่เธอชื่นชอบ และตั้งใจทำอย่างพิถีพิถันในยามที่มีเวลามากพอ อาทิ บัวลอยสีเทาซึ่งเป็นสีที่ได้จากเผือกต้ม หรือบัวลอยสีเหลืองที่ได้จากฟักทอง
และใช่เพียงขนมบัวลอยเท่านั้นที่เธอแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ปลายจวักอันเจนจัดผสานกับความละเมียดละไมใส่ใจในแต่ละขั้นตอน เพราะแท้ที่จริง สาวสมัยใหม่คนนี้ยังชื่นชอบและโปรดปรานการทำอาหารไทยและขนมไทยโบราณเมนูอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขนมตระกูล ‘ทอง’ อย่างทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ที่สืบทอดมานับแต่รัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช อันมีสาวเชื้อสายโปรตุกีส นามท้าวทองกีบม้าหรือมารี กีมาร์ เดอปินา ประยุกต์ขึ้นและเผยแพร่ในรั้วรอบขอบวังของแผ่นดินด้ามขวานเมื่อราว 300 ปีก่อน
มนบอกว่าเธอเรียนรู้เคล็ดลับการทำขนมโบราณและอาหารไทยสารพัดเมนูจากครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณ ที่คอยบอกสอนและแนะนำในวิชาคหกรรม เมื่อครั้งที่เธอยังศึกษาอยู่ในรั้วโรงเรียนจิตรลดา การที่ได้รับรู้ ได้เห็นถึงกระบวนการอันละเมียดละไมพิถีพิถันเหล่านั้น ได้ปลูกฝังให้เธอหลงรักและชื่นชอบการทำอาหารไทยไปโดยปริยาย
แต่นอกจากขนมตระกูล ‘ทอง’ แล้ว เธอยังชื่นชอบขนมกล้วยและขนมใส่ใส้ไม่น้อยไปกว่ากัน ทั้งยังมักตระเวนตะลุยชิมรสมือของแม่ค้าวัยคุณยายคุณย่า ที่มักใส่กระบุงแบกตะกร้ามานั่งขายตามตลาดน้ำที่ต่างจังหวัด
กระนั้น ก็ไม่ใช่เพียงขนมไทยหรืออาหารไทยที่มนหลงใหล เพราะในความเป็นจริง เธอโปรดปรานทั้งขนมไทยหรือขนมฝรั่งทั้งทำได้ชำนาญไม่น้อยไปกว่ากัน กระทั่งเรียกได้ว่า คัพเค้กหอมนุ่มฝีมือเธอก็อร่อยไม่แพ้ใคร
แต่ไม่ว่าอย่างไร เธอก็ยอมรับว่า อาหารไทยและขนมไทยทำยากกว่ามาก เพราะคนไทยมักใช้วิธีคาดคะเนด้วยทักษะและความชำนาญที่สั่งสม โดยไม่ต้องมานั่งตวงให้ตรงตามมาตรวัด
“ขนมไทยทำยากกว่ามากๆ ค่ะ ไม่เหมือนเค้กที่หากมีสูตรแล้วก็ต้องทำตามสูตรเป๊ะๆ ไม่งั้นเค้กจะไม่ฟู เนื้อเค้กจะแข็งไป ต่างจากขนมไทย ที่ขึ้นอยู่กับรสมือคนทำ ว่าชอบแบบไหน รสยังไง”
เธอบอกว่าเธอรักอาหารไทย และช่วงนี้ก็กำลังฝึกปรือรสมือให้จัดจ้านสมใจเพื่อเตรียมไว้สำหรับการใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาปริญญาโทด้าน FASHION MARKETING AND MANAGEMENT ณ สถาบัน ESMOD PARIS ที่ฝรั่งเศส ซึ่งที่นั่น อาหารไทยรสชาติถูกลิ้นถูกจริตคนไทยนั้น หายากเต็มที
ทั้งผัดกะเพราที่โชยกลิ่นหอมจนยั่วกระเพาะ แกงเหลืองรสจัด รวมถึงแกงเลียงรสอร่อย รวมทั้งยำถั่วพูรสเด็ดจึงกลายเป็นเมนูทดลองของเธอในทุกๆ วันที่มีเวลาว่าง
“ทุกอย่างที่ว่ามา เป็นอาหารที่มนชอบทั้งนั้นเลยค่ะ แต่ถ้ามนไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศสแล้วก็คงจะหาวัตถุดิบยาก มนก็คงต้องประยุกต์เอา เช่น ถ้าไม่มีถั่วพูแล้ว มนก็คงใช้อย่างอื่น ยังมีอีกอย่างที่มนชอบมากๆ ก็คือปลากะพงทอดน้ำปลา แต่คงหาวัตถุดิบยากมากเลยค่ะ”
มะพร้าวอ่อนนุ่มลิ้นที่โรยหน้าด้วยบัวลอยสีหวาน ถูกยกมาวางตรงหน้า กลิ่นหอมรื่นชื่นใจของดอกอัญชันในขนมก้อนกลมสีฟ้าสวย รวมถึงเม็ดแป้งหอมนุ่มเจือกลิ่นใบเตยและรสชาติหอมหวานของน้ำหวานที่ถูกผสมเจือจาง ชวนให้การพูดคุยถึงความรักที่เธอมีต่ออาหารไทยและเมืองไทย เต็มไปด้วยรสชาติอันแสนประทับใจ
เป็นรสชาติที่จันทมนยินดีจะแบ่งปันและบอกเล่าด้วยความสนุก เพราะเธอบอกว่า ขนมไทยและอาหารไทย คือสิ่งที่ฝังแน่นในใจนับแต่เด็ก เป็นรสชาติเฉพาะตัว ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร เธอบอกว่า เธอจะจดจำและนำติดตัวไปทุกที่ แม้ในวันนี้ ที่เธอจำต้องโบกมือลาเมืองไทยชั่วคราว
...เพื่อไปใช้ชีวิตในต่างแดนซึ่งไกลห่างกันคนละฟากโลก
…........
เรื่องโดย : นางสาวยิปซี
ภาพโดย : วรงค์กรณ์ ดินไทย
*หมายเหตุ ขอบคุณร้าน Felice เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายทำ
