นับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นแก่ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ.ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เมื่อ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเปิดโครงการ “จากใจถวายพระเทพฯ” ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำหนักงานใหญ่ โดยมี ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวณิช ประธานกรรมการมูลนิธิฯ, คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ เฝ้ารับเสด็จ
ภายในงานอุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยวีดิทัศน์โครงการ “จากใจถวายพระเทพฯ” และมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานภาพวาด และบทความตามจินตนาการของเด็กๆในโครงการ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ รวมไปถึงการขับกล่อมบทกวีอันไพเราะ แต่แฝงไปด้วยความหมายอันลึกซึ้งจาก อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ พร้อมกันนี้ เด็กๆ ในมูลนิธิจำนวน 55 คน ยังได้ร่วมกันขับร้องเพลง “เด็กดั่งดวงดาว” ถวายองค์อุปถัมภ์อีกด้วย
รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิฯ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานว่า โครงการ “จากใจถวายพระเทพฯ” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพิเศษที่ทางมูลนิธิจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสที่สมเด็จพระเทพฯ จะทรงเจริญพระชนมายุ 55 พรรษา ในวันที่ 2 เม.ย.53 และเพื่อส่งเสริมให้เด็กยากไร้กว่า 30,000 คนในความดูแลของมูลนิธิ ได้เรียนรู้เทคนิคการคิดเชิงสร้างสรรค์และวิธีถ่ายทอดจินตนาการกับประสบการณ์ออกมาเป็นภาพวาด และแต่งเรื่องราวๆต่างขึ้นมาผ่านงานเขียนเรียงความ
“มูลนิธิมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะแสดงให้เห็นว่า เด็กทุกคนมีศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ แม้ว่าเด็กส่วนใหญ่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิ จะมาจากครอบครัวในถิ่นทุรกันดารที่ขาดแคลนด้านวัตถุ อันเป็นเหตุให้ไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ มีอาหารกินให้อิ่มท้อง และไม่ค่อยมีที่เรียนดีๆ แต่เมื่อเด็กเหล่านี้ได้รับการอุปการะดูแลจากมูลนิธิ ได้รับความสนับสนุนด้านชีวิตความเป็นอยู่ การศึกษาเล่าเรียน การเรียนรู้และฝึกทักษะชีวิต ตลอดจนจริยธรรมและสังคมทั้งในและนอกห้องเรียน ก็ทำให้เด็กๆ เหล่านี้โตขึ้นมาอย่างงดงามและเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณค่าต่อบ้านเมือง”
ส่วนนักการทูตหนุ่ม วสุ แสงสิงแก้ว หนึ่งในผู้ใหญ่ใจดีที่รับอุปการะเด็กในมูลนิธิมาโดยตลอด บอกว่า รู้สึกดีใจที่เห็นเด็กๆ มีรอยยิ้มสดใส มีโอกาสทางการศึกษาที่ดีขึ้น เพราะการศึกษาถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาคนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเด็กๆเหล่านี้ต่อไปในอนาคตเขาจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ให้มีความมั่นคงต่อไป
“อยากชวนทุกคนที่พอมีกำลังทรัพย์หรือไม่เดือดร้อนเรื่องรายได้ มาช่วยกันอุปถัมภ์เด็กในมูลนิธิให้พวกเขาได้รับโอกาสทางการศึกษาและโอกาสที่ดีในสังคม ซึ่งสิ่งที่เราจะได้รับกลับคืนมาจากมูลนิธิ อาจไม่ใช่ตัวเงินแต่มันคือความสุขของการที่เราได้เป็นผู้ให้ และเห็นคนที่รับมีความสุข เพียงเท่านี้ก็ทำให้เรามีความสุขได้แล้ว” ชายหนุ่มกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
สนใจร่วมสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิ เพื่อส่งเสริมให้เด็กผู้ยากไร้ได้มีโอกาสเทียบเท่าบุคคลทั่วไปในสังคม สามารถแจ้งความประสงค์ ได้ที่มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. ในพระราชูปถัมภ์ฯ หรือ โทร. 0-2747-2600
