โกรท แฟกเตอร์ (Growth Factor) อีกหนึ่งนวัตกรรมความงามซึ่งตกเป็นข่าวล่าสุดว่า ไม่ใช่วิธีการรักษาที่เป็นไปตามมาตรฐาน ในวงการแพทย์ไม่เคยให้การยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นสมาคมแพทย์ผิวหนัง, แพทยสภา, ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย, และแม้กระทั่งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารสุข ก็ออกโรงแจ้งให้สถานบริการเสริมความงามที่เปิดคอร์สโกรทแฟกเตอร์ เธอราปี (Growth Factor Therapy) ระงับการบริการเมนูความงามนี้ จนกว่าแพทยสภาจะมีวินิจฉัยว่าถูกต้องตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่
สาวๆ ท่านใดกำลังคิดจะเปิดคอร์สฯ หรือเปิดไปแล้ว ต้องตัดอกตัดใจ อย่าเสียดายตังค์เลยค่ะ รักษาสุขภาพไว้สำคัญกว่าความงามภายนอกนัก และระหว่างนี้หลายคนคงยังสงสัยอยู่ว่า กรรมวิธีปั่นเลือดตัวเองแล้วไปฉีดบนใบหน้านั้น มันจะทำให้หน้าเด้ง ลบรอยเหี่ยวย่นตีนกาได้อย่างไร ทำไมฮิตกันจัง
ต่อประเด็นนี้ ต้องถามหมอผู้เชี่ยวชาญ นพ. รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ หัวหน้าศูนย์ผิวหนัง ความงาม และเลเซอร์ รพ.นครธน, แพทย์แผนกผิวหนังและ ศูนย์สุขภาพผิวพรรณ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท, ผู้ก่อตั้งรัสมิ์ภูมิคลินิก สาขาหมู่บ้านมณียามาสเตอร์พีซ รัตนาธิเบศร์ นนทบุรี และมหาชัย
“ทำกันมานานแล้ว แต่ระยะหลังโฆษณาออกวิทยุถี่มาก ปัญหาคือ โฆษณาเกินจริง, นำมาใช้ในเรื่องความงามโดยไม่ผ่านอย.(สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา), และราคาแพง
ผมขออธิบายที่มาของการนำเลือดมาปั่นแล้วฉีดไปบนใบหน้า แล้วจะลบริ้วรอย ทำให้อ่อนวัยก่อนว่า มันเป็นแค่ความคิด พูดง่ายๆ คือ แค่ทฤษฎี ไม่ใช่การปฏิบัติที่เห็นผลออกมาชัดเจนจริงๆ ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือให้การยอมรับ
เลือดคนเราประกอบด้วยเกล็ดเลือด มี Plasma มีเม็ดเลือด สมมติว่าไปบริจาคเลือด เขาก็เอาเลือดเราไปปั่น มันจะแยกชั้น ออกเป็นชั้นที่เป็นน้ำใสๆ ชั้นที่เป็นเกล็ดเลือด ชั้นที่เป็นเม็ดเลือด และก็ดูดส่วนใช้งานที่เป็นเกล็ดเลือดไป เรียกว่า PRP Therapy
PRP มาจาก Platelet-Rich Plasma
Platelet แปลว่า เกล็ดเลือด เป็นตัวทำให้เลือดแข็งตัว Rich Plasma ก็คือ ส่วนที่มีเกล็ดเลือดเยอะๆ ปกติทางการแพทย์ใช้ในการรักษาโรคดูแลผู้ป่วย นำส่วนที่มีเกล็ดเลือดเยอะๆ ไปฉีดให้กับคนไข้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ เพื่อเสริมเกล็ดเลือดให้คนไข้ หรือนำส่วนที่มีเม็ดเลือดเยอะๆ ไปให้คนไข้ที่เสียเลือดมากจากอุบัติเหตุ เป็นต้น
ในเกล็ดเลือดมีสารตัวหนึ่งที่เรียกว่า โกรท แฟกเตอร์ คือ สารที่กระตุ้นให้เกิดการเติบโต ทีนี้เขาก็หวังด้วยไอเดียที่ว่า ในเมื่อเกล็ดเลือดมีสารโกรท แฟกเตอร์ เป็นไปได้ว่าจะเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายเรา active ขึ้นมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการศึกษาจากหลอดทดลองว่า เจ้าโกรท แฟกเตอร์ อาจไปกระตุ้นให้เซลล์เติบโตได้เร็วกว่าปกติ
เซลล์ที่ว่านี้ ก็คือ เซลล์ Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจน (collagen) พอคอลลาเจนมากขึ้นผิวก็จะอ่อนวัยลง
เขาจึงเอากรรมวิธีปั่นเลือดจาก PRP Therapy บวกไอเดียโกรท แฟกเตอร์ มาฉีดบนหน้าคน โดยดึงเลือดไปอย่างน้อย 10 ซีซี บางคนอาจต้องถึง 20 ซีซี (ปกติเวลาไปเจาะเลือดทั่วไปประมาณ 5 ซีซี) อยู่ที่ว่าเขาต้องการเอาเลือดไปมากน้อยแค่ไหน เจาะเลือดจากข้อพับแขนทั้งสองข้าง แล้วเอาเลือดแบ่งใส่หลอด (tube) และเอาหลอดไปเข้าเครื่องปั่น มันจะเป็นร่องสำหรับใส่หลอดโดยเฉพาะ และเครื่องฯก็จะหมุนๆๆ แยกส่วน นำเกล็ดเลือดที่สกัดจนกลายเป็นเนื้อซีรัม (serum) ที่มีโกรท แฟกเตอร์ ฉีดเข้าไปบนใบหน้า คอ แต่เขาจะทายาชาก่อนนะครับ ไม่งั้นจะเจ็บมากเกิน และคอยเช็ดไม่ให้เลือดซึม
การฉีดมี 2 แบบด้วยกัน แบบแรก ในหลอดทำให้เกล็ดเลือดกลายเป็นแท่ง มีความหนืดเยอะๆ ฉีดไปตามร่อง แทนฟิลเลอร์(filler) ผมเคยลองกับแม่ตัวเอง เพราะอะไรเข้ามาใหม่ เราเป็นหมอเราต้องลอง ปรากฏอยู่ได้ 4-5 วันก็หายไปเลย เหมือนเราฉีดน้ำเข้าไป สักพักก็ฟุบหายไป ตอนแรกคนไข้จะรู้สึกโอ้..ดูดี แต่มันแค่ 4-5 วัน ซึ่งพนักงานขายของเขาก็จะบอกว่าไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ต้อง 3 ครั้งบ้าง 4 ครั้งบ้าง ห่างกัน 1-2 อาทิตย์ ก็เชียร์ให้ซื้อเป็นคอร์ส ส่วนแบบที่สอง จะทำให้ใสนิดหนึ่ง ฉีดเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฉีดฉึ่กๆๆ พรมทั่วหน้า เป็น 100 จุด ยาวลงไปถึงลำคอด้วย
ทำเสร็จก็มีจุดบวมช้ำ โอเค ไม่อันตราย แค่เห็นเป็นรอยจุดๆ บนใบหน้า อย่างน้อย 3-5 วัน แต่ต้องระวังการติดเชื้อ เป็นธรรมดาเมื่อเข็มจิ้มลงไป เหมือนเป็นการเปิดทางให้เชื้อโรคเข้าไปอยู่แล้ว ก็มีโอกาสติดเชื้อ เป็นหนอง เป็นสิว ขึ้นอยู่กับความสะอาด และถ้าเป็นเลือดของเราเอง ปลอดภัยอยู่แล้ว ถึงเลือดตัวเองมีปัญหา ก็เป็นเลือดตัวเองจากแขนฉีดไปที่ใบหน้าตัวเอง จึงไม่เป็นปัญหา
แต่จะเป็นปัญหาถ้าสลับหลอด เป็นความผิดพลาดทางเทคนิคซึ่งเกิดขึ้นได้ ใครจะไปรู้ เวลาเจาะเลือดไป เรานอนอยู่เฉยๆ เจ้าหน้าที่เดินไปเดินมา อาจสลับหลอดใครมาก็ได้
ราคาขายคอร์สตั้งแต่ 2-3 หมื่นถึง 6-7 หมื่น ซึ่งผลที่ได้มันไม่ชัดเจนเท่ากับราคาที่จ่าย
ทางยุโรปก็มีการนำ PRP Therapy มาฉีดบนใบหน้า เอามาปั่นเหมือนกันแต่รายละเอียดในการแยกชิ้นส่วนต่างกัน ชุดเครื่องปั่นมันเป็นเซต (set) เฉพาะสำหรับทำความงาม ของไทยเรานำไอเดียนี้มาใช้ โดยใช้ชุดเครื่องปั่นเซตเดียวกันวิธีเดียวกันกับที่ใช้รักษาคนไข้เกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งไม่มีใครรับรอง”
สาวๆ ท่านใดกำลังคิดจะเปิดคอร์สฯ หรือเปิดไปแล้ว ต้องตัดอกตัดใจ อย่าเสียดายตังค์เลยค่ะ รักษาสุขภาพไว้สำคัญกว่าความงามภายนอกนัก และระหว่างนี้หลายคนคงยังสงสัยอยู่ว่า กรรมวิธีปั่นเลือดตัวเองแล้วไปฉีดบนใบหน้านั้น มันจะทำให้หน้าเด้ง ลบรอยเหี่ยวย่นตีนกาได้อย่างไร ทำไมฮิตกันจัง
ต่อประเด็นนี้ ต้องถามหมอผู้เชี่ยวชาญ นพ. รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ หัวหน้าศูนย์ผิวหนัง ความงาม และเลเซอร์ รพ.นครธน, แพทย์แผนกผิวหนังและ ศูนย์สุขภาพผิวพรรณ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท, ผู้ก่อตั้งรัสมิ์ภูมิคลินิก สาขาหมู่บ้านมณียามาสเตอร์พีซ รัตนาธิเบศร์ นนทบุรี และมหาชัย
“ทำกันมานานแล้ว แต่ระยะหลังโฆษณาออกวิทยุถี่มาก ปัญหาคือ โฆษณาเกินจริง, นำมาใช้ในเรื่องความงามโดยไม่ผ่านอย.(สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา), และราคาแพง
ผมขออธิบายที่มาของการนำเลือดมาปั่นแล้วฉีดไปบนใบหน้า แล้วจะลบริ้วรอย ทำให้อ่อนวัยก่อนว่า มันเป็นแค่ความคิด พูดง่ายๆ คือ แค่ทฤษฎี ไม่ใช่การปฏิบัติที่เห็นผลออกมาชัดเจนจริงๆ ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือให้การยอมรับ
เลือดคนเราประกอบด้วยเกล็ดเลือด มี Plasma มีเม็ดเลือด สมมติว่าไปบริจาคเลือด เขาก็เอาเลือดเราไปปั่น มันจะแยกชั้น ออกเป็นชั้นที่เป็นน้ำใสๆ ชั้นที่เป็นเกล็ดเลือด ชั้นที่เป็นเม็ดเลือด และก็ดูดส่วนใช้งานที่เป็นเกล็ดเลือดไป เรียกว่า PRP Therapy
PRP มาจาก Platelet-Rich Plasma
Platelet แปลว่า เกล็ดเลือด เป็นตัวทำให้เลือดแข็งตัว Rich Plasma ก็คือ ส่วนที่มีเกล็ดเลือดเยอะๆ ปกติทางการแพทย์ใช้ในการรักษาโรคดูแลผู้ป่วย นำส่วนที่มีเกล็ดเลือดเยอะๆ ไปฉีดให้กับคนไข้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ เพื่อเสริมเกล็ดเลือดให้คนไข้ หรือนำส่วนที่มีเม็ดเลือดเยอะๆ ไปให้คนไข้ที่เสียเลือดมากจากอุบัติเหตุ เป็นต้น
ในเกล็ดเลือดมีสารตัวหนึ่งที่เรียกว่า โกรท แฟกเตอร์ คือ สารที่กระตุ้นให้เกิดการเติบโต ทีนี้เขาก็หวังด้วยไอเดียที่ว่า ในเมื่อเกล็ดเลือดมีสารโกรท แฟกเตอร์ เป็นไปได้ว่าจะเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายเรา active ขึ้นมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการศึกษาจากหลอดทดลองว่า เจ้าโกรท แฟกเตอร์ อาจไปกระตุ้นให้เซลล์เติบโตได้เร็วกว่าปกติ
เซลล์ที่ว่านี้ ก็คือ เซลล์ Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจน (collagen) พอคอลลาเจนมากขึ้นผิวก็จะอ่อนวัยลง
เขาจึงเอากรรมวิธีปั่นเลือดจาก PRP Therapy บวกไอเดียโกรท แฟกเตอร์ มาฉีดบนหน้าคน โดยดึงเลือดไปอย่างน้อย 10 ซีซี บางคนอาจต้องถึง 20 ซีซี (ปกติเวลาไปเจาะเลือดทั่วไปประมาณ 5 ซีซี) อยู่ที่ว่าเขาต้องการเอาเลือดไปมากน้อยแค่ไหน เจาะเลือดจากข้อพับแขนทั้งสองข้าง แล้วเอาเลือดแบ่งใส่หลอด (tube) และเอาหลอดไปเข้าเครื่องปั่น มันจะเป็นร่องสำหรับใส่หลอดโดยเฉพาะ และเครื่องฯก็จะหมุนๆๆ แยกส่วน นำเกล็ดเลือดที่สกัดจนกลายเป็นเนื้อซีรัม (serum) ที่มีโกรท แฟกเตอร์ ฉีดเข้าไปบนใบหน้า คอ แต่เขาจะทายาชาก่อนนะครับ ไม่งั้นจะเจ็บมากเกิน และคอยเช็ดไม่ให้เลือดซึม
การฉีดมี 2 แบบด้วยกัน แบบแรก ในหลอดทำให้เกล็ดเลือดกลายเป็นแท่ง มีความหนืดเยอะๆ ฉีดไปตามร่อง แทนฟิลเลอร์(filler) ผมเคยลองกับแม่ตัวเอง เพราะอะไรเข้ามาใหม่ เราเป็นหมอเราต้องลอง ปรากฏอยู่ได้ 4-5 วันก็หายไปเลย เหมือนเราฉีดน้ำเข้าไป สักพักก็ฟุบหายไป ตอนแรกคนไข้จะรู้สึกโอ้..ดูดี แต่มันแค่ 4-5 วัน ซึ่งพนักงานขายของเขาก็จะบอกว่าไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ต้อง 3 ครั้งบ้าง 4 ครั้งบ้าง ห่างกัน 1-2 อาทิตย์ ก็เชียร์ให้ซื้อเป็นคอร์ส ส่วนแบบที่สอง จะทำให้ใสนิดหนึ่ง ฉีดเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฉีดฉึ่กๆๆ พรมทั่วหน้า เป็น 100 จุด ยาวลงไปถึงลำคอด้วย
ทำเสร็จก็มีจุดบวมช้ำ โอเค ไม่อันตราย แค่เห็นเป็นรอยจุดๆ บนใบหน้า อย่างน้อย 3-5 วัน แต่ต้องระวังการติดเชื้อ เป็นธรรมดาเมื่อเข็มจิ้มลงไป เหมือนเป็นการเปิดทางให้เชื้อโรคเข้าไปอยู่แล้ว ก็มีโอกาสติดเชื้อ เป็นหนอง เป็นสิว ขึ้นอยู่กับความสะอาด และถ้าเป็นเลือดของเราเอง ปลอดภัยอยู่แล้ว ถึงเลือดตัวเองมีปัญหา ก็เป็นเลือดตัวเองจากแขนฉีดไปที่ใบหน้าตัวเอง จึงไม่เป็นปัญหา
แต่จะเป็นปัญหาถ้าสลับหลอด เป็นความผิดพลาดทางเทคนิคซึ่งเกิดขึ้นได้ ใครจะไปรู้ เวลาเจาะเลือดไป เรานอนอยู่เฉยๆ เจ้าหน้าที่เดินไปเดินมา อาจสลับหลอดใครมาก็ได้
ราคาขายคอร์สตั้งแต่ 2-3 หมื่นถึง 6-7 หมื่น ซึ่งผลที่ได้มันไม่ชัดเจนเท่ากับราคาที่จ่าย
ทางยุโรปก็มีการนำ PRP Therapy มาฉีดบนใบหน้า เอามาปั่นเหมือนกันแต่รายละเอียดในการแยกชิ้นส่วนต่างกัน ชุดเครื่องปั่นมันเป็นเซต (set) เฉพาะสำหรับทำความงาม ของไทยเรานำไอเดียนี้มาใช้ โดยใช้ชุดเครื่องปั่นเซตเดียวกันวิธีเดียวกันกับที่ใช้รักษาคนไข้เกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งไม่มีใครรับรอง”
