ผู้หญิงสมัยนี้หันมาสนใจดูแลตัวเองกันมากขึ้น เรื่องที่เป็นที่นิยมและสนใจมากก็คือ การทำรีแพร์ หลายคนอาจจะสงสัยว่ารีแพร์คืออะไร ถ้าดูความหมายก็คือการซ่อมแซม ซึ่งในที่นี้หมายถึงบริเวณช่องคลอดนั่นเอง แต่ว่าวิธีนี้ดีที่สุดหรือเปล่านั้น เรามาหาคำตอบจาก รศ.ดร.นพ.ดิฐกานต์ บริบูรณ์หิรัญสาร สูติแพทย์ ศิริราชพยาบาล ไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
ทำไมต้องรีแพร์
การรีแพร์จะทำเมื่อผนังช่องคลอดเกิดการหย่อนยาน ซึ่งในแต่ละรายที่ต้องได้รับการรักษาก็มีอาการที่หนักเบาแตกต่างกันไป แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเป้าหมายในการทำรีแพร์อย่างถูกต้องกันก่อนดีกว่า
การทำรีแพร์ในทางการแพทย์ถือเป็นการรักษาอาการผิดปกติของการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เวลาไอหรือจามมีปัสสาวะเล็ด ปวดปัสสาวะแล้วไม่สามารถกลั้นได้นานต้องรีบไปห้องน้ำ ซึ่ง อาการนี้เกิดขึ้นเนื่องจากผนังช่องคลอดด้านหน้าที่อยู่ติดกับกระเพาะปัสสาวะ เกิดภาวะหย่อนขึ้นมา จึงให้ไปดึงรั้งกระเพาะปัสสาวะให้ต่ำลงมาด้วย จึงทำให้เกิดอาการผิดปกติขึ้นในที่สุด
วิธีรักษาคือ ผ่าตัดเพื่อให้ผนังช่องคลอดกลับไปเข้ารูปเข้ารอย ถ้าเป็นหนักว่าอีกก็จะเป็นการหย่อนยานของมดลูกด้วย ก็จะต้องมีการผ่าตัดมดลูกเพราะปากมดลูกกับช่องคลอดนั้นเป็นส่วนที่ต่อกันอยู่ ถ้ากล้ามเนื้อหย่อนก็ไม่สามารถค้ำมันได้เหมือนเก่า
สำหรับสาเหตุหลักๆ ของการหย่อนยานของผนังมดลูกคือ การคลอดลูก เนื่องจากการคลอดตามธรรมชาติแต่ละครั้ง ช่องคลอดจะขยายใหญ่ขึ้น ตอนคลอดมีช่วงเวลาที่ต้องเบ่งคลอด เลยทำให้ผนังช่องคลอดเกร็งแล้วหย่อนลงมา และยิ่งคุณแม่คนใดที่คลอดลูกหลายคนก็มีโอกาสที่ผนังมดลูกจะหย่อนยานมากขึ้น
สองวิธี...ทำรีแพร์
การทำรีแพร์ไม่ได้มีอยู่แค่แบบเดียวอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน แต่มีทำอยู่ 2 รูปแบบคือ การทำรีแพร์ด้วยการผ่าตัดเล็ก และการผ่าตัดใหญ่
รีแพร์แบบผ่าตัดเล็ก
วิธีการ: เป็นการผ่าตัดตกแต่งช่องคลอดส่วนล่าง ตัดส่วนผนังช่องคลอดส่วนเกินออกไป แล้วเย็บผนังช่องคลอดเข้าหากัน เพื่อช่องคลอดจะมีความกระชับกันมากขึ้น ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังผ่าตัดคนไข้สามารถกลับบ้านได้เลย แล้วแพทย์จะนัดมาดูแผลอีกทีหลังจากผ่าตัดหนึ่งสัปดาห์
เหมาะกับ: คนไข้ที่มีช่องคลอดหย่อนยาน ช่องคลอดฉีกขาดจากการคลอดบุตร หรือช่องคลอดกว้างผิดปกติ
การดูแล: เหมือนการเย็บแผลทั่วไป ที่ไม่ควรให้แผลนั้นได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรง
ค่าใช้จ่าย: ประมาณ 7,000 - 8,000. บาท
รีแพร์แบบผ่าตัดใหญ่
วิธีการ: เป็นผ่าตัดตกแต่งทั้งด้านหน้าและหลังของผนังช่องคลอด และแก้ไขอาการต่างๆ ที่พบ เพื่อรักษาภาวะช่องคลอดหย่อนยานอย่างรุนแรง
เหมาะกับ: คนที่มีอาการปัสสาวะเล็ดเวลาไอจาม ปัสสาวะซึมบ่อย กระบังลมหรือมดลูกหย่อน ปวดท้องน้อยเวลามีเซ็กซ์
การดูแล: ต้องนอนพักที่โรงพยาบาลประมาณ 3-4 วัน และหลังการผ่าตัดควรงดการทำงานหนักประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน ควรใส่ผ้าอนามัยหลังจากผ่าตัดสัก 2-3 วัน เพราะอาจมีเลือดซึมออกมาจากแผล และทำความสะอาดโดยการนั่งแช่ในน้ำอุ่นประมาณ 10 นาที วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันประมาณ 2 สัปดาห์
ค่าใช้จ่าย: ประมาณ 25,000-30,000 บาท
การจะเลือกใช้วิธีใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ ดังนั้นก่อนคิดจะทำรีแพร์ นอกจากศึกษาข้อมูลและปรึกษาคุณสามีหรือคุณพ่อของลูกแล้ว คุณภรรยาหรือในกรณีเป็นคุณแม่แล้วควรไปปรึกษาสูติแพทย์ ซึ่งอาจจะเป็นแพทย์ที่คุณแม่ฝากครรภ์อยู่ก็ได้
เหตุที่ต้องผ่านการวินิจฉัยของแพทย์ เป็นเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นกับคุณผู้หญิงแต่ละคนแตกต่างกันไป ลักษณะความหย่อยยานของช่องคลอดก็มากน้อยต่างกัน การเลือกวิธีทำรีแพร์ให้เหมาะ จึงขึ้นอยู่กับสภาวะของตัวคุณเองเป็นสำคัญ
และที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดแบบไหน ทั้งคู่ชายหญิงต้องใจเย็น งดกุ๊กกิ๊กกันอย่างน้อย 45 วัน
เตรียมตัวเมื่อคิดรีแพร์
การเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัดรีแพร์ ไม่ต่างกับการเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัดทั่วไปมากนัก คือ
1. ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และเตรียมจิตใจของคุณให้แจ่มใส ไม่ต้องกังวลมากเกินไป
2. ควรงดอาหารและน้ำ ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง สำหรับการผ่าตัดใหญ่
3. ในการทำรีแพร์นั้น คุณหมอจะแนะนำให้ทำหลังจากมีประจำเดือนไปแล้วไม่เกิน 1 สัปดาห์
เซ็กซ์ดีได้ด้วยการทำรีแพร์จริงรึ
ส่วนในเรื่องความเข้าใจที่ว่า การทำรีแพร์เพื่อให้ช่องคลอดกระชับขึ้นนี้ สามารถช่วยเพิ่มความรู้สึกพึงพอใจทางเพศได้นั้น รศ.ดร.นพ.ดิฐกานต์ บริบูรณ์หิรัญสาร ให้ความเห็นว่า “อาจเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะสาเหตุของของความไม่สุขสมทางเพศนั้น ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากเรื่องทางร่างกาย แต่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของคู่รักมากกว่า อารมณ์ความรู้สึกที่ของการใช้ชีวิตร่วมกันช่วงนั้น”
การทำรีแพร์ปัจจุบันนี้ลดลงไปมากเพราะเนื่องจากวิธีการคลอดที่ทันสมัย การดูแลของทีมงานและแพทย์ดี จึงทำให้ใช้เวลาในการคลอดน้อยลง ทั้งหลังการคลอดยังมีการดูแลตัวเองเรื่องนี้เพื่อให้กลับคืนสู่ปกติได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะการฝึกขมิบ และการดูแลตัวเองตามคำแนะนำแพทย์
ฉะนั้นคุณแม่บางคนที่คิดจะทำรีแพร์หลังคลอดลูกเลยนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้แนะว่าไม่ควรทำ เพราะเราสามารถรอเวลาดูว่าผนังช่องคลอดนั้นสามารถกลับเข้าที่ได้มากน้อยแค่ไหน บางทีมันสามารถคืนสู่สภาพเดิมได้ก็จะเป็นการฝืนธรรมชาติไปซะ เกินความจำเป็น แถมยังเจ็บตัวและเสียเงินเปล่าๆ ด้วย
เรียบเรียงข้อมูลจากนิตยสาร Modern Mom
ทำไมต้องรีแพร์
การรีแพร์จะทำเมื่อผนังช่องคลอดเกิดการหย่อนยาน ซึ่งในแต่ละรายที่ต้องได้รับการรักษาก็มีอาการที่หนักเบาแตกต่างกันไป แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเป้าหมายในการทำรีแพร์อย่างถูกต้องกันก่อนดีกว่า
การทำรีแพร์ในทางการแพทย์ถือเป็นการรักษาอาการผิดปกติของการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เวลาไอหรือจามมีปัสสาวะเล็ด ปวดปัสสาวะแล้วไม่สามารถกลั้นได้นานต้องรีบไปห้องน้ำ ซึ่ง อาการนี้เกิดขึ้นเนื่องจากผนังช่องคลอดด้านหน้าที่อยู่ติดกับกระเพาะปัสสาวะ เกิดภาวะหย่อนขึ้นมา จึงให้ไปดึงรั้งกระเพาะปัสสาวะให้ต่ำลงมาด้วย จึงทำให้เกิดอาการผิดปกติขึ้นในที่สุด
วิธีรักษาคือ ผ่าตัดเพื่อให้ผนังช่องคลอดกลับไปเข้ารูปเข้ารอย ถ้าเป็นหนักว่าอีกก็จะเป็นการหย่อนยานของมดลูกด้วย ก็จะต้องมีการผ่าตัดมดลูกเพราะปากมดลูกกับช่องคลอดนั้นเป็นส่วนที่ต่อกันอยู่ ถ้ากล้ามเนื้อหย่อนก็ไม่สามารถค้ำมันได้เหมือนเก่า
สำหรับสาเหตุหลักๆ ของการหย่อนยานของผนังมดลูกคือ การคลอดลูก เนื่องจากการคลอดตามธรรมชาติแต่ละครั้ง ช่องคลอดจะขยายใหญ่ขึ้น ตอนคลอดมีช่วงเวลาที่ต้องเบ่งคลอด เลยทำให้ผนังช่องคลอดเกร็งแล้วหย่อนลงมา และยิ่งคุณแม่คนใดที่คลอดลูกหลายคนก็มีโอกาสที่ผนังมดลูกจะหย่อนยานมากขึ้น
สองวิธี...ทำรีแพร์
การทำรีแพร์ไม่ได้มีอยู่แค่แบบเดียวอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน แต่มีทำอยู่ 2 รูปแบบคือ การทำรีแพร์ด้วยการผ่าตัดเล็ก และการผ่าตัดใหญ่
รีแพร์แบบผ่าตัดเล็ก
วิธีการ: เป็นการผ่าตัดตกแต่งช่องคลอดส่วนล่าง ตัดส่วนผนังช่องคลอดส่วนเกินออกไป แล้วเย็บผนังช่องคลอดเข้าหากัน เพื่อช่องคลอดจะมีความกระชับกันมากขึ้น ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังผ่าตัดคนไข้สามารถกลับบ้านได้เลย แล้วแพทย์จะนัดมาดูแผลอีกทีหลังจากผ่าตัดหนึ่งสัปดาห์
เหมาะกับ: คนไข้ที่มีช่องคลอดหย่อนยาน ช่องคลอดฉีกขาดจากการคลอดบุตร หรือช่องคลอดกว้างผิดปกติ
การดูแล: เหมือนการเย็บแผลทั่วไป ที่ไม่ควรให้แผลนั้นได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรง
ค่าใช้จ่าย: ประมาณ 7,000 - 8,000. บาท
รีแพร์แบบผ่าตัดใหญ่
วิธีการ: เป็นผ่าตัดตกแต่งทั้งด้านหน้าและหลังของผนังช่องคลอด และแก้ไขอาการต่างๆ ที่พบ เพื่อรักษาภาวะช่องคลอดหย่อนยานอย่างรุนแรง
เหมาะกับ: คนที่มีอาการปัสสาวะเล็ดเวลาไอจาม ปัสสาวะซึมบ่อย กระบังลมหรือมดลูกหย่อน ปวดท้องน้อยเวลามีเซ็กซ์
การดูแล: ต้องนอนพักที่โรงพยาบาลประมาณ 3-4 วัน และหลังการผ่าตัดควรงดการทำงานหนักประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน ควรใส่ผ้าอนามัยหลังจากผ่าตัดสัก 2-3 วัน เพราะอาจมีเลือดซึมออกมาจากแผล และทำความสะอาดโดยการนั่งแช่ในน้ำอุ่นประมาณ 10 นาที วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันประมาณ 2 สัปดาห์
ค่าใช้จ่าย: ประมาณ 25,000-30,000 บาท
การจะเลือกใช้วิธีใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ ดังนั้นก่อนคิดจะทำรีแพร์ นอกจากศึกษาข้อมูลและปรึกษาคุณสามีหรือคุณพ่อของลูกแล้ว คุณภรรยาหรือในกรณีเป็นคุณแม่แล้วควรไปปรึกษาสูติแพทย์ ซึ่งอาจจะเป็นแพทย์ที่คุณแม่ฝากครรภ์อยู่ก็ได้
เหตุที่ต้องผ่านการวินิจฉัยของแพทย์ เป็นเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นกับคุณผู้หญิงแต่ละคนแตกต่างกันไป ลักษณะความหย่อยยานของช่องคลอดก็มากน้อยต่างกัน การเลือกวิธีทำรีแพร์ให้เหมาะ จึงขึ้นอยู่กับสภาวะของตัวคุณเองเป็นสำคัญ
และที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดแบบไหน ทั้งคู่ชายหญิงต้องใจเย็น งดกุ๊กกิ๊กกันอย่างน้อย 45 วัน
เตรียมตัวเมื่อคิดรีแพร์
การเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัดรีแพร์ ไม่ต่างกับการเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัดทั่วไปมากนัก คือ
1. ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และเตรียมจิตใจของคุณให้แจ่มใส ไม่ต้องกังวลมากเกินไป
2. ควรงดอาหารและน้ำ ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง สำหรับการผ่าตัดใหญ่
3. ในการทำรีแพร์นั้น คุณหมอจะแนะนำให้ทำหลังจากมีประจำเดือนไปแล้วไม่เกิน 1 สัปดาห์
เซ็กซ์ดีได้ด้วยการทำรีแพร์จริงรึ
ส่วนในเรื่องความเข้าใจที่ว่า การทำรีแพร์เพื่อให้ช่องคลอดกระชับขึ้นนี้ สามารถช่วยเพิ่มความรู้สึกพึงพอใจทางเพศได้นั้น รศ.ดร.นพ.ดิฐกานต์ บริบูรณ์หิรัญสาร ให้ความเห็นว่า “อาจเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะสาเหตุของของความไม่สุขสมทางเพศนั้น ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากเรื่องทางร่างกาย แต่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของคู่รักมากกว่า อารมณ์ความรู้สึกที่ของการใช้ชีวิตร่วมกันช่วงนั้น”
การทำรีแพร์ปัจจุบันนี้ลดลงไปมากเพราะเนื่องจากวิธีการคลอดที่ทันสมัย การดูแลของทีมงานและแพทย์ดี จึงทำให้ใช้เวลาในการคลอดน้อยลง ทั้งหลังการคลอดยังมีการดูแลตัวเองเรื่องนี้เพื่อให้กลับคืนสู่ปกติได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะการฝึกขมิบ และการดูแลตัวเองตามคำแนะนำแพทย์
ฉะนั้นคุณแม่บางคนที่คิดจะทำรีแพร์หลังคลอดลูกเลยนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้แนะว่าไม่ควรทำ เพราะเราสามารถรอเวลาดูว่าผนังช่องคลอดนั้นสามารถกลับเข้าที่ได้มากน้อยแค่ไหน บางทีมันสามารถคืนสู่สภาพเดิมได้ก็จะเป็นการฝืนธรรมชาติไปซะ เกินความจำเป็น แถมยังเจ็บตัวและเสียเงินเปล่าๆ ด้วย
เรียบเรียงข้อมูลจากนิตยสาร Modern Mom