ใครที่กำลังตัดสินใจใช้งาน Mac และกำลังเล็งๆ ว่าจะซื้อ Mac mini หรือเลือกเป็น MacBook มาใช้งาน เชื่อว่า Mac ที่ใช้ชิป M4 กำลังเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้ ยิ่งถ้ารูปแบบการใช้งานไม่ได้เน้นพกพาไปใช้นอกสถานที่ จังหวะที่ Mac mini M4 จะกลายเป็นรุ่นนี้คุ้ม และตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
แน่นอนว่า การซื้อ Mac mini เพื่อมาใช้ทำงาน ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรก ไม่ได้มีอุปกรณ์เดิมมาให้ใช้งานอย่างหน้าจอมอนิเตอร์ คีย์บอร์ด และเมาส์ ก็อาจจะต้องลงทุนสักหน่อย แต่ถ้าใครมีอุปกรณ์เดิมอยู่แล้ว ด้วยราคาเริ่มต้น 20,900 บาท ก็ได้เครื่อง Mac มาใช้งานแล้ว
ที่สำคัญคือการอัปเดตครั้งนี้ มากับดีไซน์ใหม่ ขนาดเล็กลง มีพอร์ตให้เชื่อมต่อด้านหน้าแล้ว พร้อมตัวเลือกอัปเกรดให้ทั้งสายต้องการใช้งานทั่วไปกับชิป M4 หรือจะกลุ่มมืออาชีพที่ต้องการประสิทธิภาพเลือก M4 Pro ไปใช้งานได้เช่นเดิม
แถมช่วงนี้ ถ้าซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายในไทย ยังมีสิทธิ์ลดหย่อนภาษีจาก Easy E-Receipt 2.0 ด้วย ในวงเงิน 30,000 บาท (ยกเว้นซื้อกับ Apple Store ไม่เข้าร่วมโครงการ) ลองไปดูที่หน้าร้านที่ร่วมพวก iStudio ต่างๆ แทนได้
ข้อดี
- ขนาดเล็กลง ประหยัดพื้นที่โต๊ะทำงานมากขึ้น
- ประสิทธิภาพดีขึ้น ในราคาเริ่มต้น 20,900 บาท
- ปรับให้มีพอร์ตทั้ง USB-C และหูฟัง เพื่อเสียบใช้งานจากด้านหน้า
ข้องสังเกต
- พอร์ตเชื่อมต่อน้อยลง เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
- ปุ่มเปิดเครื่องที่อยู่ใต้เครื่อง
- การอัปเกรดทำได้ยาก เมื่อเทียบกับพีซีวินโดวส์
รุ่นเริ่มต้น M4 ก็แรงแล้ว
ถ้าดูกันที่สเปกเริ่มต้นของ Mac mini M4 จะเห็นว่ามีการปรับปรุงเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าในหลายๆ ส่วน จากตัวชิปที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ใน Apple M4 รุ่นเริ่มจะมากับซีพียู 10 คอร์ ที่เป็นตัวแรง 4 คอร์ และ 6 คอร์ ประหยัดพลังงาน กราฟิก 10 คอร์ และ NPU 16 คอร์ พร้อมปรับ RAM แบบ unified memory เริ่มต้นที่ 16 GB
ดังนั้น ถ้ามองเฉพาะรุ่นเริ่มต้น ก็นับว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสเปกแรงมากๆ แล้ว เมื่อเทียบในช่วงระดับราคาเดียวกันที่ราว 20,000 บาท และแน่นอนว่าถูกใจสายที่ใช้งานเครื่องแมคอย่างแน่นอน เพราะสเปกเริ่มต้นนี้ เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป จนถึงการตกแต่งภาพ ไปจนถึงตัดคลิปสั้นๆ ความละเอียดระดับ 4K กันเลยทีเดียว
แน่นอนว่า ถ้าใครที่ต้องการใช้งานให้รวดเร็วขึ้น อย่างการเปิดใช้งานแท็บเว็บเบราว์เซอร์หลายๆ หน้าต่างพร้อมกัน หรือมีการใช้งานประมวลผลเอกสารจำนวนมาก การเพิ่ม RAM ขึ้นไปเป็น 24 GB หรือ 32 GB ก็จะช่วยตรงจุดนี้ได้เพิ่มขึ้น
หรือถ้าต้องการใช้งานหนักๆ มีการทำรูปหลายร้อยหลายพันรูป การตัดต่อวิดีโอคลิปยาวๆ ความละเอียดระดับ 4K ขึ้นไป หรือเป็นนักพัฒนาที่ต้องรันทดสอบโค้ดต่างๆ การขยับตัวเลือกขึ้นไปเป็น M4 Pro ที่ได้ชิปแรงขึ้น มีตัวเลือกอัปเกรด RAM เพิ่มเป็น 64 GB ก็จะแรงกว่าแน่นอน แลกกับราคาที่เพิ่มขึ้นด้วย
เช่นนั้นแล้ว ลองมองถึงรูปแบบการใช้งานก่อนว่า Mac mini เครื่องใหม่นี้ จะเอามาไว้ใช้กับงานอะไรเป็นหลัก ถ้าเอามาใช้งานในบ้าน เป็นคอมพิวเตอร์ที่เอาไว้สำหรับเข้าเว็บไซต์หาข้อมูล พร้อมประโยชน์ด้านความบันเทิงอย่างการดูสตรีมมิ่ง ฟังเพลง มีเล่นเกมที่รองรับบ้าง รุ่นเริ่มต้นที่เป็นชิป M4 ก็เพียงพอใช้งานได้ยาวๆ แล้ว
แต่ถ้าเป็นผู้ที่ใช้ Mac mini ในการทำงานหนักๆ บ้าง ใช้ทำงานประจำ ทำกราฟิก ตัดต่อ งานเอกสาร ที่มีขนาดใหญ่ๆ ต้องใช้พลังในการประมวลผลที่มากขึ้น และมีแผนที่จะใช้งานต่อเนื่องหลายปี การตัดสินใจเพิ่มเงินเป็น M4 Pro จะตอบโจทย์ในระยะยาวมากกว่า
มี M2 อยู่ ถึงเวลาเปลี่ยนหรือยัง?
ทีนี้ ถ้ามองในมุมของผู้ที่ใช้งาน Mac mini รุ่นเดิมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นชิป M1 หรือ M2 ในตอนนี้ ถ้าใช้งานแล้วพบว่า มีการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมใช้งานแล้วลื่นไหลดี ถ้าเครื่องเริ่มช้า จะเปลี่ยนมาใช้ M4 ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้ายังไม่ได้มีความจำเป็นขนาดนั้น Mac mini รุ่นก่อน จะได้เปรียบกว่ารุ่นใหม่ ตรงที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบกว่า โดยเฉพาะ USB-A ให้ใช้งานอยู่
แต่ถ้าจะอัปเกรดจาก M1 หรือ M2 ขึ้นมาเป็น M4 Pro ที่เร็วขึ้น Mac mini รุ่นใหม่นี้ก็ตอบโจทย์แน่นอน โดยเฉพาะการที่ได้พอร์ตใหม่อย่าง Thunderbolt 5 ที่ใส่มาให้ 3 พอร์ต รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายมากขึ้น แต่ถ้าเป็น Mac mini M4 รุ่นธรรมดา จะยังมากับ Thunderbolt 4 3 พอร์ต
ประสิทธิภาพของ Mac mini M4 เมื่อเทียบกับ M2 Pro ที่เคยใช้งานเดิม ถ้ามองในเรื่องของการประมวลผล CPU นับว่า M4 แรงขึ้นมาก แต่ถ้าในมุมของ GPU ตัวชิปในตระกูล Pro เดิม ยังให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าอยู่ จึงกลายเป็นว่า ถ้ามีรุ่นเดิมอยู่แล้ว สนใจเปลี่ยนมาเป็น M4 คงยังไม่ใช่ในเวลานี้
ดีไซน์ใหม่ เล็กกะทัดรัด
จุดเด่นหลักจริงๆ ของ Mac mini รุ่นใหม่ก็คือขนาดตัวเครื่องที่เล็กลงเหลือราว 5 นิ้ว หรือ 12.7 x 12.7 x 5 ซม. มีความสูงตัวเครื่องมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม แต่ขนาดโดยรวมเล็กลง ที่สำคัญคือน้ำหนักลงมาเหลือ 670 - 730 กรัม ขึ้นอยู่กับชิปที่เลือกใช้
โดยพอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาในรุ่น M4 จะมีเพียงช่องเสียบสายไฟ (สายที่แถมมาให้เป็นสายถักแล้ว) พอร์ต Gigabit Lan / HDMI และ Thunderbolt 4 อีก 3 พอร์ต ที่ด้านหลังเครื่อง ทำให้รวมๆ แล้วสามารถเชื่อมต่อจอภายนอกได้สูงสุด 3 จอพร้อมกัน
ส่วนด้านหน้าเพิ่มพอร์ต USB-C มาให้เสียบใช้งานสะดวกขึ้นอีก 2 พอร์ต และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาให้ โดยไม่ต้องเอื้อมกลับไปเสียบที่หลังเครื่อง ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อใช้งานกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้สะดวกขึ้น
การเชื่อมต่อไร้สายของ Mac mini ยังมากับ WiFi 6E และบลูทูธ 5.3 เช่มเดิม ถ้าใครที่ใช้งานร่วมกับ Magic Keyboard และ Magic Mouse ใหม่ รอบนี้ Apple ก็มีการอัปเกรดให้อุปกรณ์เสริมเปลี่ยนเป็นพอร์ต USB-C เรียบร้อยแล้ว สามารถใช้งาน USB-C ที่มีเชื่อมต่อได้ทันที ไม่ต้องไปหาสาย Lighing เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่เป็นตัวเครื่อง Mac mini ทำให้ถ้าเป็นผู้ใช้งานที่ไม่ได้มีจอมอนิเตอร์เดิมอยู่ อาจต้องมองหาจอภาพมาใช้งานควบคู่กันไปด้วย รวมถึงอุปกรณ์ในการควบคุมอย่างเมาส์ และคีย์บอร์ด ดังนั้นอาจจะเผื่องบประมาณไว้เพิ่มเติมสำหรับจุดนี้ด้วย
สรุป
ภาพรวมของการใช้งาน Mac mini M4 นับว่ามีจุดเด่นที่ชัดเจนในเรื่องของขนาด ความสวยงาม ที่เมื่อวางบนโต๊ะแล้วจะไม่ดูรก สามารถจัดโต๊ะคอมให้สวยงามได้ไม่ยาก ส่วนเรื่องของประสิทธิภาพแน่นอนว่าขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน แต่เท่าที่ทดสอบใช้ M4 นับว่าเพียงพอกับการใช้งานทั่วไปอยู่แล้ว