ในกลุ่มโน้ตบุ๊กสำหรับองค์กรธุรกิจ ซีรีส์ของ ASUS ExpertBook ได้รับความมั่นใจจากกลุ่มผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากตัวเครื่องที่ให้ความคุ้มค่า และบริการหลังการขายที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จนล่าสุดเมื่อก้าวเข้าสู่ยุคของโน้ตบุ๊ก AI ใน ASUS ExpertBook P5 ที่มากับ Intel® Core™ Ultra 7 Processor 258V ให้พลังในการประมวลผล AI สูงถึง 47 TOPS มาทำงานร่วมกับ Microsoft Copilot และฟีเจอร์ AI ของ ASUS ทำให้ตอบโจทย์เรื่องการทำงานมากขึ้น
ข้อดี
โน้ตบุ๊กจอ 14 นิ้ว น้ำหนักเบา 1.27 กิโลกรัม บาง 1.49 ซม.
มีพอร์ตเชื่อมต่อให้ครบ Thunderbolt™ 4 / HDMI / USB Type A และ 3.5 มม. Combo Audio Jack
ชิป Intel® Core™ Ultra 7 ช่วยประมวลผล AI และประหยัดพลังงาน
ข้อสังเกต
จอที่ให้มาความละเอียด 2.5K 144Hz แบบป้องกันแสงสะท้อน ให้ความสว่างสูงสุดแค่ 400 nits เหมาะกับใช้ภายในอาคาร
ASUS AI ExpertMeet ยังไม่รองรับภาษาไทย
***ตัวเลือกโน้ตบุ๊กองค์กรพร้อม AI
ASUS ExpertBook P5 นับเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นแรกๆ ที่เป็น AI PC ซึ่งออกแบบมาสำหรับภาคธุรกิจโดยเฉพาะ ที่นอกจากความสามารถในการประมวลผลที่จะมารองรับการใช้งานของพนักงาน หรือเจ้าของธุรกิจ ยังใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ที่ทำให้เป็นจุดต่างของซีรีส์นี้ เมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กในกลุ่มคอนซูเมอร์
ดีไซน์ของ ASUS ExpertBook P5 ปรับปรุงมาให้ล้ำสมัยมากขึ้น กับตัวเครื่องที่มีความเรียบหรูมากกว่าเดิม รวมถึงมีการนำวัสดุอะลูมิเนียมรีไซเคิลมาใช้ในการผลิต เหมาะกับองค์กรที่ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมในยุคปัจจุบันนี้
ตัวเครื่องผ่านมาตรฐานความทนทาน MIL-STD-810H รวมถึงการทดสอบภายในของทาง ASUS ทำให้มั่นใจได้ว่า เป็นโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับการพกพาไปใช้งาน ป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากการตกกระแทกได้ มีการปรับปรุงบานพับที่เสริมสเตนเลสเข้ามาช่วยเพิ่มความแข็งแรงด้วย
สีตัวเครื่องที่ให้มาจะเป็น Misty Grey ที่เป็นโทนสีเทาเข้ม ไม่ใช่สีโทนดำน่าเบื่อแบบยุคสมัยก่อนของโน้ตบุ๊กองค์กร โดยที่ฝาด้านหน้าจะมีการแปะสัญลักษณ์ ASUS ExpertBook สีเป็นแผ่นสีเงินสะท้อนแสงอยู่ ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 312.2 x 223.2 x 14.9 - 16.4 ซม. น้ำหนัก 1.27 กิโลกรัม
เมื่อกางหน้าจอขึ้นมาจะพบกับหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2560 x 1600 พิกเซล) ให้อัตราการแสดงผล Refresh Rate ที่ 144 Hz ซึ่งจะปรับการแสดงผลอัตโนมัติตามคอนเทนต์ที่แสดงผล ให้ความสว่างหน้าจอสูงสุดที่ 400 nits
ถัดลงมาในส่วนของคีย์บอร์ด มีการปรับปุ่มลัดให้เหมาะกับการใช้งานภายในองค์กรมากขึ้น อย่างการนำปุ่มเปิดเสียง เพิ่มลดเสียง และปิดเสียง มาไว้ข้างๆ Esc หรือตรงปุ่ม F1-F4 แทน เพราะเป็นจุดที่เรียกใช้ได้สะดวก
ขณะที่บริเวณปุ่มเปิดเครื่อง จะทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่ทำงานร่วมกับ Windows Hello ทำให้สามารถปลดล็อกได้ทั้งลายนิ้วมือ และการสแกนใบหน้าร่วมกับกล้องเว็บแคมความละเอียด FullHD ที่ติดตั้งมาให้บริเวณเหนือจอภาพด้วย
เพิ่มเติมด้วยปุ่มลัดตรง F10 และ F11 ที่ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนเป็นตัวเลือกในการปรับตั้งค่าเฉพาะ อย่างการเปิด-ปิด WiFi ทัชแพด เปลี่ยนโหมดพลังงาน ไปจนถึงเรียกใช้งานโปรแกรมเฉพาะที่ต้องการ
ปุ่มคีย์บอร์ดที่ให้มาเป็นขนาดมาตรฐาน เวลาพิมพ์แล้วจะมีเสียงการกดที่ค่อนข้างดัง แต่ก็ทำให้พิมพ์ได้สนุกมือมากขึ้น มีการแยกปุ่ม Copilot ออกมาให้เรียกใช้งาน AI ได้สะดวกขึ้น ส่วนทัชแพดมีลูกเล่นควบคุม Smart Gesture มาให้ สามารถใช้นิ้ว 2 นิ้ว 3 นิ้ว ปัดเพื่อสั่งงานได้
ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาถือว่าครบถ้วน ไล่จากฝั่งซ้ายที่มี Thunderbolt™ 4 Type C ให้ 2 พอร์ต HDMI 2.1 พอร์ต USB 3.2 Gen 2 Type A และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ฝั่งขวาเพิ่มเติมด้วย USB 3.2 อีก 1 พอร์ต และช่องล็อกโน้ตบุ๊ก Kensington จากการที่เป็นเครื่องในฝั่งองค์กรต้องมีเรื่องความปลอดภัยเพิ่มเข้ามา
ขณะที่การเชื่อมต่อไร้สายมากับ WiFi 6E และบลูทูธ 5.3 แบตเตอรี่ที่ให้มาขนาด 63Whr ที่เอซุส เคลมว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 28 ชั่วโมง เท่าที่ทดสอบใช้งานจริง จะอยู่ที่ราว 18-19 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อะแดปเตอร์ชาร์จที่ให้มา 65W ชาร์จเต็มในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง
***ชิป Intel® Core™ Ultra เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ความน่าสนใจหลักของ ASUS ExpertBook P5 รุ่นปลายปี 2024 นี้ คือมาพร้อมการอัปเกรดชิป Intel® Core™ Ultra 7 258V มากับ RAM 32 GB LPDDR5X และ SSD 1 TB NVMe PCIe 4.0 ทำให้รองรับการใช้งานในภาคธุรกิจอย่างการใช้งานเว็บไซต์ ทำงานเอกสารต่างๆ อยู่แล้ว
เพิ่มเติมด้วยการที่ Intel® Core™ Ultra มีการแยกชิป NPU ออกมาช่วยประมวลผลงาน AI ทำให้เมื่อมีการเรียกใช้งาน AI อย่าง Copilot หรือ ASUS ExpertMeet จะมาช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ที่ยกตัวอย่าง ASUS ExpertMeet ขึ้นมา เพราะนับเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่จะดึงการทำงาน AI ออกมาให้เห็น อย่างการแปลแบบเรียลไทม์หลายภาษา ระหว่างการใช้งานประชุมออนไลน์ ในฟีเจอร์ AI Meeting Minutes ที่จะบันทึกเสียง ถอดไฟล์ และสรุปเนื้อหาได้ เพียงแต่ปัจจุบันรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น โปรตุเกส สเปน และจีน เท่านั้น
ถัดมาสำหรับผู้ที่แชร์หน้าจอในการประชุมบ่อยๆ ASUS ExpertMeet มีฟีเจอร์ที่จะทำลายน้ำมาพาดไว้ระหว่างการประชุม เพื่อป้องกันเอกสารที่มีความสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ข้อมูลหลุดจากการประชุมต่างๆ
ยังมีฟีเจอร์ที่เสริมเรื่องการสื่อสารอย่าง ASUS Two-Way AI Noise Cancellation ที่จะใช้ AI มาช่วยแยกเสียงของผู้พูดออกจากเสียงรบกวนรอบข้าง ในโหลด Single Presenter หรือในกรณีที่เลือกโหมด Multi Presenter ระบบจะปรับเสียงของผู้พูดที่ตำแหน่งที่แตกต่างกันให้มีระดับใกล้เคียงกัน ช่วยให้การประชุมราบรื่นมากที่สุด
พร้อมกันนี้ จากการใช้งาน ASUS ExpertBook P5 ในกรณีที่มีการประมวลผลหนักๆ ตัวเครื่องมีการวางระบบระบายอากาศที่จะดูดอากาศจากใต้เครื่องเข้ามา และเป่าออกทางด้านหลังเครื่อง ทำให้มั่นใจว่าถึงเครื่องจะปิดหน้าจอ (ต่อมอนิเตอร์) หรือเปิดจอใช้งานอยู่ ก็จะมีช่องระบายลมออกมา
ส่วนในเรื่องของความปลอดภัย ASUS ExpertBook P5 มากับมาตรฐานที่สูงขึ้น ทั้งข้อกำหนดในการตั้งรหัสผ่าน มีการใช้ชิปเข้ารหัสฮาร์ดแวร์ TPM 2.0 พร้อม Microsoft Secured-Core PC ที่มาช่วยปกป้องข้อมูลที่มีความสำคัญ รวมถึงการป้องกันเว็บไซต์จาก McAfree Antivirus
สรุป
ASUS ExpertBook P5 ที่ปรับดีไซน์ใหม่นี้ ทำให้ได้ความมั่นใจทั้งเรื่องความทนทาน และประสิทธิภาพของตัวเครื่องจากชิป Intel® Core™ Ultra 7 258V เหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ในภาคธุรกิจ ที่ต้องการโน้ตบุ๊กเครื่องแรง ปลอดภัย พกพาง่าย
โดย ASUS ExpertBook P5 วางจำหน่ายในราคา 54,990 บาท