xs
xsm
sm
md
lg

Review : Samsung Galaxy S24 ถือใช้เข้ามือ Galaxy AI มาครบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังผ่านช่วงยอดขายถล่มทลายของ Galaxy S24 ซีรีส์ โดยเฉพาะ S24 Ultra ที่สามารถทำยอดขายพุ่งแซงรุ่นก่อนหน้าในช่วงเปิดตัวไปเรียบร้อยแล้ว ย้อนกลับมาดูถึงในแง่ของการใช้งาน หลังจากที่ได้ลองใช้ Galaxy S24 ต่อเนื่องมาสักพัก พบว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นอีกเครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งานในระยะยาวได้สบายๆ

ความน่าสนใจของ Samsung Galaxy S24 ที่เป็นรุ่นเริ่มต้น มากับหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ซึ่งกลายเป็นขนาดที่เหมาะกับการถือใช้งานได้สบายๆ ไม่เล็ก หรือใหญ่จนเกินไป และที่สำคัญคือยังได้ฟีเจอร์ Galaxy AI มาให้ใช้งานครบ

เมื่อรวมกับการที่ซัมซุงการันตีการอัปเกรดระบบปฏิบัติการ และอัปเดตแพทช์ความปลอดภัยต่อเนื่อง 7 รุ่น 7 ปี ทำให้มั่นใจได้ว่า การเสียเงินในระดับ 3 หมื่นกว่าบาท จะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องไปอีก 7 ปีข้างหน้าได้ ถ้ายังไม่เปลี่ยนเครื่องรุ่นใหม่ใช้งานไปก่อน

ตัวเครื่องถือง่าย จอคุณภาพสูง 120 Hz


แน่นอนว่า ในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ใช้งาน ผู้บริโภคหลายๆ คนอาจจะมองที่เครื่องจอใหญ่ แบตอึด แต่ในอีกมุมจะมีกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการเครื่องขนาดกำลังเหมาะมือ สามารถถือใช้งานได้ด้วยมือข้างเดียว ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มผู้หญิงมือเล็ก แต่ยังรวมถึงผู้ชายที่ไม่ต้องการพกเครื่องใหญ่ๆ ด้วย


ทำให้เมื่อมองถึงตัวเลือกในตลาดสมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิป นอกจาก Galaxy S24 แล้ว ก็จะมีตัวเลือกอย่าง iPhone 15 หรือ iPhone 15 Pro มาเป็นตัวเลือก แน่นอนว่าถ้าเป็นสายที่ใช้งาน Android มาต่อเนื่อง ตัวเลือกอย่าง Galaxy S24 นับเป็นรุ่นที่ตรงโจทย์ ถ้าถึงช่วงเวลาที่ต้องการเปลี่ยนเครื่องใหม่ ทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยาก


การที่ในปีนี้ Samsung ตัดสินปรับปรุงคุณภาพวัสดุ และดีไซน์ให้จับถนัด ใช้งานง่ายขึ้น ด้วยการเลือกใช้อะลูมิเนียมคุณภาพสูงเกรดอวกาศ ปรับขอบเครื่องให้มีความโค้งมนมากขึ้น จึงทำให้การจับถือสบายมือมากขึ้น ขนาดตัวเครื่องของ S24 จะอยู่ที่ 70.6 x 147 x 7.6 มม. น้ำหนัก 167 กรัม


ในแง่ของคุณภาพจอ ปีนี้ Galaxy S24 ได้หน้าจอ 6.2 นิ้ว FHD+ Dynamic AMOLED 2X 1-120 Hz ที่เป็นแบบ Adaptive Refresh Rate ในการปรับอัตราการแสดงผลตามเนื้อหา ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น และยังให้ความสว่างหน้าจอสูงสุดที่ 2,600 nits เท่ากับรุ่นท็อปอย่าง S24 Ultra ด้วย


ขณะเดียวกัน ในส่วนของกล้องต้องยอมรับว่าคุณภาพคงไม่ขึ้นไปสูสีกับ Galaxy S24 Ultra แต่เชื่อว่าด้วยเลนส์หลัก 50 ล้านพิกเซลที่ให้มา คู่กับเลนส์มุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล และเลนส์ซูม 10 ล้านพิกเซล ที่ให้ระยะ 3 เท่า รวมกับกล้องเซลฟี่ 12 ล้านพิกเซล


การทำงานของเลนส์หลักใน S24 จะมีการนำ ProVisial Engine มาช่วยในการประมวลผลหลังการถ่ายภาพพร้อมกับทำ Pixel Binning ที่จะรวมเม็ดพิกเซลจากกล้อง 50 ล้านพิกเซล ลงมาให้ใช้งานกันในภาพความละเอียดราว 12 ล้านพิกเซล ซึ่งเพียงพอกับการแชร์ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ และยังช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยทำได้ดีขึ้นด้วย


เรื่องของการซูมภาพแม้เลนส์ที่ให้มาจะเป็นออปติคัล 3x แต่สามารถซูมดิจิทัลเข้าไปได้ที่ระยะ 30x เมื่อนำมาโพรเซสร่วมกับ Galaxy AI ก็ช่วยให้สามารถเก็บรายละเอียดบางส่วนได้ ถือว่ามีให้ใช้งานแก้ขัด แต่ไม่ได้คมชัดเหมือนใน S24 Ultra อยู่แล้ว


Galaxy AI มีให้ใช้ครบ


สำหรับฟีเจอร์ที่โดดเด่นเป็นพิเศษของ Galaxy S24 ซีรีส์ ที่ซัมซุงเตรียมจะเปิดให้ผู้ใช้งานทั้ง Galaxy S23 Fold 5 และ Flip 5 ใช้งานเร็วๆ นี้ บน Galaxy S24 มีให้ใช้งานได้ครบถ้วน

ทั้งการ Circle to Search ในการวงภาพที่หน้าจอ และทำการค้นหาข้อมูล รายละเอียดอัตโนมัติ หรือแม้แต่ฟีเจอร์การแปลภาษาที่ใช้สามารถช่วยให้การสื่อสารได้ง่ายขึ้น ทั้งระหว่างโทร.สนทนา หรือการแปลต่อหน้า


อย่างไรก็ตาม Galaxy AI ยังมีจุดที่ต้องพัฒนา อย่างเช่นในเรื่องของการถอดคำจากการอัดเสียง เพราะเมื่อเจอการใช้งานจริงอย่างภาษาไทย ปนกับภาษาอังกฤษ ความแม่นยำยังค่อนข้างต่ำ และส่งผลถึงการสรุปใจความที่เมื่อสรุปออกมาแล้วกลายเป็นขาดข้อมูลสำคัญๆ ในหลายๆ ส่วน

ทำให้กลายเป็นว่า ฟีเจอร์เกี่ยวกับภาษาต่างๆ ที่พอใช้งานได้จะเป็นภาษาอังกฤษเป็นหลัก อย่างการสรุปเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ยาวๆ ให้อ่านเฉพาะใจความสำคัญได้ หรือการโต้ตอบจากฟีเจอร์ในการแชตแปลภาษา ที่ช่วยให้ใช้งานสะดวกขึ้น

ส่วนไฮไลต์อย่างการปรับ หรือแต่งรูปด้วย AI อาจจะต้องทำซ้ำในบางสถานการณ์ เพราะ Generative AI ที่มียังไม่ได้ฉลาดพอที่จะใช้งานได้ในทุกๆ รูป หรือทุกๆ สภาพแสง แต่ถ้าเป็นการลบคน ปรับรูปที่เอียงให้กลับมาตรงแล้วเติมรายละเอียดภาพบางส่วนถือว่าตอบโจทย์ได้ดี


ใช้งานหนักๆ Exynos 2400 รอดสบาย


ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ Galaxy S24 และ S24+ ไม่ค่อยได้รับการตอบรับในวงกว้างส่วนหนึ่งมาจากการที่ซัมซุงเลือกใช้ชิปเซ็ตอย่าง Exynos 2400 ทำให้ลูกค้าเดิมๆ ที่มีภาพจำเกี่ยวกับเครื่องร้อนในยุคก่อนหน้านี้ยังไม่ค่อยมั่นใจ

แต่เท่าที่ทดสอบใช้งานในหลากหลายสถานการณ์ ถือว่า Exynos 2400 ในปีนี้ทำออกมาได้ดี รองรับการใช้งานหนักๆ อย่างการเล่นเกม หรือการถ่ายภาพต่อเนื่องได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าถ้าอยู่ในสภาพอากาศร้อนอย่างในประเทศไทย บางช่วงอาจจะรู้สึกว่าเครื่องร้อนขึ้น แต่กลายเป็นว่าวางทิ้งไว้ไม่นานเครื่องก็กลับมาให้พร้อมใช้งาน ซึ่งเป็นปกติของแฟลกชิปทุกรุ่นในตลาดตอนนี้


สรุป


ความโดดเด่นของการเป็นเครื่องในกลุ่มแฟลกชิปของ S24 ยังมีอีกหลากหลายทั้งเรื่องความปลอดภัยจาก Samsung Knox การเชื่อมต่อใช้งานเป็น DeX Mode ร่วมกับหน้าจอมอนิเตอร์ ปิดที่การอัปเกรดระบบปฏิบัติการได้ยาวนาน ยิ่งทำให้ S24 กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่อยากได้สมาร์ทโฟนขนาดกะทัดรัด จับถือใช้งานง่าย และใช้ต่อเนื่องไปยาวๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น