จากความสำเร็จของยอดขาย iMac ขนาดหน้าจอ 24 นิ้ว M1 ที่มีตัวเลือกสีสันให้เลือกซื้อถึง 7 สี จนทำให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์แบบ All in One ที่ขายดีที่สุดในปีที่เปิดตัว ทำให้การอัปเดต iMac รุ่นใหม่ พร้อมกับการเปิดตัวชิป Apple M3 น่าใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม จากประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่ดีขึ้น เพียงแต่ราคาเริ่มต้นก็สูงขึ้นเช่นเดียวกัน
ความโดดเด่นของ iMac 24 นิ้ว คือมากับชิป Apple M3 ที่เพิ่มประสิทธิภาพขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับรุ่น M1 แสดงผลบนหน้าจอความละเอียด 4.5K พร้อมกล้อง FaceTime HD ระบบไมโครโฟน และลำโพงที่ทำให้พร้อมใช้งาน กับดีไซน์ตัวเครื่องบาง วางใช้งานได้ทุกที่ในบ้าน iMac 24” วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 49,900 บาท
ข้อดี
พีซี AiO ประสิทธิภาพสูง รองรับการใช้งานในครอบครัว
หน้าจอ 24 นิ้ว Retina Display แสดงผล 1 พันล้านสี
รองรับการเชื่อมต่อ Thunderbolt 4 / WiFi 6E / Bluetooth 5.3
ข้อสังเกต
ราคาเริ่มต้นปรับสูงขึ้นจากรุ่นที่ผ่านมา
ยังคงมีเฉพาะขนาดหน้าจอ 24 นิ้วให้เลือก จากก่อนหน้านี้มี 21.5 นิ้ว และ 27 นิ้ว
จุดเปลี่ยนแปลงหลัก เฉพาะชิปเซ็ตภายในเท่านั้น
iMac 24 นิ้ว ตัวเลือกน่าสนใจ ในรูปแบบ All in One
การอัปเดต iMac 24 นิ้ว ในรอบ 2 ปีครึ่ง ของ Apple พร้อมกับการเปิดตัวชิปเซ็ตใหม่ Apple M3 ถือว่ามาเป็นตัวเลือกใหม่ให้ผู้ที่สนใจ หรือกำลังมองหาคอมพิวเตอร์แบบ All in One ที่ต้องการประสิทธิภาพที่สูงขึ้นในการใช้งาน โดยที่ตัวเครื่องดีไซน์ล้ำสมัย สามารถนำไปวางใช้งานได้ไม่ต่างจากเฟอร์นิเจอร์
ทำให้กลายเป็นว่า iMac 24 นิ้ว กลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกเลือกนำไปใช้ทั้งในครัวเรือน และสำนักงาน โดยเฉพาะในภาคธุรกิจบริการอย่างโรงแรม ที่สามารถคุมโทนสีในการตกแต่งได้ จากตัวเลือกเครื่องแบบ 7 สี ตั้งแต่สีเงิน น้ำเงิน ม่วง ชมพู ส้ม เหลือง และเขียว
ประกอบกับการพัฒนา macOS Sonoma ที่ทำให้การสลับใช้งานของผู้ใช้สะดวกขึ้น เมื่อใช้งานร่วมกับ TouchID ที่มากับ Magic Keyboard ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวางนิ้วเพื่อสแกน และล็อกอินเข้าใช้งานในยูสเซอร์ที่ตั้งไว้ได้ทันที ทำให้การใช้งานในบ้านได้ทั้งผู้ปกครอง และเด็กๆ ในบ้านเข้าถึงได้
ขณะที่ในแง่ของการใช้งาน ด้วยการที่มีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ ทำให้รองรับการทำงานได้หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการแบ่งหน้าจอเพื่อทำงาน การทำงานกราฟิกสำหรับครีเอเตอร์ หรือการเปิดโปรแกรมเพื่อให้บริการแก่ลูกค้า จึงกลายเป็นว่าขึ้นอยู่กับผู้บริโภคแล้วว่าต้องการคอมพิวเตอร์ไปตอบโจทย์ในลักษณะใด
นอกจากตัวเครื่องแล้ว ยังมีตัวเลือกของคีย์บอร์ดที่สามารถเลือกได้ว่าจะเอา Magic Keyboard ที่มากับปุ่มล็อกเครื่องปกติ หรือเลือกเปลี่ยนเป็น TouchID เพื่อใช้การสแกนลายนิ้วมือล็อกอินเข้าใช้งานได้สะดวกขึ้น พร้อมกับ Magic Mouse หรือ Magic Trackpad ที่ให้สีสันตรงกับตัวเครื่อง
อย่างไรก็ตาม จุดที่น่าเสียดายคือเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ด เมาส์ และแทร็กแพด ที่แอปเปิลยังไม่ได้เปลี่ยนพอร์ตเป็น USB-C เหมือนกับที่ทยอยเปลี่ยนในอุปกรณ์อื่นๆ แล้วทั้ง iPhone 15 ซีรีส์ iPad ทุกรุ่น รวมถึง AirPods Pro แม้ว่าในกล่องจะมีแถมสาย USB-C to Lightning ที่เป็นสายถักสีเดียวกับตัวเครื่องมาให้ก็ตาม
สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาบน iMac 24” จะมีทั้งรุ่นเริ่มต้น ที่ให้มาเป็นพอร์ต Thunderbolt 3 / USB 4 2 พอร์ต และถ้าขยับตัวเลือกชิป M3 ขึ้นมาเป็นแบบ 8 คอร์ซีพียู 10 คอร์จีพียู จะได้พอร์ต USB 3 เพิ่มขึ้นมาอีก 2 พอร์ต
ขณะที่ช่องเสียบสาย LAN จะใช้การเชื่อมต่อที่อะแดปเตอร์จ่ายไฟ ที่จะให้มาในรุ่น 10 คอร์จีพียู เช่นเดียวกัน ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายที่ให้มาจะรองรับ WiFi 6E และบลูทูธ 5.3 ที่มีความสามารถพิเศษเมื่อเข้าสู่เกมโหมด จะลด Latency ในการเชื่อมต่อกับจอยเกมเพิ่มเข้ามาด้วย
M3 แรงขึ้น พร้อมขยายสู่ตลาดเกม
ในแง่ของประสิทธิภาพตัวเครื่อง เนื่องจากแอปเปิลไม่ได้อัปเดตในช่วงชิป M2 แต่เปลี่ยนจาก M1 มาเป็น M3 ทำให้ถ้าเทียบกันแล้ว ประสิทธิภาพของตัวเครื่องในการประมวลผลจะแรงกว่าเดิมราว 35% ขณะที่ในแง่ของการประมวลผลกราฟิกเร็วขึ้นราว 65% และ Neural Engine แรงขึ้น 60%
แน่นอนว่า การที่ iMac 24” ไม่ได้เปลี่ยนดีไซน์ กลุ่มลูกค้าเดิมที่เพิ่งซื้อรุ่นที่มากับชิป M1 ไป อาจจะยังไม่ถึงช่วงเวลาจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนเครื่องรุ่นใหม่ ทำให้เมื่อดูแล้วกลุ่มเป้าหมายหลักของ iMac 24” M3 จึงเหมาะกับผู้ที่ใช้งานเครื่องเดสก์ท็อป Intel เดิมที่ถึงรอบเปลี่ยนเครื่องใหม่ หรือใช้งาน iMac รุ่นเก่า และถึงเวลาที่จะเปลี่ยนเครื่องใหม่มาใช้งาน
เพราะอย่าลืมว่าในตลาดของ All In One ประเทศไทย ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่ากับคอมพิวเตอร์ประกอบ หรือแม้แต่โน้ตบุ๊ก จากข้อจำกัดในการใช้งานที่สถานที่ จึงเหมาะกับผู้ใช้งานที่เป็นคอนซูเมอร์บางกลุ่มอย่างใช้ร่วมกันในครอบครัว ทำให้ Apple เห็นถึงความต้องการในจุดนี้เพิ่มเติม
ด้วยการขยายความสามารถของเครื่อง Mac ให้รองรับการเล่นเกมได้มากขึ้น อย่างที่ผ่านมา ได้มีการนำเกมระดับ AAA พอร์ตมาให้เล่นกันบน Mac มากขึ้นแล้ว และใน Apple M3 ยังได้มีการเพิ่มให้ชิปรองรับการประมวลผลภาพแบบ Ray Tracing ทำให้ได้แสง และเงาที่สมจริงมากขึ้นด้วย
ทำให้ตรงนี้เข้ามาตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานในบ้านที่มีเด็กๆ ทำให้นอกจากผู้ปกครองใช้งานแล้ว เด็กๆ ก็ยังสามารถใช้เล่นเกมได้ด้วย บนหน้าจอขนาดใหญ่ 24 นิ้ว ความละเอียดสูง 4.5K Retina เพียงแต่จะยังไม่ได้อัตราการรีเฟรชหน้าจอระดับ ProMotion เท่านั้นเอง
ราคา และรุ่นที่วางจำหน่าย
สำหรับ iMac 24 นิ้ว ชิป M3 จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่นหลักๆ คือ ในรุ่นที่มากับ M3 8 คอร์ ซีพียู 8 คอร์ จีพียู ในราคา 49,990 บาท มีให้เลือกด้วยกัน 4 สีคือ น้ำเงิน เขียว ชมพู และเงิน
ตามด้วยในรุ่น 8 คอร์ ซีพียู 10 คอร์ จีพียู ในราคาเริ่มต้น 56,900 บาท จะเลือกได้ทั้ง 7 สี น้ำเงิน เขียว ชมพู เงิน เหลือง ส้ม และม่วง โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งเพิ่ม RAM จากเริ่มต้น 8 GB ได้สูงสุดที่ 24 GB และ SSD สูงสุดที่ 2 TB