แบรนด์ของโน้ตบุ๊ก ASUS ในตระกูล ExpertBook ซีรีส์ ได้กลายมาเป็นหนึ่งในโน้ตบุ๊กที่ภาคองค์กรธุรกิจให้ความสนใจ จากทั้งความโดดเด่นของเครื่องที่บาง เบา และมีความแข็งแรงสูง ทำให้พกพาไปใช้งานได้ทุกที่อย่างสบายใจ
ในรุ่น ASUS ExpertBook B5 ซีรีส์เองได้รับการตอบรับที่ดีจากภาคธุรกิจมาต่อเนื่อง ซึ่งในรุ่นของปี 2022 ที่มีการอัปเดตมาใช้หน่วยประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง 12 Gen Intel Core เริ่มต้นที่ Core i5-1240P มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 11 Pro นั้นมีตัวเลือกทั้งโน้ตบุ๊กแบบทั่วไป และรุ่นที่พับหน้าจอใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้อย่าง B5 Flip ให้เลือก
สำหรับ ASUS ExpertBook B5 Flip จะโดดเด่นที่มากับหน้าจอ 14 นิ้ว น้ำหนัก 1.38 กิโลกรัม พับได้ 360 องศา ทำให้ใช้งานได้หลากหลาย ตัวเครื่องมีช่องเก็บปากกาสไตลัสมาให้ในตัว โดยตัวปากการองรับแรงกดได้ถึง 4096 ระดับ ซึ่งในรุ่นนี้จะมีความพิเศษตรงที่ไม่ได้มีวางจำหน่ายที่หน้าร้าน แต่องค์กรที่สนใจสามารถสั่งได้โดยตรง
ข้อดี
โน้ตบุ๊กพับได้ มาพร้อมปากกาสไตลัส
พอร์ตเชื่อมต่อครบทั้ง Thunderbolt 4 / USB-A / HDMI / MicroSD / 3.5 มม.
แบตเตอรี่ใช้ต่อเนื่องกว่า 10 ชั่วโมง ชาร์จ 50% ใน 41 นาที
ข้อสังเกต
ตัวเครื่องติดรอยริ้วมือค่อนข้างง่าย
ความละเอียดหน้าจอ 14” ยังอยู่ที่ FullHD
กล้องเว็บแคมความละเอียด 720p
ดีไซน์เรียบ พอร์ตครบ พกพาง่าย
ด้วยการที่ ASUS ExpertBook B5 Flip อยู่ในกลุ่มของโน้ตบุ๊กองค์กรธุรกิจระดับกลางๆ ที่ต้องการทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพ และความสะดวกในการพกพาในระดับราคาที่ย่อมเยาลงมาจาก ExpertBook B7 หรือ B9 ที่เน้นน้ำหนักเบามากๆ
อย่างไรก็ตาม ดีไซน์ของ ExpertBook B5 Flip นี้ ยังคงเอกลักษณ์ของ ExpertBook ที่ให้ทั้งความเรียบหรู และความครบของการเชื่อมต่อมาให้ใช้งานเช่นเดิม โดยตัวเครื่องมากับสี Star Black ที่ออกโทนดำด้าน มีโลโก้ ASUS สีเงินจัดวางอยู่กึ่งกลางเช่นเดิม
ความพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาในกลุ่มโน้ตบุ๊กองค์กรยุคหลังที่มีการประชุมวิดีโอคอลกันบ่อยๆ ทำให้ทาง ASUS ได้ปรับตรงมุมที่เป็นสัญลักษณ์ของ ExpertBook ให้กลายเป็นจุดที่คอยส่งสัญญาณให้แก่เพื่อนร่วมงาน ว่าถ้ามีไฟสีแดงขึ้นแสดงว่ากำลังวิดีโอคอล หรือทำงานสำคัญอยู่อย่าเพิ่งรบกวนในเวลานี้ได้ด้วย
วัสดุตัวเครื่องที่ใช้งานเป็นอะลูมิเนียม ผสมแมกนีเซียมอัลลอย ขนาดของตัวเครื่องจะอยู่ที่ 323.4 x 223.1 x 17.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.38 กิโลกรัม ซึ่งจุดที่หนาที่สุดของเครื่องคือบริเวณพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ที่ให้มาอย่างครบถ้วน
ถัดมาที่หน้าจอเป็นจอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) ให้ความสว่างสูงสุด 400 nit ความละเอียดสี 100% sRGB โดยสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 85% ทำให้เห็นได้ว่าขอบจอค่อนข้างบาง
จุดที่น่าสนใจคือ บริเวณขอบจอด้านบนที่เป็นที่อยู่ของกล้องเว็บแคม 720p ที่มาพร้อมกับ Webcam Shield ที่เป็นม่านชัตเตอร์ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกปิดกล้องได้เมื่อไม่ต้องการใช้งานจากฮาร์ดแวร์ หรือเลือกใช้ซอฟต์แวร์ตัดการทำงานของกล้องก็ได้เช่นเดียวกัน
ในส่วนของแป้นคีย์บอร์ดที่ให้มาเป็นขนาด Full-Size ที่มีระยะปุ่มกด 1.5 มม. ทำให้การพิมพ์ทำได้อย่างสนุกมือ พร้อมกับมีไฟ backlit ทำให้สามารถใช้งานในที่มืดได้ โดยแถบด้านบนจะมากับปุ่มลัดเพื่อควบคุม และการตั้งค่าต่างๆ ทั้งเสียง ความสว่าง ต่อจอนอก ปิดกล้อง ปิดไมค์
พร้อมกันนี้ เมื่อเปิดหน้าจอ ExpertBook B5 Flip ขึ้นมาจะมี ErgoLift ทำให้องศาของแป้นพิมพ์สูงขึ้น รับกับข้อมือทำให้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ตามหลักของสรีรศาสตร์ซึ่งนับเป็นหนึ่งในจุดเด่นของโน้ตบุ๊ก ASUS
นอกจากนี้ ASUS ยังเพิ่ม ExpertWidget ที่ผู้ใช้สามารถเลือกกำหนดค่าพิเศษให้ปุ่มตัวเลข 1-4 ที่ล้อมด้วยสีฟ้าพร้อมกับปุ่ม Fn เพื่อตั้งค่าการทำงานของตัวเครื่อง หรือเลือกเปิดโฟลเดอร์ โปรแกรมที่ใช้งานเป็นประจำได้ด้วย
รวมถึงในส่วนของทัชแพดที่นอกจากใช้ควบคุมแล้ว ยังเป็น ASUS NumberPad 2.0 ให้สามารถป้อนตัวเลขได้สะดวกขึ้น สำหรับสายการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับการป้อนข้อมูลตัวเลขต่างๆ ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับทัชแพดได้ตามปกติ
ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อที่ให้มาทางฝั่งซ้ายจะมี Thunderbolt 4 ที่เป็น USB-C สามารถโอนถ่ายข้อมูลได้ที่ระดับ 40 Gbps หรือต่อจอนอกความละเอียด 4K รวมถึงช่องเสียบสายชาร์จ ตามมาด้วยพอร์ต LAN RJ45 ช่องเสียบ HDMI 2.0 และ USB-A 3.2 Gen 2 พร้อมปุ่มปรับระดับเสียง
ทางฝั่งขวาจะมีช่องเสียบสายล็อก Kensington แบบนาโน ช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ด USB-A 2.0 ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ปุ่มเปิดเครื่องที่มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และช่องเก็บปากกาสไตลัส
ต่อมาในแง่ของการเชื่อมต่อไร้สายตัวเครื่องรองรับ WiFi 6E ที่มาพร้อมกับ ASUS WiFi Master ที่จะช่วยให้ตัวเครื่องจับสัญญาณได้อย่างรวดเร็ว และมีความเสถียรให้ใช้งานเชิงธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีบลูทูธ 5.2 ให้เชื่อมต่อใช้งานด้วย
แบตเตอรี่ที่ให้มาขนาด 63WHrs เป็น Li-ion แบบ 3 เซลล์ ทาง ASUS เคลมว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมงในรุ่นเริ่มต้น ส่วนรุ่น Core i7-1260p ใช้งานได้ราว 8 ชั่วโมง ภายในกล่องให้อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 65W มาให้ สามารถชาร์จได้ 50% ภายใน 41 นาที พร้อมกับเมาส์ไร้สายให้ด้วย
Flip ใช้งานได้หลากหลายขึ้น
เมื่อตัวเครื่องมากับความสามารถในการพับได้ 360 องศา ตามชื่อรุ่น Flip ทำให้ในการใช้งานนอกจากใช้เป็นโน้ตบุ๊กเพื่อทำงานทั่วไปแล้ว ยังสามารถหมุนหน้าจอมาใช้ในการพรีเซ็นต์งานให้แก่ลูกค้า หรือจะพับกลับมาใช้งานเป็นแท็บเล็ตก็ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ เมื่อใช้งานร่วมกับปากกาสไตลัสที่สามารถรับแรงกดได้ 4096 ระดับ ทำให้ ASUS ExpertBook B5 Flip รุ่นนี้ สามารถใช้ในการเขียนเพื่อจดบันทึก หรือใช้สร้างสรรค์ไอเดียต่างๆ ได้สะดวกไม่ต่างจากการใช้งานแท็บเล็ต ช่วยให้รองรับการใช้งานได้ในหลายรูปแบบ
ตัวปากกาสไตลัสจะชาร์จแบตเมื่อเสียบกลับเข้าไปเก็บในเครื่องอัตโนมัติ โดยการชาร์จ 15 วินาที สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องอีก 45 นาที ดังนั้น ไม่ต้องกังวลว่าปากกาสไตลัสจะแบตหมดจนไม่ทันได้ใช้งาน
ในแง่ของการใช้งานด้วยการที่ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Microsoft Windows 11 Pro สำหรับภาคธุรกิจที่มีการออกแบบใหม่ให้ใช้งานได้เรียบง่าย และสะดวกขึ้น จากการที่มีเมนูแบบรวมศูนย์อยู่ตรงกลาง ทำให้การควบคุมต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น
รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่ให้มา เพราะตัวเครื่องยังสามารถเลือกให้รองรับการใช้งาน Windows Hello ที่ปลดล็อกด้วยใบหน้า ใช้งานควบคู่ไปกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้ด้วย
ขณะที่ในฝั่งของหน่วยประมวลผลเนื่องจากเป็นสินค้าในกลุ่มองค์กรธุรกิจ สามารถเลือกได้ว่าจะใช้งานร่วมกับ 12 Gen Intel Core i5-1240P หรือ Core i7-1260P แล้ว ถ้าต้องการความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ยังมีตัวเลือกอย่าง Intel vPro ทั้ง Core i5-1250P และ Core i7-1270P มาให้ด้วย
ส่วนรายละเอียดของ RAM จะรองรับ DDR5 8 GB สามารถใส่ใช้งานเพิ่มได้สูงสุด 32 GB ตามด้วยพื้นที่เก็บข้อมูลให้มาแบบ SSD คู่ สามารถทำ Raid 0,1 เพื่อสำรองข้อมูลได้ หรือใช้เก็บข้อมูลได้สูงสุด 2 TB
นอกจากนี้ ASUS ยังให้การรับประกัน 3 ปี Onsite Service พร้อม 3 ปี ประกัน 80 ประเทศทั่วโลก และ 1 ปี Perfect Warranty สำหรับประกันอุบัติเหตุด้วย
สรุป
ในซีรีส์ของ ASUS ExpertBook B5 ที่มีให้เลือกทั้งรุ่นปกติ และ B5 Flip ที่เป็นรุ่นพับได้ นับว่าเป็นตัวเลือกโน้ตบุ๊กในองค์กรธุรกิจที่รองรับการใช้งานได้หลากหลาย เนื่องจากให้ทั้งประสิทธิภาพในการทำงานที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ครอบคลุม พอร์ตเชื่อมต่อครบครัน และน้ำหนักเบาทำให้สามารถพกพาได้ง่าย
ความพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาของรุ่น B5 Flip จะเหมาะกับสายงานที่ต้องทำงานร่วมกับปากกาสไตลัส อย่างการดราฟต์ข้อมูล ร่างแบบเบื้องต้น หรือแม้แต่การคอมเมนต์งานเพื่อนำกลับไปแก้ไข ดังนั้นอาจจะเหมาะกับผู้บริหารระดับกลาง หรือสายงานที่ต้องทำพรีเซ็นต์เพิ่มเติมก็ได้เช่นกัน
ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นโน้ตบุ๊กองค์กรธุรกิจที่สามารถปรับแต่งสเปกได้ตามความต้องการขององค์กร โดย B5 Flip ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 43,000 บาท และไม่มีวางจำหน่ายตามช่องทางปกติ แนะนำให้สอบถามจากแผนกลูกค้าองค์กรของ ASUS ได้ที่ https://www.asus.com/th/business/ หรือกรณีที่ต้องการ ExpertBook B5 ซึ่งมีฟีเจอร์ และการทำงานที่ใกล้เคียงกันสามารถสั่งซื้อจาก ASUS Store ออนไลน์ได้ทันที
