ความต้องการสินค้าในกลุ่มคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปนั้น ถือว่ายังได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งกลุ่มผู้ปกครองที่ต้องการคอมพิวเตอร์ไว้ให้ลูกๆ ใช้งาน รวมถึงเป็นเครื่องหลักไว้ใช้งานในบ้านเพราะราคาที่คุ้มค่า ความทนทาน และการดูแลรักษาง่าย
ทำให้ในกลุ่มของผู้ประกอบการ SME ยังเลือกใช้เพราะสามารถคุมต้นทุนในการติดตั้งอุปกรณ์ได้และยังมากับการรับประกัน 3 ปีแบบ Onsite Service ที่ซ่อมถึงที่ไม่ยุ่งยาก
สำหรับ ASUS ExpertCenter S500TD ที่วางจำหน่ายในไทยจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ครอบคลุมตั้งแต่ 20,990-28,990 บาท โดยจะมีทั้งรุ่นที่ใช้งาน 12 Gen Intel Core i5 / Core i7 และเพิ่มการ์ดจอ NVIDIA GeForce GT730 มาให้เลือกใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเป็นองค์กรธุรกิจสามารถปรับแต่งสเปกหรืออัปเกรดเพิ่มเติมให้เหมาะกับการใช้งานได้ด้วย
ข้อดี
คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปพร้อมใช้งาน มากับคีย์บอร์ด-เมาส์ในกล่อง
ทำงานบน 12 Gen Intel Core i5/Core i7 รุ่นใหม่
ราคาไม่แพง ทนทานดูแลง่ายและประหยัดไฟ
สามารถอัปเกรดชิ้นส่วนภายในได้ง่ายๆ
ข้อสังเกต
เคสเครื่องดีไซน์เรียบๆ อาจทำให้โต๊ะดูแข็งขึ้นนิดหน่อย
ขาดพอร์ต USB-C มาให้ใช้งานแต่ยังมีพอร์ตให้ใช้ครบครัน
เสียงพัดลมค่อนข้างดัง เพื่อระบายความร้อนเวลาใช้งานหนักๆ
เหมาะสำหรับการทำงาน-ความบันเทิงทั่วไป
ASUS ExpertCenter S500TD รุ่นเริ่มต้นมากับสเปกที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป รองรับการทำการบ้าน เรียนออนไลน์ รวมถึงเพื่อความบันเทิง ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ก ดูหนัง ฟังเพลง ได้ลื่นไหลกับสเปก 12 Gen Intel Core i5-12400 ในราคา 20,990 บาท
กลับกันถ้าใช้งานหนักขึ้นมาหน่อย อย่างการนำไปใช้ทำงานหรือรองรับการอัปเกรดในอนาคตก็จะมีรุ่นตัวเลือกอย่าง ASUS ExpertCenter S500TD ที่เป็น 12 Gen Intel Core i7-12700 มาให้เลือกในราคา 28,990 บาท ซึ่งสามารถใส่การ์ดจอแยกเพิ่มเข้าไปให้รองรับการทำงานที่หลากหลายขึ้นได้
โดยในชุดจะมีทั้งคอมพิวเตอร์ เมาส์ คีย์บอร์ด และอะแดปเตอร์ไวไฟมาให้ด้วย ทำให้หากมีจอมอนิเตอร์เดิมอยู่แล้ว เพียงซื้อมาก็พร้อมใช้งานทันที เพราะเครื่องติดตั้งมา Windows 11 Home พร้อมใช้งาน นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ 5.2 ให้เราสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอย่างลำโพงบลูทูธ รีโมตเกม หรือแม้แต่ชุดคีย์บอร์ดไร้สายก็ตาม
พอร์ตเชื่อมต่อที่หลากหลาย
จากดีไซน์ของตัวเครื่องที่เป็นลักษณะของทาวเวอร์ทรงสูง โดยจะมีสัญลักษณ์ของ ASUS สีเงินที่บริเวณกึ่งกลางด้านล่าง และมีข้อดีที่ช่วยให้ใช้งานง่ายคือมีพอร์ต I/O ที่ให้มาแบบจัดเต็มครอบคลุมการใช้งานภายในบ้าน หรือสำนักงานได้อย่างหลากหลาย จะขาดก็เพียงพอร์ต USB-C สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทโฟนยุคใหม่ๆ เท่านั้น
ขนาดของ ASUS ExpertCenter S500TD จะอยู่ที่ 176 x 393 x 385 มม. น้ำหนักประมาณ 7.70 กิโลกรัม ซึ่งเหมาะกับการตั้งใช้งานตามจุดหรือสำนักงานได้เป็นอย่างดี
สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อที่มีมาให้จะมีทั้งในส่วนของด้านหน้า ไล่ตั้งแต่ช่องอ่านแผ่น CD/DVD ต่อมาด้วย USB 3.2 2 พอร์ต USB 2.0 2 พอร์ต ช่องเสียบหูฟัง ไมโครโฟน ยังมีช่องการ์ดรีดเดอร์มาให้ด้วย โดยพอร์ตที่อยู่ด้านหน้าจะเน้นให้ใช้งานได้สะดวก สามารถเสียบเข้า ถอดออกได้ง่ายๆ
ในส่วนของหลังเครื่อง จะมีพอร์ตเพิ่มเติมอย่างช่อง PS/2 สำหรับต่อเมาส์ และคีย์บอร์ด ช่องต่อจอที่มีทั้ง VGA Display Port และ HDMI พร้อม USB 3.2 อีก 2 พอร์ต USB 2.0 อีก 2 พอร์ต ช่องเสียบสาย LAN และช่องเชื่อมต่อไมโครโฟน ลำโพง รวมถึง Parallel และ Serial พอร์ต ในกรณีที่มีอุปกรณ์เก่าใช้งานอยู่ ทำให้สามารถใช้งานได้ครบถ้วนมาก
ภายในมีการนำระบบระบายความร้อนแบบใหม่มาช่วย รวมถึงสามารถควบคุมความแรงของพัดลมได้จากโปรแกรม MyASUS ที่จะช่วยควบคุมให้ใช้งานเครื่องได้เต็มประสิทธิภาพ พร้อมกับระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี จากการนำลมจากหน้า และข้างเครื่องเข้าไประบายออกด้านหลัง
นอกจากนี้ ด้วยเมนบอร์ดที่ออกแบบมาเฉพาะทำให้สามารถอัปเกรดอุปกรณ์ภายในบางส่วนอย่างการเพิ่ม RAM หรือ HDD เข้าไป รวมถึงช่องต่อ SSD M.2 PCIe 4.0 PCIe 3.2 ต่างๆ ด้วย ซึ่งถ้าต้องการเพิ่มการ์ดจอก็ควรเลือกที่รองรับกับ Power Supply ที่ให้มาด้วย
เบื้องต้น ทางเอซุส มีวางจำหน่าย ASUS ExpertCenter S500TD ด้วยกัน 3 รุ่นย่อย โดยจะมีความต่างที่ซีพียู การ์ดจอ และ Power Supply โดยในรุ่นเริ่มต้นจะมากับ 200W เท่านั้น ก่อนขยับมาเป็น 300W และ 500W เพื่อให้ทั้งซีพียู และจีพียูทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
ฟีเจอร์เพิ่มเติม
ภายใน ASUS ExpertCenter S500TD ยังมากับความสามารถใหม่ที่มาพร้อม 12 Gen Intel ที่เข้ามาช่วยประมวลผลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตัดเสียงรบกวนสำหรับการประชุมวิดีโอคอลล์ หรือเรียนออนไลน์ ทั้งจากฝั่งของผู้ใช้ และคู่สนทนา
ยังมีเครื่องมือช่วยเหลือเพิ่มเติมอย่าง myASUS ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ใช้ตรวจสอบตัวเครื่องที่ใช้งาน (System Diagnosis) จนถึงการอัปเดตเฟิร์มแวร์ และไดรเวอร์ต่างๆ ภายในตัวเครื่อง หรือถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานภายในองค์กร ผู้ดูแลระบบจะสามารถควบคุมได้ผ่าน ASUS Control Center และ ASUS Business Manager ให้ใช้งานเพิ่มเติมด้วย
ทดสอบประสิทธิภาพ
สำหรับ ASUS ExpertCenter S500TD รุ่นที่ได้มาทดสอบจะทำงานบน 12Gen Intel Core i7 12700 กราฟิกเป็น Intel UHD 770 RAM 8 GB SSD 512 GB รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 6 และบลูทูธ 5.2 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home
เท่าที่ทดสอบใช้งานทั่วไป ต้องยอมรับว่าด้วยหน่วยประมวลผล 12Gen Intel Core i7 กับ Power Supply ที่ให้มาขนาด 500W ทำให้สามารถรีดประสิทธิภาพในการทำงานออกมาได้อย่างน่าสนใจ รองรับการใช้งานทั่วๆ ไป จนถึงการประมวลผลหนักๆ ในการทำงานผ่านชุดโปรแกรม Microsoft 365 หรือแม้แต่การใช้งานร่วมกับ Adobe Photoshop หรือ Lightroom ได้สบายๆ
ในแง่ของความบันเทิงสามารถเล่นไฟล์ระดับ 4K ได้อย่างลื่นไหล ซึ่งสามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ไปยังจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ หรือโทรทัศน์เพื่อใช้งานให้ได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดก็ได้เช่นเดียวกัน แต่ในแง่ของการเล่นเกมเนื่องจากไม่ได้มีการ์ดจอแยกมา ทำให้เล่นเกมสตรีมมิ่งทั่วไปได้ แต่จะไม่สามารถปรับให้ความละเอียดสูงสุดได้
สรุป
ASUS ExpertCenter S500TD จะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาคอมพิวเตอร์อเนกประสงค์ไว้ใช้งานภายในบ้าน หรือสำนักงาน ที่เน้นการใช้งานทั่วไปเป็นหลัก เพราะด้วยระดับราคาเริ่มต้นที่ 20,990 บาท อยู่ในช่วงที่ไม่สูงจนเกินไป เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้มา
ที่สำคัญคือมากับการรับประกัน ASUS Premium Care ที่เป็น Onsite Service 3 ปี ซ่อมถึงที่เมื่อเครื่องมีปัญหา และ Perfect Warranty ป้องกันอุบัติเหตุ น้ำหกใส่ ไฟฟ้าลัดวงจร เครื่องตกหล่น ในช่วง 1 ปี แรก และยังมีบริการช่วยเหลือผ่านการแชตออนไลน์เพิ่มเติมด้วย
